ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ นิยาย บท 1080

สรุปบท ราชันเร้นลับ 1080 : แนวคิดในการสวมบทบาท: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ

อ่านสรุป ราชันเร้นลับ 1080 : แนวคิดในการสวมบทบาท จาก ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ โดย Internet

บทที่ ราชันเร้นลับ 1080 : แนวคิดในการสวมบทบาท คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายInternet ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

หลังจากบ้านวอลเตอร์เดินลงไปจากชั้นสอง ไคลน์เดินเข้าไปในห้องอาหารและมองรอบตัว พบว่าสาวใช้และคนรับใช้กระฉับกระเฉงเป็นพิเศษ บางคนทำท่าทางกระสับกระส่าย

นึกแล้วเชียว ที่จริงไม้เท้าแห่งชีวิตก็ส่งผลกับมนุษย์ เพียงแต่ไม่รุนแรงนัก อยู่ในขอบเขตที่ยอมรับได้… จากหลักการดังกล่าว ประสิทธิภาพในการสืบพันธุ์ของเหล่าคนใช้ต้องเพิ่มสูงขึ้น แต่ปัญหาเดียวก็คือ พวกเขาไม่มีคู่ครอง จึงไม่รู้จะไปลงกับใคร…

หืม… การกลับบ้านในวันนี้ของคุณพ่อบ้านจะทำให้มีเด็กเกิดมาในอีกสิบเดือนข้างหน้าไหม? ภรรยาของเขาอายุเกือบสี่สิบแล้ว การคลอดในวัยนี้ค่อนข้างอันตราย… อา… แต่พลังการในขยายพันธุ์จากไม้เท้าแห่งชีวิตคงติดตัววอลเตอร์ไปด้วยและช่วยให้ภรรยาคลอดได้ง่ายขึ้น คงไม่น่ากังวลขนาดนั้น…

เดี๋ยวนะ… ถ้าอิทธิพลของไม้เท้าแห่งชีวิตช่วยให้ผสมพันธุ์ ‘ติด’ ง่ายขึ้น… หลังจากดอน·ดันเตสย้ายเข้ามา อัตราการเกิดใหม่ของทารกในถนนเบิร์คลุนได้เพิ่มสูงขึ้น… ข่าวลือเสียๆ หายๆ คงได้ถาโถมเข้ามาแน่… ไคลน์ปล่อยความคิดล่องลอยเรื่อยเปื่อยก่อนจะสรุปในใจ

ไม้เท้าแห่งชีวิตเลวร้ายกว่าที่คิด!

หลังจากนี้ เราคงนำลงมาบนโลกความจริงได้ไม่บ่อยนัก อย่าพยายามสร้างผลกระทบแก่มนุษย์รอบๆ โดยไม่จำเป็น!

กินอาหารเช้าเสร็จ ไคลน์พาบุรุษรับใช้ส่วนตัว เอ็นยูนลงไปยังชั้นหนึ่งเพื่อเตรียมเดินเล่น

ระหว่างนั้น สาวใช้สองคนกำลังเช็ดพื้นห้องโถง

“อรุณสวัสดิ์ค่ะนายท่าน” เมื่อเห็นดอน·ดันเตสเข้ามาใกล้ สาวใช้ทั้งสองลุกขึ้นยืน หลีกทางและทักทาย

แน่นอนว่าถ้าพวกเธออยู่ไกลกว่านี้หรืออยู่ในซอกหลืบ จะพยายามไม่ส่งเสียงดังเพื่อรบกวนนายจ้าง นี่เป็นคำสอนของวอลเตอร์

ไคลน์พยักหน้าแผ่วเบาเป็นการตอบสนองและเดินเข้าใกล้ประตูหน้า

ทันใดนั้น สาวใช้ทั้งสองบนพบว่าบนศีรษะของเอ็นยูนมีรวงข้าวสีทองอร่ามงอกออกมาจนเต็ม

ขณะทั้งสองกำลังเพ่งมอง ดูเหมือนว่าบุรุษรับใช้จะรู้ตัว รีบยกมือขวาขึ้นมาดึงรวงข้าวออกอย่างยากลำบาก

สาวใช้ทั้งสองมองหน้ากัน จากนั้นก็ยิ้มอย่างขบขันปนประหลาดใจ

พวกเธอจินตนาการว่า ในตอนที่ติดตามดอน·ดันเตสไปยังคฤหาสน์เพลงกุหลาบ เอ็นยูนคงบังเอิญทำให้รวงข้าวสาลีติดร่างกายตัวเองมาจนกระทั่งกลับถึงถนนเบิร์คลุน จากนั้นก็ทำร่วงลงในจุดที่ยากต่อความทำความสะอาด หรือไม่ก็ยากจะสังเกตเห็น อย่างเช่นใต้หมอน และในตอนที่หลับเมื่อคืน อาจจะเพราะฝันร้าย เอ็นยูนได้ผลักหมอนออกจนรวงข้าวสาลีติดอยู่ในเส้นผม รอดพ้นช่วงเวลาการการอาบน้ำและอาหารเช้าจนมาถึงตอนนี้

แม้เรื่องราวจะซับซ้อนและเกิดขึ้นจริงได้ยาก แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย

รวงข้าวงอกขึ้นบนหัวมนุษย์ไม่ได้สักหน่อย… สาวใช้ทั้งสองรำพันก่อนจะกลับไปทำงาน

ด้านนอกบ้านเลขที่ 160 ถนนเบิร์คลุน ไคลน์และเอ็นยูนเดินทอดน่องใต้ต้นเมเปิ้ลอินทิสซึ่งใบเริ่มเฉา สูดอากาศอันสดชื่นของฤดูใบไม้ร่วง

เฉกเช่นไคลน์ เพื่อนบ้านหลังอื่นเองก็ออกมาเดินเล่น

แต่แน่นอน นี่มิใช่กิจวัตรประจำวันของชนชั้นสูงในกรุงเบ็คลันด์ เพราะเมื่อปีที่แล้วยังเต็มไปด้วยหมอกควันรุนแรง ไม่มีใครอยากตื่นเช้าออกมารับลมหนาวและความเปียกชื้นบนท้องถนน

ในฐานะเพื่อนบ้านที่รู้จักกัน เมื่อเดินสวนกันย่อมทักทายกันเป็นปรกติ จนกระทั่งเดินสวนกันไป นักกฎหมายคนดังกล่าวใช้หางตาชำเลืองบุรุษรับใช้ของดอน·ดันเตสพลางปิดปากหาว

ขณะลดมือลง นักกฎหมายหนุ่มพบบางสิ่งที่แตกต่างออกไป

จมูกของเขาโด่งขึ้น…

ฮะฮะ… พักหลังคงคิดหลายสิ่งมากเกินไปจนเกินอาการประสาทหลอน…

ถ้าดั้งจมูกของเราโด่งขึ้นได้เองก็คงจะดี…

นักกฎหมายยกมือขึ้นมาลูบจมูกพลางครุ่นคิด พร้อมกันนั้น มันเห็นสุนัขจรจัดสองตัวกำลังวิ่งไล่กันเพื่อพยายามผสมพันธุ์กลางถนน

หลังจากเดินเล่น ไคลน์กลับไปยังห้องนั่งเล่นบนชั้นสาม ส่งไม้เท้าแห่งชีวิตขึ้นไปบนมิติหมอก

มีความคืบหน้า… หมายความว่า แก่นสำคัญของการย่อยโอสถจอมเวทพิสดารคือการทำให้ผู้คนสยองขวัญและหวาดกลัวด้วยเทคนิคต่างๆ … ยังคงรักษาคอนเซ็ปต์ของ ‘ผู้กำกับ’ แต่คราวนี้เป็น ‘ผู้กำกับหนังสยองขวัญ’ …

อา… แต่ไม่จำเป็นต้องสร้างความกลัวขึ้นมาจริงๆ … ในชีวิตประจำวันของมนุษย์มีฉากน่ากลัวมากมายเกิดขึ้นทุกวันอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่มีใครสังเกตเห็น เมื่อนึกขึ้นได้รางๆ ในภายหลังและนำไปจินตนาการต่อยอด ความกลัวจะก่อตัวขึ้นในใจจนบางรายเก็บไปฝันและไม่กล้าปิดไฟนอน… นี่ก็เป็นอีกหนึ่งศาสตร์ของหนังสยองขวัญ… ไคลน์พิจารณาความเป็นไปได้และตกผลึกจากประสบการณ์ในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา เป็นการนิยามผู้กำกับหนังสยองขวัญในฉบับย่อส่วน

หลังจากเข้าใจแก่นแท้ มันเริ่มมีไอเดียมากมายในการย่อยโอสถ

ในอนาคต การจัดการกับศัตรูนั้นยังไม่เพียงพอ แต่ต้องเปลี่ยนให้ศัตรูเป็นตัวเอกของหนังสยองขวัญด้วย!

แต่นั่นทำได้ยาก… ถ้าอีกฝ่ายเป็นครึ่งเทพ เราต้องใส่สุดโดยห้ามออมแรง แล้วจะมีอารมณ์กำกับหนังสยองขวัญได้ยังไง… จริงสิ เหยื่อไม่จำเป็นต้องเป็นครึ่งเทพ ไม่มีข้อจำกัดในด้านดารานำ สามารถเทเลพอร์ตไปที่ทะเลและมองหาโจรสลัดผู้โชคดีมา ‘เข้ากองถ่าย’ หนังสยองขวัญ

ใช่แล้ว ในฐานะผู้กำกับ เราต้องหาทางโฆษณาผลงาน! ดูเหมือนว่าต้องปล่อยให้ดารานำหนีรอดในบางครั้ง เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ชวนขนหัวลุกจนกลายเป็นตำนานในท้องทะเล ไม่สามารถใช้ทั้งหมดเป็นอาหารของยุบพองหิวโหยได้… ขณะไคลน์วางแผน มันผุดคำถามหนึ่งขึ้นกะทันหัน

จากตำนานสยองขวัญทั้งหมดที่ถูกเล่าขานในห้าห้วงสมุทร มีกี่ตำนานที่อำนวยการสร้างโดยจอมเวทพิสดาร?

จากนั้นมันดึงกระดาษออกมาหนึ่งแผ่นและเขียนตอบกลับ

“อนุญาต… ระวังตัวด้วย”

ณ ค่ำคืนอันเงียบสงบใกล้รุ่งสาง ภายในโรงงานตัดเย็บที่ไร้ผู้คนในเขตนักบุญจอร์จ

บางส่วนของที่นี่ถูกเคลียร์ให้เป็นลานโล่ง ผู้คนนับสิบในชุดคลุมสีดำกำลังยืนเรียงราย

กึ่งกลางพวกมันคือโลงศพสีดำที่ดูค่อนข้างหนัก รอบโลงเต็มไปด้วยเครื่องประดับทองคำ คราบโคลน เทียนไขที่จุดไฟสีซีด และกองกะโหลกจำนวนมาก

กะโหลกสีขาวเหล่านี้บางส่วนเป็นของมนุษย์ บางส่วนเป็นของสัตว์ และบางส่วนผิดรูปและแปลกประหลาดจนไม่สามารถบอกที่มา

และที่ด้านหน้าสุด กะโหลกศีรษะถูกวางซ้อนกันเป็นของใหญ่ที่สุด โดยมีแพทริค·เบรนกำลังยืนอยู่ไม่ไกล

มันเองก็สวมชุดคลุมสีดำ แต่มิได้ยกผ้าคลุมหัวขึ้น เผยให้เห็นใบหน้าชัดลึกและเรียวยาว ผมสีดำ ดวงตาสีน้ำตาล

ครึ่งเทพรายนี้ยังไม่ทันได้ทำอะไร บรรยากาศรอบๆ พลันกลายเป็นเย็นเยียบ คล้ายกับมีวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังเต้นรำสนุกสนาน

ทันทีที่แพทริค·เบรนยกมือขวา บรรดาสาวกที่สวมผ้าคลุมหัวพลันกระตุกตัวกระโดดและเต้นด้วยท่าทางบ้าบิ่น

นี่คือ ‘ระบำวิญญาณ’ เป็นพิธีกรรมที่เทพมรณาชื่นชอบ ยิ่งเต้นแข็งแรงเพียงใดก็ยิ่งได้โปรดปราน

เมื่อการเต้นรำเริ่มเข้าสู่ช่วงเวลาสำคัญ สายลมเย็นที่มองไม่เห็นพลันพัดออกจากโลงศพ แพทริค·เบรนรีบก้มหน้าลงและสวดวิงวอนเป็นภาษาที่ราวกับมาจากโลกแห่งความตาย

“ราชาแห่งห้วงลึกของขุมนรก”

“เทวทูตผู้บรรเลงเสียงแห่งมรณะ”

“ผู้ปกครองสูงสุดเหนือแม่น้ำแห่งความตาย”

……………………………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ