ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ นิยาย บท 1022

ราชันเร้นลับ 1,022 : คำตอบ
ท่ามกลางพายุทอร์นาโดโหมกระหน่ำ ไวเคาต์สตาร์ฟอร์ดเปรียบดังใบไม้ไร้ทิศทาง พร้อมจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆ ได้ทุกเมื่อ

ในสภาพปัจจุบัน มันมิอาจตอบสนองใดๆ ได้เลย ไม่ต้องพูดถึงการพูดคุย ทำได้เพียงอาศัยความแข็งแกร่งทางร่างกายของ ‘อัศวินวินัย’ เพื่อต้านรับความเสียหายอันหนักหน่วง และภาวนาให้ไม่สูญเสียแขนขาหรือสมองไปกับพายุทอร์นาโดอันทรงพลัง

เดิมที มันเข้าใจว่าการล่าประสบความสำเร็จแล้ว รอเพียงทริสซี่ถูกจับกุม และมั่นใจว่าอีกฝ่ายไม่มีผู้ช่วย ความสนใจของมันจึงมุ่งไปยังเชอร์มาเน่โดยไม่ระวัง แต่กลับกลายเป็นว่า มันถูกลอบจู่โจมทีเผลอ ดำดิ่งสู่ก้นหลุมพรางที่ไม่คาดคิด

เมื่อพบว่าพายุทอร์นาโดเริ่มอ่อนกำลังลง และตัวเองเพิ่งได้รับความเสียหายอย่างจังจากการกระแทกแค่ครั้งเดียว ไม่มีบาดแผลฉกรรจ์ในจุดอื่น ไวเคาต์สตาร์ฟอร์ดพยายามควบคุมร่างกายตัวเอง เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ในยกถัดไป

ทันใดนั้น ศีรษะของมันรู้สึกปวดแปลบกะทันหัน คล้ายกับว่ามีมีดคมๆ เสียบเข้าไปและคนกวนสมองสองสามครั้ง

ความรู้สึกเช่นนี้ ไวเคาต์สตาร์ฟอร์ดทั้งคุ้นและไม่คุ้นเคย เพราะแม้มันจะไม่เคยลิ้มรสด้วยตัวเอง แต่เคยก็ ‘กระทำ’ กับผู้อื่นหลายครั้งพลางสังเกตท่าทีตอบสนองของเหยื่อ

นี่คือหนึ่งในพลังที่มันชำนาญที่สุด:

ทะลวงจิต!

โครม!

เนื่องจากถูกโจมตีซ้ำ ไวเคาต์สตาร์ฟอร์ดที่ยังปรับสภาพร่างกายไม่ได้ ร่วงหล่นกระแทกพื้นอย่างรุนแรงจนไม้กางเขนสีทองแดงกระดำกระด่างหลุดมือและกระเด็นไปบนพื้นหลายเมตร

กึก กึก กึก ซิลถือมีดเหมันต์พร้อมกับปรี่เข้าหาไวเคาต์สตาร์ฟอร์ดที่กำลังมึนงงด้วยความเร็วสูง

สำหรับฟอร์ส ก่อนที่ซิลจะพุ่งเข้าหาศัตรู เธอรีบพลิกหน้า ‘บันทึกการเดินทางของเลมาโน่’ ไปยังแผ่นกระดาษที่มีผิวเหมือนหนังสัตว์

หลังจากลูบไล้ปลายนิ้วลงบนกระดาษ เงาดำรอบๆ ไวเคาต์สตาร์ฟอร์ดคล้ายกับมีชีวิตขึ้นมา รวมตัวกันกลายเป็นโซ่สีดำหลายเส้นและพันธนาการร่างเหยื่อ

แม้ไวเคาต์สตาร์ฟอร์ดจะฟื้นคืนสติได้หลายส่วน แต่ยังไม่ทันจะได้เลือกเป้าหมายสำหรับ ‘ลงทัณฑ์’ และตั้งกฎบางอย่างให้กับสภาพแวดล้อม มันถูกปิดตายอิสรภาพโดยสมบูรณ์อีกครั้ง แม้กระทั่งปากก็ถูกผนึกแน่น

ตรวนนรก!

ตรวนนรกของผีดูดเลือดหรือผู้วิเศษเส้นทางจันทราในลำดับกลาง!

ฟอร์สที่เคยใช้งานมาแล้วครั้งหนึ่ง เกิดติดใจพลังชนิดนี้มาก เพราะเธอมองว่าตรวนนรกมีอรรถประโยชน์หลากหลายในการต่อสู้ ในภายหลังจึงว่าจ้างให้มิสเตอร์มูนที่กลายเป็นไวเคาต์ ช่วยบันทึกมันลงไปเรื่อยๆ

บึ้ม!

ทันใดนั้น ไวเคาต์สตาร์ฟอร์ดระเบิดพลังที่มันไม่เคยแสดงให้เห็นมาก่อน บดขยี้ตรวนนรกจนแหลกละเอียดไม่เหลือชิ้นดี

มันเลือกใช้พลัง ‘ลงทัณฑ์’ ไปกับตรวนนรกที่พัฒนาการตัวเอง!

แต่ในวินาทีเดียวกัน ซิลพุ่งเข้าใส่อีกฝ่ายประหนึ่งหัวรถจักรไอน้ำที่วิ่งเต็มกำลัง จ้วงแทงมีสามคมสีใสในมืออย่างชำนาญ

ท่ามกลางเสียงเนื้อถูกเสียบ มีดเหมันต์ทะลวงเข้าไปในช่องท้องส่วนล่างของเป้าหมาย

ร่างของไวเคาต์สตาร์ฟอร์ดพลันแข็งทื่อ แววตาเริ่มหมองคล้ำ ลำตัวไม่ขยับเขยื้อนราวกับกลายเป็นประติมากรรมน้ำแข็ง

ซิลปล่อยมือออก ทิ้งให้มีดเหมันต์คาอยู่ในท้องของหัวหน้าราชองครักษ์ คล้ายกับต้องการให้วิญญาณอาฆาตภายในมีดช่วย ‘สิง’ ร่างอีกฝ่าย ปิดผนึกการเคลื่อนไหวโดยสมบูรณ์

ทันทีหลังจากนั้น ซิลง้างหมัดและชกเข้าไปที่กกหูของไวเคาต์สตาร์ฟอร์ด

ภายใต้แรงปะทะอันหนักหน่วงสองครั้ง ไวเคาต์สตาร์ฟอร์ดหมดสติโดยไม่แม้แต่จะส่งเสียงร้อง ร่างกายทรุดลงอย่างไร้เรี่ยวแรง

หลังจากปล่อยหมัด ซิลฝากให้ฟอร์สช่วยจัดการต่อ ส่วนเธอวิ่งผ่านไวเคาต์สตาร์ฟอร์ดที่มีมีดเหมันต์ปักอยู่ในท้อง ตรงไปหาเชอร์มาเน่ที่ยังคงนั่งบนลังไม้

ฟอร์สพลิกหน้า ‘บันทึกการเดินทางของเลมาโน่’ อีกครั้ง ใช้พลังสายพันธนาการเพื่อผนึกไวเคาต์สตาร์ฟอร์ดให้แน่นิ่งยิ่งกว่าเก่า จากนั้นก็เดินออกจากแนวลังไม้ที่ซ่อนตัว ขยับเข้าไปใกล้ไม้กางเขนสีทองแดงกระดำกระด่าง

ฉากเมื่อครู่ทำให้เธอค่อนข้างมั่นใจ วัตถุชิ้นนี้ต้องเป็นสมบัติวิเศษระดับครึ่งเทพ หรือตามหลักของผู้วิเศษทางการ มันควรถูกเรียกว่า ‘สมบัติปิดผนึกระดับ 1’

และเนื่องจากได้เห็นไวเคาต์สตาร์ฟอร์ดถือมันพร้อมกับใช้งานเป็นเวลานาน ฟอร์สเชื่อว่าผลข้างเคียงด้านลบคงไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นในทันที สามารถลองหยิบจับขึ้นมาทดสอบได้

แน่นอน ในฐานะอดีตโหราจารย์ที่ย่อยโอสถสมบูรณ์ ระหว่างทางที่เดินไป ฟอร์สควักลูกแก้วคริสตัลออกมาทำนายดวงอย่างรวดเร็ว

“ไม่มีอันตราย…” ฟอร์สชำเลืองมองผลลัพธ์ ตามด้วยเร่งฝีเท้า

ขณะเดียวกัน ซิลวิ่งมาถึงด้านหน้าเชอร์มาเน่และยืนมองเพื่อนของตนที่สวยขึ้นจนผิดหูผิดตา หมดคำจะกล่าวไปสักพัก

ในสายตาซิล สภาพปัจจุบันของเชอร์มาเน่เข้าขั้นวิกฤติ

เส้นผมของแม่มดรายนี้ล้วนชี้ขึ้นทุกทิศในลักษณะจับกลุ่มหนา ดูคล้ายกับงูตัวเล็ก

สุดปลาย ‘งู’ ตัวเล็กๆ เหล่านี้ บ้างมีตาโต บ้างอ้าปากกว้าง ทั้งแปลกประหลาดและน่ากลัว

บนใบหน้าของเชอร์มาเน่ ลวดลายลึกลับสีดำผุดขึ้นจากผิว จากนั้นก็แพร่กระจายไปยังทุกส่วนของร่างกายอย่างรวดเร็ว

ดวงตาที่ค่อนข้างเหม่อลอยของหญิงสาวเริ่มสะท้อนใบหน้าซิล สติค่อยๆ กลับคืนมาทีละนิด เกิดขึ้นพร้อมกับความสับสนและเจ็บปวด

เธอเปิดปากพูดอย่างตะกุกตะกัก

“ซิล… ฉันเจ็บปวด…”

ดวงตาของซิลพลันพร่ามัว

เธออาจจะมีความรู้ด้านศาสตร์เร้นลับไม่มาก เพราะแทบไม่เข้าใจบทสนทนาของสมาชิกชุมนุมทาโรต์เลย คนเหล่านั้นเอาแต่พูดถึงสิ่งมีชีวิตระดับสูงและเรื่องเข้าใจยากๆ และทางคนของ MI9 ก็เอาแต่ป้อนข้อมูลเกี่ยวกับองค์กรลับนอกรีต แต่อย่างน้อย ซิลก็ยังพอจะมีความรู้ด้านการคลุ้มคลั่ง – สำหรับผู้วิเศษไร้สังกัด นี่คือสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้

ดังนั้น ซิลจึงพอจะทราบว่า สภาพปัจจุบันของเชอร์มาเน่คือภาวะเริ่มต้นของอาการคลุ้มคลั่ง ไม่สามารถย้อนกลับได้อีกแล้ว มีแต่จะทวีความโหดร้ายขึ้นทุกขณะ

ทางด้านเชอร์มาเน่เองก็ดูเหมือนจะยอมรับสภาพ สูดลมหายใจเล็กน้อย เผยรอยยิ้มขื่นขมและกล่าวด้วยความยากลำบาก

“ฆ่าฉัน… บาปของฉันมีมากเกินไป… และฉันก็… ทำตามความฝัน… สำเร็จแล้ว”

น้ำตาของซิลไหลอาบสองแก้ม รีบลงมือโดยปราศจากความลังเล ตวัดมือชักอาวุธสำรองซึ่งเป็นปืนลูกโม่แสนธรรมดากระบอกหนึ่ง

ปากกระบอกถูกเลื่อนไปยังกึ่งกลางหน้าผากเชอร์มาเน่

เชอร์มาเน่ยิ้มด้วยดวงตาสดใสและเปี่ยมเสน่ห์

“ได้โปรด… เรียกฉันว่า… เชอร์มาเน่…”

“เชอร์มาเน่” ใบหน้าซิลบิดเบี้ยวอย่างมิอาจควบคุม ดวงตาพร่ามัวสถานหนัก

ปัง! ปัง! ปัง!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ