ราชันเร้นลับ 1095 : สวมบทเป็นตัวเอง – ตอนที่ต้องอ่านของ ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ
ตอนนี้ของ ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายInternetทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ราชันเร้นลับ 1095 : สวมบทเป็นตัวเอง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
“นายสงสัยว่ากองเรือของพลเรือโทโรคภัยซ่อนอยู่บนเกาะแห่งนั้น?” ได้ยินคำพูดเดนิส แอนเดอร์สันถามครุ่นคิด
เดนิสตอบอย่างตื่นเต้น
“มีโอกาสเป็นไปได้มากทีเดียว! กาฬมรณะหายไปหลังจากหักเลี้ยวทางทิศตะวันตกจากเกาะไซรอสไม่ใช่หรือ?”
แอนเดอร์สันขดมุมปากหัวเราะ
“ถ้าที่อยู่ของพลเรือโทโรคภัยถูกนายหาพบง่ายดายเช่นนี้ เธอจะเสียเวลาซ่อนตัวไปทำไม? เกาะที่นายสามารถหาพบ นั่นคงไม่ใช่เกาะลับ”
“นายคิดจะพูดอะไรกันแน่!” เดนิสรู้สึกเหมือนถูกเย้ยหยัน
แอนเดอร์สันผายมือและยักไหล่
“ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น แค่ลองใช้สมองวิเคราะห์ดู… เกาะดังกล่าวน่าจะมีอยู่จริง แต่ไม่ได้ลึกลับขนาดนั้น… อาจเป็นเกาะที่หลายคนรู้จักดีอยู่แล้ว หรือไม่ก็มีคงจงใจปล่อยข่าว… ถ้าเป็นอย่างแรก เทรซี่คงไม่ใช้เป็นที่ซ่อนตัว แต่ถ้าเป็นอย่างหลังก็น่าสนใจว่าใครเป็นคนปล่อยข่าว”
เดนิสฉุนเฉียวเล็กน้อยในตอนต้น ก่อนจะคิดตามแอนเดอร์สันและเริ่มวิเคราะห์
“เป็นกับดักของโจรสลัดหรือไม่ก็นักผจญภัย? แต่เกาะที่มีทรัพยากรน้อยแบบนั้นจะดึงดูดให้ใครไปสำรวจได้? หรือว่าคนปล่อยข่าวจะไม่ใช่ใครนอกจากพลเรือโทโรคภัยเอง? เพื่อดูว่าใครกำลังสืบสวนหาแหล่งกบดานของเธอ?”
แอนเดอร์สันยิ้ม
“ถูกต้อง… หลังจากได้ฉันเป็นอาจารย์ นายก็พัฒนาขึ้นมาก ไม่อย่างนั้นฉันคงสงสัยว่า ต่อให้ดื่มโอสถนักวางแผนเข้าไป แต่สติปัญญาของนายก็คงไม่เพิ่มขึ้น ทำได้แค่ภาวนาให้ศัตรูโง่พอๆ กับตัวเองและเอาชนะด้วยประสบการณ์… สำหรับประโยคเมื่อครู่ ฉันไม่ใช่คนพูด แต่เป็นจักรพรรดิโรซายล์”
ในระยะหลัง แอนเดอร์สันช่วยเดนิสรวบรวมวัตถุดิบหลักและเสริมสำหรับโอสถนักวางแผนจนครบถ้วน ปัจจุบันเหลือเพียงขั้นตอนสุดท้ายก่อนจะลงมือเลื่อนลำดับ
“นายเป็นอาจารย์ของฉันตั้งแต่ตอนไหน…” เดนิสพึมพำ
แอนเดอร์สันเพิกเฉย เพียงพูดกับตัวเองแผ่วเบา
“หากเป็นข่าวลือที่พลเรือโทโรคภัยจงใจปล่อย เกาะลับดังกล่าวก็คงเป็นกับดัก… อาจไม่มีอะไรเลยนอกจากกระจกสำหรับจับตามองเรือและคนที่เข้าไปใกล้… หรือไม่ก็ ที่นั่นเป็นรังลับของนิกายแม่มดที่เกอร์มัน สแปร์โรว์เคยพูดถึง”
“แล้วพวกเราควรทำยังไงต่อ?” เดนิสถามตามความเคยชิน
แอนเดอร์สันหัวเราะในลำคอ
“เรื่องง่ายๆ แค่นี้คิดเองไม่เป็นหรือ? พวกเราจะเริ่มสืบจากคนที่นำข่าวมาบอกนาย จากนั้นก็จะสืบแบบย้อนกลับจนพบเบาะแสเพิ่มเติม”
นั่นสินะ… ในตอนแรก เดนิสอยากพยักหน้าเห็นด้วย แต่ถ้อยคำที่ถูกพ่นออกจากปากกลับเป็น ‘เฮ่อะ!’
ช่วงเช้าตรู่ของวันใหม่ บนชั้นสองของบ่อนการพนัน
บัสต์ เจ้าของเส้นผมสีน้ำตาล อ้าปากหาวพลางเดินเข้าไปในห้อง
ขณะเตรียมจุดเทียนไขโดยอาศัยแสงจากดวงจันทร์ด้านนอกหน้าต่าง มันเห็นเปลวไฟสีขาวลุกโชนขึ้นตรงหน้า แสงจากเปลวไฟสว่างจ้าจนมันตาบอดไปชั่วขณะ
หัวใจบัสต์เต้นระรัวทันที รีบกระโจนไปทางด้านข้างและม้วนตัวกลิ้ง
หลังจากกลิ้งครบสองตลบ การเคลื่อนไหวของบัสต์ชะงักกะทันหัน ราวกับถูกคำสาปกลายเป็นหิน
นั่นเพราะลำคอของมันรู้สึกเจ็บแปลบและเย็นเยียบ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า หากขยับไปข้างหน้าอีกก้าวเดียว เลือดสีแดงคงได้สาดขึ้นไปจนถึงหลังคา
“นายต้องการอะไร” เมื่อสายตาของบัสต์กลับเป็นปรกติ มันเห็นชายผมทองคนหนึ่งยืนอยู่ด้านข้างพลางใช้มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกง ส่วนอีกข้างกำลังถือมีดสีดำ ด้านหน้าเป็นชายสวมเสื้อคลุมสีดำ คลุมศีรษะปกปิดมิดชิด
เดนิสไม่ตอบคำถามบัสต์ เพียงหันไปมองแอนเดอร์สันด้วยสีหน้าประหลาดใจเบาบาง
“ทำไมนายถึงไม่ปลอมตัว?”
“ถ้าปลอมตัว… เหยื่อจะเกลียดชังถูกคนได้ยังไง?” แอนเดอร์สันตอบเสียงเรียบ
“…” เดนิสพ่นลมหายใจ “โชคดีที่ฉันไม่มีนิสัยแย่ๆ แบบนาย”
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง” แอนเดอร์สันยิ้ม “ทุกคนบนเกาะไซรอสรู้ว่าฉันอยู่กับใครในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา”
“แม่เย็*!” เดนิสสบถ
บัสต์ซึ่งถูกแอนเดอร์สันใช้มือจ่อคอ ไม่กล้าขยับเขยื้อนร่างกาย ทำเพียงตั้งใจฟังบทสนทนาพลางคิดในใจว่า นี่ตนกำลังดูละครตลกในกรุงทรีอาร์หรืออย่างไร?
พวกมันมาหาเราด้วยเหตุผลใดกันแน่… พ่อค้าข่าวกำลังสับสน
ทันใดนั้น แอนเดอร์สันถอนสายตากลับ จ้องบัสต์และกล่าว
“ใครเป็นคนบอกนาย เกี่ยวกับเกาะลับทางตะวันตกเฉียงใต้จากเส้นทางเดือนเรือหลัก”
คล้ายกับบัสต์ฉุกคิดบางสิ่ง มันหันไปทางเดนิสและแผดเสียง
“เป็นนายนี่เอง!”
ตลอดสองสามวันที่ผ่านมา ข้อมูลดังกล่าวถูกขายให้กับลูกค้าเพียงรายเดียวเท่านั้น!
…ถูกเปิดโปงเร็วขนาดนี้เชียว? เดนิสตอบพูดไม่ออกไปสักพัก
แอนเดอร์สันกดมีดสีดำในมือลึกกว่าเดิม ส่งผลให้ความเจ็บปวดจากคมมีดชัดเจนขึ้น
“ตอบคำถามมาก็พอ”
บัสต์รู้สึกราวกับวิญญาณตนใกล้หลุดลอยเต็มที จึงรีบตอบอย่างลนลาน
จัดการกับบัสต์เสร็จ เดนิสก้มหยิบวัตถุคล้ายแป้งเปียกที่ตกพื้นพลางหัวเราะเยาะ
“หมอนี่เชื่อจริงๆ ว่านายไม่ฆ่ามันเพราะอยากให้คอยเกลียดไปตลอดชีวิต”
บทสนทนาก่อนหน้าเป็นละครที่มันกับแอนเดอร์สันซักซ้อมล่วงหน้า เพื่อให้การไว้ชีวิตของแอนเดอร์สันสมเหตุสมผล
“นั่นแปลว่านายแสดงให้ดี” แอนเดอร์สันยิ้ม “การสวมบทเป็นตัวเองคงง่ายมากเลยสินะ”
“แม่เย็*!” เดนิสสบถหัวเสีย
จากนั้น มันถอนหายใจ
“คิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะอดทนมาก รอจนผ่านเที่ยงคืนค่อยลงมือ… แต่เราอดทนมากกว่า”
“หากนักล่าต้องการจับเหยื่อ ความอดทนคือสิ่งที่ขาดไม่ได้ บางครั้งต้องรอนานถึงสามวัน” แอนเดอร์สันตอบเสียงเรียบ
สำหรับพวกมันทั้งสอง เทคนิคในการสอบสวนแทบเป็นศูนย์ ไม่ว่าจะเป็นนักล่า นักยั่วยุ นักวางเพลิง หรือยมทูต ไม่มีโอสถใดเชี่ยวชาญการสื่อวิญญาณหรือสะกดจิต หากไม่ข่มขู่ทางกายภาพ วิธีเค้นข้อมูลเดียวคือการวางแผนอย่างใจเย็น
ประโยคนี้ฟังดูเข้าท่า… ในอนาคต เราต้องเก็บไว้สั่งสอนศิษย์… เดนิสจ้องวัตถุคล้ายแป้งเปียกสีดำในมือ
“ดูเหมือนว่า วิธีใช้งานคือการนำไปป้ายลงบนผิวกระจก… เจ้านี่จะช่วยให้ติดต่อกับพลเรือโทโรคภัยได้จริงหรือ?”
“ก็คงทำนองนั้น… แต่ติดต่อเธอแล้วได้อะไร? นายจะชวนมากินอาหารเช้าบนเกาะไซรอสหรือ?” แอนเดอร์สันหัวเราะ
เดนิสทราบดี ตนและแอนเดอร์สันไม่มีพลังสำหรับโน้มน้าวบุคคลอีกฟากหนึ่งของกระจก แต่ในเมื่อเป็นภารกิจที่เกอร์มัน สแปร์โรว์มอบหมาย มันอยากทำอะไรมากกว่านี้
เดนิสขมวดคิ้ว
“พวกเราควรทำยังไงต่อ?”
“แน่นอน ติดต่อเกอร์มัน สแปร์โรว์และให้เขาจัดการส่วนที่เหลือด้วยตัวเอง… ชายคนเต็มไปด้วยปริศนา แถมยังเก่งกาจหลายด้าน คงมีวิธีแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ” แอนเดอร์สันกล่าวพลางส่ายหน้า “ต้องไม่ลืมว่า งานของเรามีแค่การสืบหาแหล่งกบดานของพลเรือโทโรคภัย และตอนนี้ก็ทำสำเร็จแล้ว”
เดนิสอืมในลำคอ ก่อนจะนำเทียนไขและอุปกรณ์ประกอบพิธีกรรมออกมาวาง
“นายคิดจะทำอะไร?” แอนเดอร์สันถามด้วยสีหน้าประหลาดใจ
เดนิสก้มหน้าจัดแท่นบูชาโดยไม่หันกลับไปมอง
“อัญเชิญผู้ส่งสารของเกอร์มัน สแปร์โรว์”
“…” แอนเดอร์สันเงียบไปสองสามวินาที ก่อนจะกล่าว “ขอตัวไปสูบบุหรี่ข้างนอก”
………………………………….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ