สองสามวินาทีถัดมา มันหันไปเห็นโต๊ะทองแดงยาวและร่างวิญญาณของมิสจัสติสกับเลียวนาร์ดที่ค่อยๆ คมชัดขึ้นโดยมีสายหมอกแผ่นบางๆ ห่อหุ้มเอาไว้ แต่ก็ยังไม่คมชัดเสียทีเดียว
จนกระทั่งสายหมอกบางๆ คลายออกจากร่างทั้งสองและร่วงหล่นกลับสู่ ‘พื้น’ ไคลน์ตั้งคำถาม
“ตอนนี้รู้สึกยังไงกันบ้าง”
มันถามด้วยสำเนียงของเกอร์มัน·สแปร์โรว์ แต่ทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้ว่าทั้งสองคนเคยได้ยินเสียงพึมพำในหัวตน เคยได้ยินนิสัยที่ชอบวิเคราะห์และนิสัยที่ชอบจิกกัดเลียวนาร์ด ส่งผลให้ภาพลักษณ์อันดีงามในสายตามิสจัสติสมีอันต้องป่นปี้
ทั้งหมดเป็นความผิดของเลียวนาร์ด! เฮ้อ… ไม่เพียงเราจะทำตามคำแนะนำแพทย์ที่ห้ามสวมหน้ากากหนาๆ แต่คราวนี้แม้แต่หน้ากากแผ่นบางเฉียบก็ไม่ได้สวม… ท่ามกลางความคิดที่ล่องลอย ไคลน์สลัดเรื่องไร้สาระและมองไปรอบๆ
มันยังไม่หายกังวลว่าความคิดของตนอาจ ‘ส่งเสียงดัง’
โชคดีที่พวกมันออกจากโถงแห่งความจริงมาแล้ว ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกเล่นงานด้วย ‘เวทมนตร์’ ที่ไม่มีทางแก้ไขหรือรับมือ
ค่อนข้างชัดเจนว่าทั้งออเดรย์และเลียวนาร์ดยังเหลือ ‘แผลใจ’ จากความเครียดที่เกิดขึ้น รายหนึ่งเม้มปากแน่น ส่วนอีกรายนั่งหลังตรงพร้อมกับทำสีหน้าครุ่นคิด
ผ่านไปสองสามวินาที พวกมันเพิ่งตระหนักว่าถูกมิสเตอร์เวิร์ลตั้งคำถาม จึงรีบหันกลับมาสนใจสิ่งรอบๆ ตัว
“ดิฉันสัมผัสได้ว่ามีบางสิ่งถูกชำระล้างออกไป… ก่อนหน้านี้เคยรู้สึกอย่างเลือนรางว่าจิตใจค่อยๆ แบ่งออกเป็นสองตัวตน… ไม่สิ… ไม่ใช้การแบ่งจิตใจออกเป็นสอง แต่เหมือนกับมีจิตใต้สำนึกใหม่ตื่นขึ้นภายในร่างกาย… แต่ตอนนี้หายไปแล้ว… มิสเตอร์ฟูลจงเจริญ!” ออเดรย์สามารถวิเคราะห์อาการทางจิตของตนได้อย่างเป็นมืออาชีพ ตามด้วยการแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจ
ขอรับไว้ด้วยความยินดี… ไม่สิ นั่นเป็นความคิดที่อันตรายมาก โชคดีที่มิสจัสติสกับเลียวนาร์ดได้คิดถึงเดอะฟูลขณะอยู่ในโถงแห่งความจริง ไม่อย่างนั้นต้องมีสักครั้งที่เราพลาดไปตอบสนองการเรียกหาของพวกเขา… และนั่นจะหมายถึงจุดจบทันที… ความอับอายคงปะทุขึ้นในใจเราอย่างรุนแรงจนคลุ้มคลั่งคาที่ กลายเป็นกลุ่มก้อนของหนอนแห่งวิญญาณ… ไคลน์ไตร่ตรองสักพักก่อนจะตอบกลับ
“มิสเตอร์ฟูลจงเจริญ!”
“…มิสเตอร์ฟูลจงเจริญ” ในฐานะสาวกของเทพธิดารัตติกาล เลียวนาร์ดลังเลเล็กน้อยที่จะสรรเสริญ จึงรีบเปลี่ยนหัวข้อ “ตอนนี้ผมไม่เป็นอะไรแล้วเช่นกัน… แต่เมื่อครู่ผมได้ยินเสียงเรียกหาจากด้านหลังประตูทองแดง พวกคุณเป็นกันไหม?”
เมื่อเห็นว่าเลียวนาร์ดเองก็กลับเป็นปรกติ ไคลน์วางไม้กางเขนเจิดจรัสและขวดโลหะบรรจุเลือดลงบนโต๊ะทองแดงยาวตรงหน้า
“ผมก็รู้สึกแบบเดียวกัน” มันช่วยสนับสนุน
“ฉันด้วย… และนั่นไม่ใช่ภาพลวงตาอย่างแน่นอน สามารถยืนยันได้ด้วยการวิเคราะห์จิตใจตัวเอง” ออเดรย์กล่าวเสียงชัดอย่างมั่นใจ
เลียวนาร์ดยกมือขึ้นมาลูบคาง
“ถ้าอย่างนั้นมันคืออะไร? สิ่งที่เทพบรรพกาลถึงกับลงทุนผนึกไว้ด้านหลังบัลลังก์ของท่าน…”
หลังจากผ่านโถงแห่งความจริงมาด้วยกัน มันรู้สึกว่าภาพลักษณ์ของตนในสายตามิสจัสติสคงป่นปี้ไม่เหลือชิ้นดี จึงวางตัวสบายๆ มากขึ้น
“พวกเราน่าจะลองวิเคราะห์กันดู…” ออเดรย์ชำเลืองไปทางเดอะเวิร์ล
เธอค่อนข้างประทับใจในทักษะการรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลและเชื่อมโยงในเวลาสั้นๆ ของชายคนนี้
ไคลน์ไตร่ตรองสองสามวินาทีและกล่าวลอยๆ โดยไม่มีหลักฐานสนับสนุน
“มีความเป็นไปได้อยู่สามทาง… ความเป็นไปได้แรก สิ่งนั้นคือตัวตนที่ทรงพลังจากยุคสมัยที่สองซึ่งมีลำดับใกล้เคียง 0 และมังกรจินตภาพ แอนเคอร์เวลเลือกจะผนึกมันไว้ใต้เมืองแห่งปาฏิหาริย์ เลฟซิด แต่ผมคิดว่าโอกาสเป็นเรื่องนี้ค่อนข้างต่ำ เพราะเทพบรรพกาลรายนี้ลงทุนสร้างหนังสือขึ้นและนำเมืองเลฟซิดมายัดไว้ด้วยเหตุผลที่ต้องการ ‘ควบคุม’ โลกภายในหนังสือและโลกความจริงไปพร้อมกัน ดังนั้นจึงไม่น่าจะใส่ปัจจัยอันตรายที่ควบคุมไม่ได้เพิ่มเข้ามาเป็นเวลานาน”
“ใช่… แม้แต่พวกเรายังรู้ว่านั่นจะกลายเป็นปัญหา นับประสาอะไรกับเทพบรรพกาล” ออเดรย์พยักหน้าพลางช่วยเดอะเวิร์ลวิเคราะห์อย่างจริงจัง
ในเวลาเดียวกัน เลียวนาร์ดหัวเราะแห้งและพูด
“บางทีเทพบรรพกาลอย่างมังกรจินตภาพคงมองเห็นอนาคตและเชื่อว่าสิ่งที่ถูกผนึกไว้จะช่วยให้ท่านบรรลุวัตถุประสงค์?”
“ผมก็แค่บอกว่ามันมีโอกาสเป็นไปได้ แต่น้อยมาก…” ไคลน์ตอบอย่างสุขุม “ความเป็นไปได้ที่สองก็คือ สิ่งที่ถูกผนึกไว้ด้านหลังประตูคือกุญแจสำคัญสำหรับแผนการของมังกรจินตภาพ แอนเคอร์เวล… ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหนังสือเล่มนี้และ 0-08 ได้โคจรมาพบกัน ผนึกจะถูกทำลายและส่งผลให้สิ่งกล่าวปรากฏตัวบนโลกความจริง สร้างความเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่เทพบรรพกาลปรารถนา… ผมเชื่อว่าเรื่องนี้มีโอกาสเป็นไปได้มากที่สุด”
และอาจเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของมังกรแห่งปัญญา
“หรือว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่มิสเตอร์ฟูลเคยเล่าให้ฟัง? หลังจากครอบครอง 0-08 อาดัมก็เข้าใกล้ความเป็นเทพมากขึ้นอีกหนึ่งก้าว ส่งผลให้กระแสเวลาเกิดการเปลี่ยนผัน… หรือกำลังจะบอกว่าอาดัมรวบรวมวัตถุดิบครบแล้วและรอให้พิธีกรรมเสร็จสมบูรณ์? ดิฉันเข้าใจตรงไหนผิดไปรึเปล่า?” ออเดรย์แสดงทรรศนะ
“ผมเองก็ไม่มั่นใจ… ไว้จะหาโอกาสสวดวิงวอนถามหาคำตอบจากมิสเตอร์ฟูล” ไคลน์ไม่กล้าฟันธง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ