“ทางนั้นพบพวกเรานานแล้ว…”
สำหรับประโยคเมื่อครู่ พวกเธอเคยพูดในสิ่งที่คล้ายกันมาก่อน แต่ความหมายของในอดีตกับปัจจุบันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ในตอนนั้น การถูกพบตัวหมายถึง อีกฝ่ายรู้เรื่องที่ตนเข้าไปตรวจสอบเชอร์มาเน่ภายในรถม้า แต่ปัจจุบัน อีกฝ่ายทราบมาตลอดว่าพวกตนสะกดรอยตามไวเคาต์สตาร์ฟอร์ด และถูกใช้เป็นหนึ่งในหมากของแผนการ
กล่าวอีกนัยหนึ่ง โอกาสที่ซิลรอคอยมานาอาจมีอยู่จริง แต่ไม่มีใครสามารถคาดเดาเหตุการณ์หลังจากนั้น
“ถ้าเราทำในสิ่งที่ผู้ส่งข้อความบอก ท้ายที่สุด ชะตากรรมของเราจะขึ้นอยู่กับอีกฝ่าย ต้องวัดใจว่าหล่อนมีเจตนาดีหรือร้าย เป็นทางเลือกที่พวกเราไม่สามารถกำหนดผลลัพธ์” ซิลเสริมด้วยมุมมองที่เยือกเย็น
เหตุผลที่ซิลใช้ ‘หล่อน’ เป็นตัวแทนผู้ส่งข้อความ เพราะเธอนึกถึงกลิ่นหอมหวานอันเย้ายวนในตอนที่คลาดกับเชอร์แมน
ฟอร์สที่ฟังอยู่เงียบๆ พยักหน้ารับเห็นด้วย
“ใช่แล้ว พวกเราแทบไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ทางที่ดีที่สุดคือถอนตัว…”
ยังไม่ทันสิ้นเสียง เธอมองไปทางโกดังและอ้าปาก แต่ไม่มีประโยคใดถูกเพิ่มเข้ามา
ฟอร์สกำลังประเมินสภาพปัจจุบันของเชอร์แมน และค่อนข้างมั่นใจว่า ‘เขา’ กำลังอยู่ในอันตรายร้ายแรง แต่สุดท้ายก็จงใจไม่พูดออกมา ไม่เอ่ยถึงมัน
สำหรับฟอร์ส เชอร์แมนเป็นเพียงตัวละครในเรื่องเล่าจองซิล เฉกเช่นตัวละครในนิยาย หากอีกฝ่ายกำลังลำบากและเธอสามารถช่วยได้โดยไม่เหลือบ่ากว่าแรง ฟอร์สยินดีจะทำ แต่ถ้าการช่วยเหลือทำให้ตัวเองและเพื่อนสนิทต้องเสียงอันตราย ฟอร์สจะไม่พิจารณาความเป็นไปได้แม้แต่น้อย
ซิลพยักหน้าและกล่าว
“ตกลง พวกเราจะถอนตัว… แต่ผู้ส่งข้อความต้องไม่พอใจกับผลลัพธ์นี้แน่ หล่อนอาจขัดขวางเรา… ดังนั้น เราสองคนจะแยกกันหนี ให้อีกฝ่ายเลือกตามได้เพียงคนเดียว คนที่หนีสำเร็จให้รีบสร้างความวุ่นวายเพื่อดึงดูดผู้วิเศษของทางการ”
“แล้วทำไมพวกเราถึงไม่สร้างความวุ่นวายขึ้นที่นี่เลย?” ฟอร์สถามตามความเคยชิน
“ความพยายามของพวกเราจะถูกขัดขวางหรือไม่ก็ถูกทำลายทิ้ง!” ซิลให้เหตุผล
ฟอร์สพยักหน้าครุ่นคิด
“สมเหตุสมผล… ตกลง เลิกผัดวันประกันพรุ่ง… มาเริ่มกันเลย”
ซิลไม่กล่าวคำใด เพียงนำมีดสามคมที่โปร่งใสจนเกือบมองไม่เห็นออกมาถือ โน้มตัวลงต่ำประหนึ่งแมวเตรียมตะครุบเหยื่อ กระโจนออกจากจุดซ่อนตัวและหนีไปตามกำบังที่มีเงาปกคลุม เป้าหมายคือการออกนอกเขตท่าเรือ
มีดสามคมที่เธอกำลังถือ ซิลจ้างงานผ่านมาดามเฮอร์มิทในราคาห้าร้อยปอนด์ ให้อีกฝ่ายช่วยติดต่อช่างฝีมือเพื่อสร้างมีดจากละอองวิญญาณของวิญญาณอาฆาตโบราณ ชื่อของมันคือ ‘มีดเหมันต์’
ใครก็ตามที่โดนอาวุธนี้แทง แม้จะถากๆ เป้าหมายจะถูกความเยือกแข็งปกคลุม แม้แต่ความคิดตัวเองก็ควบคุมไม่ได้ ประหนึ่งถูกวิญญาณอาฆาตสิงร่าง ขณะเดียวกัน เมื่อการต่อสู้ดำเนินไป ศัตรูของผู้ถือมีดเหมันต์เล่มนี้จะพบว่าสติของตัวเองค่อยๆ ฝืดเคือง การเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างเฉื่อยชา
ผลข้างเคียงด้านลบของมีดเหมันต์ไม่ร้ายแรงนัก และมีเพียงข้อเดียว นั่นคือการทำให้ผู้ถือค่อยๆ สูญเสียอุณหภูมิร่างกาย สุดท้ายจะกลายเป็นอันเดดโดยสมบูรณ์ หากปล่อยให้ผลกระทบส่งผลนานเกินกำหนด ร่างกายจะตกอยู่ในสภาพดังกล่าวชนิดที่ไม่มีวันฟื้นฟูกลับมาได้
ดันงั้น ซิลจึงมีความกระตือรือร้นที่จะวิ่งหรือปั่นจักรยานหนักๆ เพื่อรักษาอุณหภูมิร่างกายเอาไว้
แต่ถึงอย่างนั้น ระยะเวลาการใช้งานมีดเหมันต์ก็เพิ่มขึ้นไม่มาก จากสามเป็นสี่ชั่วโมง
หลังจากวิ่งออกมาไกล ซิลหันหลังกลับไปมอง พบว่าฟอร์สดินทะลุกำแพงไปแล้ว หายตัวไปจากจุดเดิมที่ทั้งสองเคยซ่อนตัว
จ้องค้างสองวินาที ซิลเม้มริมฝีปากแผ่วเบา หันหน้าและเปลี่ยนทิศทาง
เธอตรงไปทางโกดัง!
เพียงพริบตา เธอมาถึงด้านหน้าโกดัง แต่ยังไม่รีบร้อนตรงเข้าไป พยายามมองขึ้นด้านบน คล้ายกับกำลังหาลู่ทางอื่นที่ไม่ทำให้คนข้างในไหวตัว
ทันใดนั้น หญิงสาวเอียงคอตามสัญชาตญาณ หันไปทางมุมหนึ่งของกำแพงและพบกับร่างหนึ่งสว่างขึ้น
บุคคลดังกล่าวสวมเดรสยาวสีดำ ผมสีน้ำตาลหยักศกเล็กน้อย ดวงตาสีฟ้าอ่อน ไม่ใช่ใครนอกจากฟอร์ส·วอลล์
“ไม่หนีหรือ?” ซิลประหลาดใจ ลดเสียงลง
ฟอร์สขดริมฝีปากและกล่าว
“เธอก็ไม่หนีเหมือนกัน”
ซิลเถียงไม่ออกไปสักพัก ก่อนจะถามหลังจากผ่านไปสองสามวินาที
“รู้ตัวตั้งแต่ตอนไหน?”
“เธอไม่ได้เอ่ยชื่อเชอร์แมนออกมาสักคำเดียว นั่นมันผิดวิสัยมาก! ฉันอุตส่าห์เตรียมประโยคเกลี้ยกล่อมไว้ในหัวมากมาย!” ฟอร์สตอบฉะฉาน
“…” ซิลผงะเล็กน้อย กล่าวด้วยสีหน้าซับซ้อน “เธอไม่จำเป็นต้องกลับมาก็ได้”
ฟอร์สทำเป็นไม่ได้ยิน นำมือทาบลงบนผนังโกดัง
“ถ้าเรามัวแต่เถียงกัน อีกสักพักคงเปล่าประโยชน์ เพราะเหตุการณ์ข้างในได้จบลงไปแล้ว… ให้ตายสิ ฉันเองก็ไม่คิดว่าวิธีนี้ดีที่สุด แต่เธอก็คงคัดค้านและยืนกรานจะช่วยเชอร์แมน ห้ามเท่าไรก็คงไม่ฟัง สุดท้ายหลังจากพวกเราเสียเวลาเถียงกัน บทสรุปก็จะจบลงแบบเดิมๆ”
ซิลมองหน้าเพื่อนสนิทด้วยแววตาซับซ้อน กำด้ามมีดเหมันต์แน่นโดยปราศจากความลังเล
ฟอร์สพลิกหน้า ‘บันทึกการเดินทางของเลมาโน่’ ทันที แจกจ่ายพรวิเศษบางชนิดกับตนและเพื่อสนิท จากนั้นก็ปิดสมุดเวทมนตร์ จับแขนวิลและวางมือลงบนผนังอีกครั้ง
ซิลที่กำลังรอให้ฟอร์ส ‘เปิดประตู’ เธอพบว่าเพื่อนสนิทของตนไม่รีบร้อนใช้พลัง
นักเขียนนิยายขายดีถอนหายใจ กล่าวรีบๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ