ไม่ว่าจะไคลน์หรือเลียวนาร์ด ทั้งคู่ต่างทวนคำถามของมิสจัสติสภายในใจ
ลำพังเรื่องที่ภาพจิตรกรรมฝั่งขวาเป็นตัวกำหนดเรื่องราวของโลกในหนังสือก็นับว่าน่าทึ่งมากพอแล้ว แต่เมื่อเริ่มตระหนักว่าภาพจิตรกรรมฝั่งซ้ายอาจเป็นตัวกำหนดเรื่องราวของโลกความเช่น ภายในใจทุกคนเริ่มเกิดแรงกระเพื่อมหนักหน่วง
การที่ภาพวาดจากอดีตมีพลังในการกำหนดอนาคตของโลกความจริง ไม่ใช่แค่ในโลกมายา มีเพียงเทพเท่านั้นที่ทำแบบนี้ได้!
“นั่นก็… ไม่ได้เกินจริงไปเสียทีเดียว… ใช่ไหมล่ะ” เลียวนาร์ดพึมพำเสียงแผ่วด้วยความรู้สึกยากจะทำใจเชื่อ
ในทางกลับกัน ไคลน์เริ่มวิเคราะห์ตามนิสัย
“ถึงแม้จะเป็น 0-08 แต่ขอบเขตการแสดงผลก็ถูกจำกัดแค่เมืองใหญ่เท่านั้น และดูเหมือนว่าจะไม่มีทางเอาชนะขีดจำกัดนี้ หมายความว่าลำดับ 1 นักประพันธ์เองก็คงไม่ต่างกัน… และในเมื่อ ‘เอกลักษณ์’ ของ ‘นักสร้างฝัน’ อยู่ในมือของอาดัมเรียบร้อยแล้ว… เมืองแห่งปาฏิหาริย์ เลฟซิดแห่งนี้จะใช้หลักการใดในการเปลี่ยนให้โลกความจริงตรงตามภาพวาด? พลังเทพของมังกรจินตภาพจากอดีต? กำลังจะบอกว่าในตอนที่หนังสือเล่มนี้ถูกสร้างขึ้น เนื้อหาภายในภาพวาดได้สร้าง ‘ตราประทับ’ ลงในทะเลจิตใต้สำนึกรวมของโลกความจริงและแผ่ขยายออกไปทุกทิศ ส่งผลให้สิ่งมีชีวิตรุ่นแล้วรุ่นเล่าทำตามภาพวาดโดยไม่รู้ตัว? แต่ถ้ากลไกการทำงานเป็นแบบนั้น การวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังลงไปใหม่ก็จะไม่เกิดผลใด เพราะมังกรจินตภาพร่วงหล่นไปนานแล้วและไม่สามารถสร้างพลังเทพขึ้นมาใหม่ได้… พวกเราสามารถทดสอบเรื่องนี้ได้โดยการวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังขึ้นมาใหม่และดูว่ามันจะเกิดขึ้นบนโลกความจริงหรือไม่ ถ้าจริงก็แปลว่าที่นี่คือเมืองแห่งปาฏิหาริย์ เลฟซิดซึ่งเต็มไปด้วยความลับ และนั่นยังหมายความว่าพลังของเส้นทางผู้ชมลึกลับซับซ้อนมากกว่าที่เราติด”
“นักประพันธ์? มีโอสถชื่อแบบนั้นด้วยหรือ?” เมื่อได้คิดความคิดไคลน์ เลียวนาร์ดอดไม่ได้ที่จะรำพัน
เมื่อเทียบกับชื่อมังกรจินตภาพที่สามารถอนุมานไปถึง ‘นักสร้างฝัน’ โอสถที่ชื่อ ‘นักประพันธ์’ ฟังดูน่าตื่นตาตื่นใจยิ่งกว่า เพราะมันมอบความรู้สึกกึ่งจริงกึ่งจินตนาการได้ดีกว่า
ออเดรย์ที่ทราบชื่อโอสถลำดับสูงของเส้นทางอยู่ก่อนแล้วไม่เผยสีหน้าประหลาดใจ เพียงตั้งสมาธิกับเรื่องอื่น
“เอกลักษณ์… มิสเตอร์เวิร์ลสามารถเชื่อมโยงข้อมูลมากมายได้ในพริบตา สุดยอด! อึก… เราชมเขาตรงเกินไปไหม? มิสเตอร์เวิร์ลได้ยินทุกเรื่องที่เราคิด… อุก… ทำตัวให้ชินกับโถงนี่ไม่ได้สักที… ไม่ใช่นะ มิสเตอร์เวิร์ล ดิฉันกำลังชมเชยคุณจริงๆ! หมายความแบบนั้นจริงๆ!”
ออเดรย์เขินอายในตอนต้น ก่อนจะปรับอารมณ์ด้วยพลังของเส้นทางและกลับมาเยือกเย็นอีกครั้ง
“…อย่างที่คิด นักจิตบำบัดสงบจิตใจได้เร็วมาก” ไคลน์ผุดความคิดเสียงดัง
“มิสเตอร์เวิร์ลมิได้เย็นชาเหมือนตาเห็นสินะ เขาเป็นพวกที่ชอบเก็บทุกเรื่องไปพูดกับตัวเองในใจ… อุก… ฉันไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น!” ขณะออเดรย์คิดเรื่อยเปื่อยตามสัญชาตญาณ เธอรีบปฏิเสธเสียงแข็ง
ขณะเดียวกัน เสียงหนึ่งดังขึ้นรอบตัวเลียวนาร์ด
“ไคลน์ปลอมตัวเป็นเกอร์มัน·สแปร์โรว์ได้ไม่เลว ทุกคนเชื่อสนิทใจว่าเขาเป็นคนเย็นชาและเสียสติ หึหึ… ใครจะไปคิดว่าที่จริงแล้ว…”
เพียงเลียวนาร์ดเริ่มปล่อยให้ความคิดฟุ้งซ่าน เสียงหนึ่งดังขึ้นขัดจังหวะ
“เงียบน่า!”
เลียวนาร์ดสำรวจเสื้อผ้าเกอร์มัน·สแปร์โรว์หัวจรดเท้าพร้อมกับผายมือและกลั้นขำ
“ดูแต่งตัวเข้าสิ ไม่เห็นเย็นชาตรงไหนเลย ว่าไหม?”
“อยากให้เย็นชานักใช่ไหม ฉันจะกดไม้กางเขนเจิดจรัสลงบนหัวนายและสกัดตะกอนพลังออกมา! ในเมื่อนายไม่ต้องการตะกอนพลังแล้ว ฉันจะเอาไปบริจาคให้คนที่ต้องการจริงๆ!” เมื่อไม่มีการเข้าฌานช่วยสงบจิต ไคลน์เริ่มตอบสนองตามสัญชาตญาณมากขึ้นเรื่อยๆ
“…” ออเดรย์มองสลับไปมาระหว่างเดอะเวิร์ลและเดอะสตาร์พร้อมกับส่งเสียงภายใน “พวกเขาสนิทกันกว่าที่คิด… เราพอจะเดาเรื่องนี้ได้จากท่าทีของมิสเตอร์สตาร์ แต่กับมิสเตอร์เวิร์ลนั้นยากจะอ่านอารมณ์… อึก… แจน… บอส… มินนี่…”
ในช่วงเวลาแบบนี้ ออเดรย์เลือกวิธีท่องชื่ออื่นที่ไม่เกี่ยวข้องเพื่อสงบสติ
“ชื่อของใคร?” เลียวนาร์ดถามอย่างสนใจ
“ชื่อของม้าและหมาล่าเนื้อที่ตระกูลดิฉันเลี้ยงไว้ค่ะ” ออเดรย์ตอบอย่างสุภาพ
“หมาล่าเนื้อราคาตัวละสี่ร้อยห้าสิบปอนด์…” ไคลน์พลันฉุกคิดถึงคำแนะนำของพ่อบ้านวอลเตอร์ที่บอกให้ซื้อหมาล่าเนื้อกลุ่มหนึ่งสำหรับกิจกรรมล่าสัตว์ในคฤหาสน์เพลงกุหลาบ
“ทำไมสิ่งแรกที่ผุดขึ้นในหัวมิสเตอร์เวิร์ลถึงเป็นราคา?” ออเดรย์อดไม่ได้ที่จะสงสัย
เลียวนาร์ดยกมุมปากและตอบโดยไม่ต้องพูด
“นี่เป็นเรื่องปรกติ… หมอนี่มักจู้จี้เรื่องเงินเสมอ ฉันยังจำได้ว่า…”
ยังไม่ทันจะ ‘พูด’ จบประโยค ไคลน์กระแอมแห้ง
“พวกเราควรรีบสำรวจในส่วนอื่นกันต่อ และถ้ามีเวลาเหลือก็ต้องทดสอบการทำงานของภาพจิตรกรรมฝาผนัง… เฮ้อ… โถงบ้านี่ทำเอาวุ่นวายไปหมด ปัญหาสำคัญคือการที่ความคิดลับๆ ถูกนำออกมาเปิดเผยจนยากจะตั้งสมาธิกับเรื่องอื่น”
เมื่อได้ยินการรำพันในประโยคสุดท้าย ทั้งเลียวนาร์ดและออเดรย์เผลอหัวเราะออกมาอย่างมิอาจหักห้าม
จนกระทั่งหญิงสาวเริ่มตระหนักว่าอีกฝ่ายคงไม่อยากให้สถานการณ์เลยเถิดมากไปนัก เธอตั้งสติและแหงนมองเพดาน
“ในมือภาพจิตรกรรมทางขวาควบคุมโลกในหนังสือ และภาพฝั่งซ้ายควบคุมโลกความจริง… จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังบนเพดาน?”
ไคลน์วิเคราะห์โดยเชื่อมโยงข้อมูล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ