หลังจากบ้านวอลเตอร์เดินลงไปจากชั้นสอง ไคลน์เดินเข้าไปในห้องอาหารและมองรอบตัว พบว่าสาวใช้และคนรับใช้กระฉับกระเฉงเป็นพิเศษ บางคนทำท่าทางกระสับกระส่าย
นึกแล้วเชียว ที่จริงไม้เท้าแห่งชีวิตก็ส่งผลกับมนุษย์ เพียงแต่ไม่รุนแรงนัก อยู่ในขอบเขตที่ยอมรับได้… จากหลักการดังกล่าว ประสิทธิภาพในการสืบพันธุ์ของเหล่าคนใช้ต้องเพิ่มสูงขึ้น แต่ปัญหาเดียวก็คือ พวกเขาไม่มีคู่ครอง จึงไม่รู้จะไปลงกับใคร…
หืม… การกลับบ้านในวันนี้ของคุณพ่อบ้านจะทำให้มีเด็กเกิดมาในอีกสิบเดือนข้างหน้าไหม? ภรรยาของเขาอายุเกือบสี่สิบแล้ว การคลอดในวัยนี้ค่อนข้างอันตราย… อา… แต่พลังการในขยายพันธุ์จากไม้เท้าแห่งชีวิตคงติดตัววอลเตอร์ไปด้วยและช่วยให้ภรรยาคลอดได้ง่ายขึ้น คงไม่น่ากังวลขนาดนั้น…
เดี๋ยวนะ… ถ้าอิทธิพลของไม้เท้าแห่งชีวิตช่วยให้ผสมพันธุ์ ‘ติด’ ง่ายขึ้น… หลังจากดอน·ดันเตสย้ายเข้ามา อัตราการเกิดใหม่ของทารกในถนนเบิร์คลุนได้เพิ่มสูงขึ้น… ข่าวลือเสียๆ หายๆ คงได้ถาโถมเข้ามาแน่… ไคลน์ปล่อยความคิดล่องลอยเรื่อยเปื่อยก่อนจะสรุปในใจ
ไม้เท้าแห่งชีวิตเลวร้ายกว่าที่คิด!
หลังจากนี้ เราคงนำลงมาบนโลกความจริงได้ไม่บ่อยนัก อย่าพยายามสร้างผลกระทบแก่มนุษย์รอบๆ โดยไม่จำเป็น!
กินอาหารเช้าเสร็จ ไคลน์พาบุรุษรับใช้ส่วนตัว เอ็นยูนลงไปยังชั้นหนึ่งเพื่อเตรียมเดินเล่น
ระหว่างนั้น สาวใช้สองคนกำลังเช็ดพื้นห้องโถง
“อรุณสวัสดิ์ค่ะนายท่าน” เมื่อเห็นดอน·ดันเตสเข้ามาใกล้ สาวใช้ทั้งสองลุกขึ้นยืน หลีกทางและทักทาย
แน่นอนว่าถ้าพวกเธออยู่ไกลกว่านี้หรืออยู่ในซอกหลืบ จะพยายามไม่ส่งเสียงดังเพื่อรบกวนนายจ้าง นี่เป็นคำสอนของวอลเตอร์
ไคลน์พยักหน้าแผ่วเบาเป็นการตอบสนองและเดินเข้าใกล้ประตูหน้า
ทันใดนั้น สาวใช้ทั้งสองบนพบว่าบนศีรษะของเอ็นยูนมีรวงข้าวสีทองอร่ามงอกออกมาจนเต็ม
ขณะทั้งสองกำลังเพ่งมอง ดูเหมือนว่าบุรุษรับใช้จะรู้ตัว รีบยกมือขวาขึ้นมาดึงรวงข้าวออกอย่างยากลำบาก
สาวใช้ทั้งสองมองหน้ากัน จากนั้นก็ยิ้มอย่างขบขันปนประหลาดใจ
พวกเธอจินตนาการว่า ในตอนที่ติดตามดอน·ดันเตสไปยังคฤหาสน์เพลงกุหลาบ เอ็นยูนคงบังเอิญทำให้รวงข้าวสาลีติดร่างกายตัวเองมาจนกระทั่งกลับถึงถนนเบิร์คลุน จากนั้นก็ทำร่วงลงในจุดที่ยากต่อความทำความสะอาด หรือไม่ก็ยากจะสังเกตเห็น อย่างเช่นใต้หมอน และในตอนที่หลับเมื่อคืน อาจจะเพราะฝันร้าย เอ็นยูนได้ผลักหมอนออกจนรวงข้าวสาลีติดอยู่ในเส้นผม รอดพ้นช่วงเวลาการการอาบน้ำและอาหารเช้าจนมาถึงตอนนี้
แม้เรื่องราวจะซับซ้อนและเกิดขึ้นจริงได้ยาก แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย
รวงข้าวงอกขึ้นบนหัวมนุษย์ไม่ได้สักหน่อย… สาวใช้ทั้งสองรำพันก่อนจะกลับไปทำงาน
ด้านนอกบ้านเลขที่ 160 ถนนเบิร์คลุน ไคลน์และเอ็นยูนเดินทอดน่องใต้ต้นเมเปิ้ลอินทิสซึ่งใบเริ่มเฉา สูดอากาศอันสดชื่นของฤดูใบไม้ร่วง
เฉกเช่นไคลน์ เพื่อนบ้านหลังอื่นเองก็ออกมาเดินเล่น
แต่แน่นอน นี่มิใช่กิจวัตรประจำวันของชนชั้นสูงในกรุงเบ็คลันด์ เพราะเมื่อปีที่แล้วยังเต็มไปด้วยหมอกควันรุนแรง ไม่มีใครอยากตื่นเช้าออกมารับลมหนาวและความเปียกชื้นบนท้องถนน
ในฐานะเพื่อนบ้านที่รู้จักกัน เมื่อเดินสวนกันย่อมทักทายกันเป็นปรกติ จนกระทั่งเดินสวนกันไป นักกฎหมายคนดังกล่าวใช้หางตาชำเลืองบุรุษรับใช้ของดอน·ดันเตสพลางปิดปากหาว
ขณะลดมือลง นักกฎหมายหนุ่มพบบางสิ่งที่แตกต่างออกไป
จมูกของเขาโด่งขึ้น…
ฮะฮะ… พักหลังคงคิดหลายสิ่งมากเกินไปจนเกินอาการประสาทหลอน…
ถ้าดั้งจมูกของเราโด่งขึ้นได้เองก็คงจะดี…
นักกฎหมายยกมือขึ้นมาลูบจมูกพลางครุ่นคิด พร้อมกันนั้น มันเห็นสุนัขจรจัดสองตัวกำลังวิ่งไล่กันเพื่อพยายามผสมพันธุ์กลางถนน
…
หลังจากเดินเล่น ไคลน์กลับไปยังห้องนั่งเล่นบนชั้นสาม ส่งไม้เท้าแห่งชีวิตขึ้นไปบนมิติหมอก
มีความคืบหน้า… หมายความว่า แก่นสำคัญของการย่อยโอสถจอมเวทพิสดารคือการทำให้ผู้คนสยองขวัญและหวาดกลัวด้วยเทคนิคต่างๆ … ยังคงรักษาคอนเซ็ปต์ของ ‘ผู้กำกับ’ แต่คราวนี้เป็น ‘ผู้กำกับหนังสยองขวัญ’ …
อา… แต่ไม่จำเป็นต้องสร้างความกลัวขึ้นมาจริงๆ … ในชีวิตประจำวันของมนุษย์มีฉากน่ากลัวมากมายเกิดขึ้นทุกวันอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่มีใครสังเกตเห็น เมื่อนึกขึ้นได้รางๆ ในภายหลังและนำไปจินตนาการต่อยอด ความกลัวจะก่อตัวขึ้นในใจจนบางรายเก็บไปฝันและไม่กล้าปิดไฟนอน… นี่ก็เป็นอีกหนึ่งศาสตร์ของหนังสยองขวัญ… ไคลน์พิจารณาความเป็นไปได้และตกผลึกจากประสบการณ์ในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา เป็นการนิยามผู้กำกับหนังสยองขวัญในฉบับย่อส่วน
หลังจากเข้าใจแก่นแท้ มันเริ่มมีไอเดียมากมายในการย่อยโอสถ
ในอนาคต การจัดการกับศัตรูนั้นยังไม่เพียงพอ แต่ต้องเปลี่ยนให้ศัตรูเป็นตัวเอกของหนังสยองขวัญด้วย!
แต่นั่นทำได้ยาก… ถ้าอีกฝ่ายเป็นครึ่งเทพ เราต้องใส่สุดโดยห้ามออมแรง แล้วจะมีอารมณ์กำกับหนังสยองขวัญได้ยังไง… จริงสิ เหยื่อไม่จำเป็นต้องเป็นครึ่งเทพ ไม่มีข้อจำกัดในด้านดารานำ สามารถเทเลพอร์ตไปที่ทะเลและมองหาโจรสลัดผู้โชคดีมา ‘เข้ากองถ่าย’ หนังสยองขวัญ
ใช่แล้ว ในฐานะผู้กำกับ เราต้องหาทางโฆษณาผลงาน! ดูเหมือนว่าต้องปล่อยให้ดารานำหนีรอดในบางครั้ง เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ชวนขนหัวลุกจนกลายเป็นตำนานในท้องทะเล ไม่สามารถใช้ทั้งหมดเป็นอาหารของยุบพองหิวโหยได้… ขณะไคลน์วางแผน มันผุดคำถามหนึ่งขึ้นกะทันหัน
จากตำนานสยองขวัญทั้งหมดที่ถูกเล่าขานในห้าห้วงสมุทร มีกี่ตำนานที่อำนวยการสร้างโดยจอมเวทพิสดาร?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ