ตอน ราชันเร้นลับ 1071 : โถงแห่งความจริง จาก ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ราชันเร้นลับ 1071 : โถงแห่งความจริง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายInternet ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ด้านนอกวังสีเทาอ่อนที่มีความสูงกว่าสองร้อยเมตร เสาหินขนาดใหญ่จำนวนมากที่สั้นกว่าปรกติถูกวางเรียงรายราวกับเป็นทหารองครักษ์
ไคลน์พอจะเห็นภาพอย่างเลือนราง ในตอนที่เมืองแห่งปาฏิหาริย์ เลฟซิด ยังคงลอยอยู่บนท้องฟ้า เสาหินเหล่านี้จะต้องมีมังกรที่ทรงพลังนั่งหมอบต้นละหนึ่งตัว
พวกมันคือข้าราชบริพารของเทพบรรพกาล
จากนั้นไคลน์แหงนมองประตูที่เปิดกว้างและพูดกับเลียวนาร์ดและออเดรย์
“อยู่ใกล้ๆ ผมไว้ เพราะถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝัน ผมสามารถพาพวกคุณออกจากโลกหนังสือกลับสู่มิติหมอกได้ทันที”
นั่นคือเหตุผลสำคัญที่ไคลน์กล้าสำรวจที่นี่
“ตกลง” ออเดรย์และเลียวนาร์ดไม่พยายามทำตัวอาจหาญ เพียงเดินมายืนข้างไคลน์และเตรียมเกาะกลุ่ม
อาศัยพลังในการบินของร่างวิญญาณ ทั้งสามลอยผ่านขั้นบันไดจนกระทั่งผ่านประตูยักษ์เข้ามาในวัง
สิ่งแรกที่เห็นคือพื้นที่ว่างๆ ที่กว้างพอจะให้มังกรเกือกเกลี้ยงอย่างสบายอารมณ์ รวมถึงเสาหินที่ดูราวกับคอยค้ำจุนท้องฟ้า
บนผนังทั้งสองฝั่งของห้องโถงเต็มไปด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังที่งดงาม เหยียดยาวในแนวนอนไปจนกระทั่งถึงเสาหินขนาดหลายคนโอบ
ด้านในสุดของห้องโถงมีเสาหินขนาดมหึมาตั้งเด่นตระหง่าน ลำพังเสาหินต้นนี้ต้นเดียวก็มากพอจะสร้างความหวาดกลัวให้แก่ผู้พบเห็น รวมไปถึงความรู้สึกกระอักกระอ่วนราวกับเวลากำลังผันผวน ประหนึ่งนั่นคือเทพที่กลายเป็นหิน
แทบจะในพริบตา สิ่งมีชีวิตที่มีร่างกายสีเทาอ่อนขนาดมหึมาพลันปรากฏบนเสาหินดังกล่าว
ร่างดังกล่าวปกคลุมไปด้วยเกล็ดยักษ์จำนวนมาก แต่ละเกล็ดดูราวกับเป็นหินหนาๆ แผ่นใหญ่ เพียงเค้าโครงอันเลือนรางก็มากพอจะทำให้บรรยากาศโดยรอบเปี่ยมไปด้วยความน่าเกรงขาม
มังกรจินตภาพ แอนเคอร์เวล! ในวินาทีที่ความคิดดังกล่าวแล่นผ่านสมองไคลน์ มันได้ยินเสียงอันคุ้นเคยดังกังวานทั่วห้องโถงใหญ่:
“มังกรจินตภาพ แอนเคอร์เวล!”
ขณะไคลน์มองไปรอบๆ ตัวด้วยความฉงน มันได้ยินเสียงเลียวนาร์ดถอนหายใจเข้มข้น
“สายลมที่ลุ่มลึกกำลังตั้งใจฟังรอบๆ ท่าน..”
“สายลมที่พัดผ่านพลันสั่นกลัวจนแทบสิ้นลม…”
หมอนี่ยังอารมณ์ท่องกวีอยู่อีก… เป็นกวีของใครกันนะ… ไคลน์หันไปมองเลียวนาร์ด
ทันทีหลังจากนั้น มันได้ยินเสียงสะท้อน:
“หมอนี่ยังอารมณ์ท่องกวีอยู่อีก… เป็นกวีของใครกันนะ…”
เลียวนาร์ดพลันประหลาดใจสุดขีดพร้อมกับรีบปิดปากสนิทและส่ายหน้า
แต่ในวินาทีถัดมา เสียงหนึ่งดังข้างๆ มัน
“ฉันไม่ได้ท่องอะไรออกไป!”
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่… แปลกมาก” ขณะไคลน์กำลังคิดเช่นนี้ มันเริ่มตระหนักว่าเสียงที่คุ้นเคยในตอนแรกเป็นของตัวเอง
และแน่นอน เสียงเดิมดังขึ้นอีกครั้งโดนสะท้อนความคิดไคลน์
จากนั้นเสียงพึมพำที่อ่อนโยนของออเดรย์ดังตามมา
“หรือว่า… โถงแห่งนี้จะทำให้ความคิดของสิ่งมีชีวิตรอบๆ มีตัวตนขึ้นมาจริงๆ? เพราะเมื่อครู่ในตอนที่เห็นเสาหิน เราจินตนาการภาพมังกรจินตภาพ แอนเคอร์เวล กำลังนั่งหมอบอยู่ เป็นภาพร่างที่มีพื้นฐานมาจากมังกรจิตที่เราเคยเห็น… แล้วทำไมทุกสิ่งที่เราพูด… ไม่สิ… ทุกสิ่งที่เราคิด ห้องโถงจะทำให้มีตัวตนขึ้นมา…”
อย่างนี้นี่เอง โชคดีที่เราไม่ได้สิ่งเครื่องประหลาดๆ เมื่อครู่ ตั้งสติเข้าไว้ ตั้งสติ… ไคลน์ใช้การเข้าฌานเพื่อมิให้จินตนาการเตลิด
ในเวลาเดียวกัน เสียงของมันดังก้องไปทั่วห้องโถงราวกับกำลังสอดประสาน
“…ตั้งสติเข้าไว้ ตั้งสติ…”
“ความคิดในหัวมิสเตอร์เวิร์ลเป็นแบบนี้นี่เอง เหมือนกับเด็กที่เพิ่งหัดเข้าโรงเรียนและพยายามเตือนตัวเองไม่ให้ลืมสิ่งสำคัญ… นอกจากนั้นเขายังเข้าฌานด้วยภาพของลูกบอลแสงที่ซ้อนทับหลายชั้น… งดงามมาก… ด…เดี๋ยวก่อน เราไม่ได้คิดแบบนั้นสักหน่อย! ฉันไม่มีเจตนาจะนิยามคุณแบบนั้น มิสเตอร์เวิร์ล ฉันพูดความจริง! ความคิดออเดรย์พรั่งพรูออกมาอย่างต่อเนื่อง มุมปากของเธอเผยรอยยิ้มอย่างมิอาจเลี่ยง
สำหรับเลียวนาร์ด เสียงความคิดของมันก็ดังขึ้นว่า ‘ฮ่าฮ่าฮ่า’
“ไอ้หมอนี่… ไม่สิ ห้ามเรียกว่าไอ้หมอนี่… เราต้องสุภาพ… เราต้องสุภาพ” ขณะได้ยินเสียงความคิดตัวเอง ไคลน์ถอนหายใจอย่างจนปัญญา “โถงแห่งนี้เหมาะจะเล่นเกม ‘พูดความจริงหรือรับคำท้า’ มาก… ขอตั้งชื่อให้มันว่าโถงแห่งความจริง…”
“นั่นเกมอะไร?” ออเดรย์แสดงความสงสัยโดยที่ไม่ต้องเปิดปากพูด
“น่าจะเป็นเกมที่จักรพรรดิโรซายล์คิดค้นขึ้น… เราต้องตั้งสติไม่ให้คิดในเรื่องที่ไม่ควรคิด… ให้ตายสิ ถ้าไม่ได้เข้าฌาน แทบจะไม่มีวิธีใดระงับความคิดที่ฟุ้งซ่านพวกนี้ได้เลย…” ไคลน์ตอบออเดรย์พลางตักเตือนตัวเองตามนิสัย และไม่พลาดที่จะถูกโถงแห่งนี้ทรยศ
ทันใดนั้น ออเดรย์หัวเราะและคิด
“ฮะฮะ! มิสเตอร์เวิร์ลเองก็มีมุมแบบนี้ด้วย เราไม่เคยพบเจอมาก่อน…”
“ภาพจิตรกรรมบนกำแพงเหล่านี้ดูธรรมดาเกินไป ฝีมือยังด้อยกว่าจิตรกรข้างถนนเสียอีก… ค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่าที่นี่คือวังของมังกรจินตภาพ เทพบรรพกาลตนนั้นมีพลังมากมายถึงเพียงนี้เชียว?” เลียวนาร์ดแสดงความเห็น
“เป็นไปได้…” ไคลน์ไม่อธิบายลงลึก ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงของตัวเองดังขึ้น “เริ่มสำรวจภาพอีกฝั่งก่อนดีกว่า จากนั้นก็นำข้อมูลมารวมกันและวิเคราะห์”
เลียวนาร์ดกับออเดรย์ไม่คัดค้าน เดินตามชายหนุ่มไปยังอีกฝ่าย
ระหว่างนี้พวกมันเพิ่งตระหนักว่าร่างวิญญาณของตนไม่สามารถบินได้ในห้องโถง
แต่เนื่องจากภาพวาดมีขนาดใหญ่มาก เดินแค่ไม่กี่ก้าวก็ช่วยให้เห็นภาพรวมทั้งหมด
ภาพแรกใกล้กับทางเข้าทำให้รูม่านตาไคลน์เบิกกว้างทันที
ภายในภาพจิตรกรรม คนยักษ์ผิวสีเทาอมฟ้าที่มีใบหน้าพร่ามัวและดวงตาดวงเดียวในแนวตั้ง กำลังถือสมุดปกแข็งเล่มหนึ่งในมือ!
“นี่มัน…” ไคลน์ได้ยินเสียงความคิดตัวเองดังสะท้อน
เอกลักษณ์ของภาพถัดๆ มาก็ยังคงเป็นหนังสือหนังสัตว์ที่ถูกเย็บเข้าด้วยกันอย่างหยาบๆ เล่มดังกล่าว เจ้าของเปลี่ยนมือจากคนยักษ์เป็นเอลฟ์ ข้อความบนกระดาษเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเปลี่ยนจากสมุดกลายเป็นหนังสือ จากนั้นก็เปลี่ยนมือเจ้าของไปเรื่อยๆ จนกระทั่งลอยสูงขึ้นไปบนอวกาศและตกลงบนกรงเล็บขนาดมหึมา
สำหรับภาพจิตรกรรมถัดมา ราวกับไม่เกี่ยวข้องกับภาพก่อนหน้า หนังสือเล่มเดิมโผล่ขึ้นมาบนผิวทะเลและเข้าไปในเรือลำที่พร่ามัว
ในภาพวาดรองสุดท้าย หนังสือถูกนำออกจากเรือโดยสายสวมหมวกทรงสูง
และภาพสุดท้ายที่ถูกวาดด้านหลังบัลลังก์หินซึ่งต้องสงสัยว่าจะเป็นของมังกรจินตภาพ แอนเคอร์เวล เป็นภาพของหนังสือเล่มดังกล่าวถูกวางไว้คู่กับปากกาขนนกทรงโบราณ
ภาพจิตรกรรมจบลงเพียงเท่านี้
“0-08!” สุ้มเสียงอันตกตะลึงของเลียวนาร์ดดังกังวานไปทั่วห้องโถง
“มังกรจินตภาพต้องการจับคู่หนังสือเล่มดังกล่าวกับปากกาขนนก? ถ้าทำสำเร็จจะเกิดอะไรขึ้น? พวกมันเคยเกือบได้อยู่ด้วยกันในตอนที่เราจัดการกับอินซ์·แซงวิลล์… แต่สุดท้ายก็ล้มเหลวเพราะหนังสือตกอยู่ในมือเราและเราสังเวยให้มิสเตอร์ฟูล… หรือว่าการที่อาดัมช่วยวางแผนและคอยสนับสนุนก็เพราะเล็งสิ่งนี้ไว้แต่แรก? จริงสิ ในตอนที่อยู่ในหนังสือ เมื่อนักบวชสโนวมันเอ่ยชื่อเทวทูตจินตภาพ อาดัม มังกรน้ำแข็งก็บุกเข้ามาจู่โจมค่ายทันที… เป็นเพราะหนังสือไม่ยอมให้สโนวมันพูด หรือเป็นเพราะอาดัมได้ยินความคิดดังกล่าวจนสามารถสร้างการเชื่อมโยงกับตัวเองและจ้องมองพร้อมกับสร้างอิทธิพลบางอย่างได้?” ความคิดไคลน์พรั่งพรูออกมาเป็นเสียงสะท้อน
ตลอดการทำเช่นนั้น มันพยายามอย่างหนักในการคิดว่ามิสเตอร์ฟูลเป็นตัวตนอื่นที่ห่างไกล
ขณะเดียวกัน ความคิดออเดรย์ผุดขึ้น
“…หรือว่าเนื้อหาของภาพจิตรกรรมเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกความจริง?”
………………….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ