ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ นิยาย บท 1084

สรุปบท ราชันเร้นลับ 1084 : สงครามกับผู้คน: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ

อ่านสรุป ราชันเร้นลับ 1084 : สงครามกับผู้คน จาก ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ โดย Internet

บทที่ ราชันเร้นลับ 1084 : สงครามกับผู้คน คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายInternet ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

บึม! บึม!

ภายในบ้านเลขที่ 17 ถนนมินส์ เขตเชอร์วู้ด นายหญิงของบ้าน สตาร์ลิ่ง·ซาเมอร์และสาวใช้ของเธอต่างได้ยินเสียงระเบิดจากระยะไกล พวกเธอที่ซ่อนตัวอยู่ในมุมห้องต่างสัมผัสได้ว่าผืนดินกำลังสั่นสะเทือน

จนกระทั่งผ่านไปสักพัก ความรุนแรงของสถานการณ์เริ่มบรรเทาลง สตาร์ลิ่งพยุงตัวขึ้นและเหลียวซ้ายแลขวาด้วยจิตใจที่ตึงเครียด

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่…”

สาวใช้ทั้งสองคนต่างพากันส่ายหน้า พวกเธอต่างก็ฉงนและกลัวไม่ต่างกัน

หลังออกจากมุมห้อง สตาร์ลิ่งต้องการเดินออกไปพูดคุยกับเพื่อนบ้านตามความเคยชินเพื่อยืนยันในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เธอกังวลว่าเหตุการณ์เมื่อครู่อาจวกกลับมาเกิดซ้ำ จึงไม่มีทางเลือกนอกจากเดินวนเวียนไปมาในห้องนั่งเล่น

ผ่านไปหลายนาที สตาร์ลิ่งได้ยินเสียงเปิดประตูหน้าบ้าน จึงรีบหันไปมองและได้ทราบว่าสามีของเธอ ลุค·ซาเมอร์กลับมาถึงบ้านพร้อมกับบุรุษรับใช้ส่วนตัว

“คุณไม่ไปทำงานหรือ” สตาร์ลิ่งถามตามสัญชาตญาณ

ลุคที่ร่างกายกำยำตอบกลับด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

“แค่เกือบจะถึง จากนั้นก็ต้องรีบกลับมา… รีบใส่เสื้อนอกเร็วเข้า พวกเราจะไปที่วิหาร!”

“ก… เกิดอะไรขึ้น?” สตาร์ลิ่งถามย้ำ

ลุคเดินไปข้างหน้าสองก้าว

“กองเรือเหาะของฟุซัคกำลังทิ้งระเบิดใส่เบ็คลันด์!”

“ได้ยังไง… มันเป็นไปได้ยังไง?” ดวงตาสตาร์ลิ่งเบิกกว้างอย่างคลางแคลง

“ตอนนี้ไม่ใช่เวลาถามถึงเหตุผล ไม่ว่าจะเพราะเหตุใด แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว และพวกเราต้องรีบไปที่วิหารทันที!” ลุคสวมกอดภรรยา “ไม่ต้องกังวลไปนัก ผมเชื่อว่าเรือเหาะเหล่านั้นจะไม่มาที่นี่”

“ตกลง… ตกลง!” สตาร์ลิ่งขานตอบด้วยความตื่นตระหนก

เธอสวมเสื้อนอกที่สาวใช้นำมาให้ จากนั้นก็กล่าวด้วยความกังวล

“แล้วลูกๆ ล่ะ?”

“พวกเขาอยู่ที่โรงเรียนของศาสนจักร คงมีคนคอยพาเข้าไปในหลุมหลบภัย… พวกเราไม่มีเวลาแวะไปหาพวกเขา” ลุคกล่าวอย่างใจเย็น

“ตกลง” สตาร์ลิ่งทำท่าสวดวิงวอนโดยหวังว่าเทพที่ตนศรัทธาจะยื่นมือช่วยเหลือ

สองสามีภรรยารวมถึงคนรับใช้รีบออกจากบ้านและตรงไปยังท้ายถนน

หลังผ่านบ้านเลขที่ 58 หญิงสาวกระซิบกระซาบ

“ก่อนหน้านี้ฉันเคยหัวเราะเยาะทนายความเยอร์เก้นที่ยอมละทิ้งโอกาสในเบ็คลันด์และย้ายไปอยู่ทางใต้เพียงเพราะปัญหาด้านสุขภาพของมาดามดอริส… แต่ตอนนี้ ฉันชักจะอิจฉาพวกเขาขึ้นมาแล้ว”

ลุคที่ชำเลืองมาครู่หนึ่งกล่าวขึ้น

“ไม่ต้องแตกตื่น ทุกอย่างจะดีขึ้น”

ขณะสตาร์ลิ่งเริ่มเร่งความเร็วในการเดิน เธออดไม่ได้ที่จะถาม

“ลุค… พวกเราหนีออกจากเบ็คลันด์กันไหม”

“ไม่ นั่นไม่จำเป็น!” ลุคยืนกรานหนักแน่น “นี่ก็แค่เหตุสุดวิสัย”

เมื่อเห็นภรรยาทำหน้าฉงน มันเสริม

“กรุงเบ็คลันด์คือเมืองหลวงของอาณาจักร ย่อมมีมาตรการป้องกันในระดับสูงสุดอยู่แล้ว วันนี้ก็แค่เหตุสุดวิสัยที่ไม่มีใครคาดคิด ไม่มีครั้งหน้าสำหรับพวกฟุซัคอีกแล้ว! อาณาจักรของเรามีกองทัพที่เกรียงไกรที่สุดในทวีปเหนือใต้ พวกฟุซัคจะได้รับบทเรียนแน่ ไม่มีทางที่พวกมันจะรุกรานเบ็คลันด์สำเร็จเป็นหนที่สอง หลังจากวันนี้ ที่นี่จะปลอดภัยที่สุดในโลก”

“นั่นสินะ…” สตาร์ลิ่งพบว่าคำพูดของสามีฟังขึ้น จึงเชื่อโดยไม่มัวคิดมาก

อธิบายจบ ลุคเงียบงันสองสามวินาที

“แต่พวกเราก็ต้องเตรียมตัวไว้บ้าง ถ้าศาสนจักรอนุญาตให้เคลื่อนไหวได้อีกเมื่อไร พวกเราจะพาลูกๆ กลับมาและตุนอาหาร… ตุนให้มากที่สุดเท่าที่จะซื้อไหว!”

ย่านสะพานเบ็คลันด์ ในโรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่ง

เนื่องจากอยู่ค่อนข้างไกล เดซีย์และเพื่อนร่วมชั้นเรียนย่อมไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นในเขตเหนือและเขตตะวันตก และไม่ทราบว่ามีความโกลาหลเกิดขึ้นในเขตฮิลสตันถึงเชอร์วู้ด

แต่ถึงอย่างนั้น ครูจำนวนหนึ่งเดินมาที่ห้องและพาพวกเธอต่อแถวเข้าไปในวิหารใกล้เคียง

เหตุการณ์ตรงหน้าทำให้เดซีย์หวนนึกถึงโศกนาฏกรรมมหาหมอกควันแห่งเบ็คลันด์เมื่อปีที่แล้ว เพราะตอนนั้นก็ถูกพามาหลบในวิหารข้างโรงเรียนเหมือนกัน

ห…เหตุการณ์เดิมเกิดขึ้นซ้ำรอยหรือ? บาดแผลในใจทำให้ร่างกายของเดซีย์สั่นระริกไปด้วยความโกรธเจือความเศร้า

เมื่อเดินผ่านประตูห้องเรียน เด็กสาวอดไม่ได้ที่จะหันไปมองครูและถาม

“ภัยพิบัติเกิดขึ้นอีกแล้วหรือคะ?”

“น่าจะ…” ครูเองก็ไม่ทราบสถานการณ์ที่แน่ชัด เพราะแค่ทำตามระเบียบการที่ส่งมาทางโทรเลข

“มีภัยพิบัติแบบนี้ทุกปี… ในอนาคตจะมีมากกว่าปีละครั้งไหมคะ?” เดซีย์ถามด้วยน้ำเสียงล่องลอยเจือความไร้เดียงสา

ครูคนดังกล่าวจ้องเธอด้วยสายตาเอ็นดูและส่ายหน้า

“เรื่องร้ายๆ จะผ่านไป… พระองค์คอยปกป้องพวกเราทุกคนเสมอ”

เดซีย์ไม่มัวรีรอ รีบเดินตามกลุ่มเพื่อนเข้าไปในวิหารใกล้เคียงด้วยท่าทีเหม่อลอย

“ไว้ทางศาสนจักรอนุญาตให้เคลื่อนย้ายได้เมื่อไร ผมจะพาทุกคนไปหลบที่คฤหาสน์เพลงกุหลาบ… รวมถึงครอบครัวของพวกคุณด้วย… ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น แต่เมืองหลวงของอาณาจักรย่อมปลอดภัยที่สุดเสมอ และคฤหาสน์หลังนั้นอยู่รอบนอกเมืองหลวงซึ่งไม่ใช่เป้าหมายของการโจมตีทางอากาศ เพราะไม่มีค่าพอจะให้ทำแบบนั้น… อา… ในคฤหาสน์เพลงกุหลาบมีอาหารตุนไว้มากพอ รวมถึงคลังไวน์ขนาดใหญ่… ต่อให้สงครามยืดเยื้อออกไปนาน แค่พวกคุณก็จะไม่อดตาย”

ได้ยินคำพูดของนายจ้าง บรรดาคนรับใช้ที่มีครอบครัวต่างเผยสีหน้าโล่งใจสุดขีด ความกังวลถูกขจัดออกไปจากใบหน้า ส่วนวอลเตอร์เป็นตัวแทนกล่าวคำขอบคุณจากก้นบึ้ง

จากนั้น มันกล่าวหลังจากไตร่ตรอง

“ผมขอแนะนำให้ซื้ออาหารมาตุนเพิ่ม… ในสถานการณ์แบบนี้ไม่มีคำว่ามากเกินไป… และนอกจากนั้น แม้จะไม่มีการโจมตีเพิ่มเติมในแถบรอบนอกกรุงเบ็คลันด์ แต่ความวุ่นวายอาจนำมาซึ่งหัวขโมยและผู้ร้าย คฤหาสน์จะต้องยกระดับความปลอดภัยให้เข้มงวดขึ้น”

ไคลน์พยักหน้าเห็นพ้อง

“ผมเองก็กำลังพิจารณาเรื่องนี้ เตรียมปรึกษากับส.ส. มัคท์และคนของกองทัพว่าจะขอซื้ออาวุธปืนและเครื่องกระสุนที่ ‘ปลดระวาง’ สักชุดสำหรับการฝึกฝนของพวกคุณ… แต่ระหว่างนี้ ผมกับเอ็นยูนจะกลับเข้ามาในเบ็คลันด์เพื่อสะสางงานบางอย่าง ถ้ามีอะไรตกหล่นให้แก้ไขไปก่อนตามความเหมาะสม”

สำหรับเรื่องอาหาร ไคลน์ไม่ได้ห้ามให้วอลเตอร์ซื้อตุน เพราะถ้าประสบภาวะขาดแคลนอาหารจริง ไคลน์อยากให้ทุกคนอยู่รอด

หลังจากปรึกษาหารือในส่วนที่เหลือจบ ทุกคนในคฤหาสน์ของดอน·ดันเตสเก็บกระเป๋าและของมีค่า จากนั้นก็ตามนายจ้างเข้าไปหลบในชั้นใต้ดินของวิหารนักบุญแซมมวล

เพียงชำเลือง ไคลน์พบออเดรย์กำลังเดินใช้พลังปลอบโยนแก่ผู้คนจำนวนมาก ชายหนุ่มยิ้มทักทายอีกฝ่ายตามมารยาท

หลังจากเห็นดอน·ดันเตสและทักทายกลับ พิจารณาจากสีหน้าท่าทาง ออเดรย์สามารถยืนยันได้ว่ายังไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้นเพิ่มเติม

ฟอร์สและซิลย้ายบ้านอีกครั้ง แต่ก็ยังเป็นละแวกชายขอบเขตตะวันออก แต่คราวนี้ใกล้กับย่านสะพานเบ็คลันด์มากขึ้น

หลังจากตื่นตามธรรมชาติ ฟอร์สสางผมพลางเดินออกจากห้องนอนเพื่อเตรียมอาหารกลางวัน

หญิงสาวกวาดสายตาและพบซิลที่ออกจากบ้านไปแต่เช้าและกลับมาแล้ว กำลังนั่งบนเก้าอี้พลางอ่านหนังสือพิมพ์

“เกิดอะไรขึ้น?” ฟอร์สถามด้วยความฉงน

ซิลขมวดคิ้วขณะตอบ

“พวกฟุซัคโจมตีเขตเหนือและเขตตะวันตก…”

“อะไรนะ…” ฟอร์สโพล่งขึ้นก่อนจะหวนนึกถึงหัวข้อที่พูดคุยกันในชุมนุมทาโรต์

ทันใดนั้น เสียงของเด็กขายหนังสือพิมพ์ดังออกจากด้านนอก

“ข่าวด่วน! ข่าวด่วน! อาณาจักรประกาศสงครามกับฟุซัคแล้ว!”

“ข่าวด่วน! ข่าวด่วน! อาณาจักรประกาศสงครามกับฟุซัคแล้ว!”

………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ