หลังเที่ยงคืน ทั่วทั้งเบ็คลันด์ยังค่อนข้างมืดและเงียบ มีเพียงแสงไฟตามริมถนน
ไคลน์ในชุดนอนกำลังนั่งบนขอบเตียง จ้องหน้ามิสผู้ส่งสารสี่หัว ลูบหน้าผากถามอย่างอิดโรย
“จากใคร?”
ทำไมโลกถึงไม่ยอมให้ตนได้หลับสบาย?
สามหัวทองตาแดงในมือไรเน็ตต์ ไทน์เคอร์ตอบเรียงกัน
“คนรับใช้…” “ไร้สมอง…” “ของเจ้า…”
เดนิส… หมอนั่นเคยสวดวิงวอนตอนกลางดึก และนี่เพิ่งส่งจดหมายหลังเที่ยงคืน… ไคลน์สูดลมหายใจยาวและพ่นออก จากนั้นก็รับจดหมาย
หลังจากคลี่ออก สีหน้าชายหนุ่มทวีความจริงจัง เพราะเดนิสและแอนเดอร์สันค้นพบแหล่งกบดานของพลเรือโทโรคภัย เทรซี่ ในจังหวะไม่ค่อยดีนัก
จากการอนุมานของไคลน์ ในอีกไม่ช้าแม่มดขาวคาร์เทอริน่าและพลเรือโทโจรสลัดจะได้รับอิสรภาพ นั่นจะทำให้พวกเธอเคลื่อนไหวอย่างเปิดเผยมากขึ้น แต่ปัจจุบัน นักล่าทั้งสองได้เล่นงานสายข่าวของเทรซี่ อีกทั้งยังได้รับอุปกรณ์ติดต่อ ไคลน์เกรงว่าหากเทรซี่รู้เข้าจะแตกตื่นและรีบหนีไป
แน่นอน ไคลน์สามารถขอให้ราชินีเงื่อนงำ แบร์นาแดตช่วยเหลือในการล็อกตำแหน่งของพลเรือโทโรคภัยผ่านกระจกเงา แต่ปัญหาคือ ชายหนุ่มสงสัยว่าปลายทางอาจเป็นป้อมปราการสำคัญของนิกายแม่มด หรืออาจเป็นถึงศูนย์บัญชาการใหญ่ที่เก็บรักษาสมบัติปิดผนึกระดับศูนย์ ดังนั้นต่อให้ล็อกตำแหน่งเทรซี่ได้ แต่ไคลน์ก็ไม่กล้าเทเลพอร์ตไปจับกุมตัวอยู่ดี นอกจากนั้น การล็อกตำแหน่งอาจทำให้อีกฝ่ายไหวตัวทันและเตรียมตัวรับมือ
แต่ถ้าเราไม่ใช้โอกาสนี้เพื่อติดต่อเธอ ไม่ว่าบัสต์จะอยู่หรือตาย อีกฝ่ายจะพบความผิดปรกติหลังจากรุ่งสาง และนั่นทำให้เทรซี่เพิ่มความหวาดระแวง
ให้ตายสิ… แต่ก็โทษพวกเขาไม่ได้ แอนเดอร์สันกับเดนิสไม่เข้าใจสถานการณ์ดีพอ ไม่ล่วงรู้ข่าวคราวความเปลี่ยนแปลงในอาณาจักรโลเอ็น… ไตร่ตรองสักพัก ไคลน์พูดกับมิสผู้ส่งสาร
“ช่วยรอสักครู่ ผมจะเขียนตอบ”
เดิมที มันคิดจะเทเลพอร์ตไปหาโดยตรงและกำชับแผนงานอย่างละเอียด แต่หลังจากครุ่นคิดสักพัก ชายหนุ่มเลือกจะเขียนจดหมาย
แม้ว่าไคลน์จะมั่นใจว่าซาราธคงไม่ยุ่งกับเหยื่อที่ดูเหมือนกับดักอย่างเดนิส แต่ชายหนุ่มตัดสินใจไม่ประมาท เพราะการที่ซาราธไม่ลงมือ ไม่ได้แปลว่าคนของลัทธิเร้นลับจะไม่ทำอะไร องค์กรลับขนาดใหญ่แบบนี้ต้องมีครึ่งเทพระดับนักบุญไม่น้อย หากต้องเข้าไปพัวพันคงได้เกิดปัญหาใหญ่
“ตกลง” ศีรษะของไรเน็ตต์ ไทน์เคอร์ที่ยังไม่ได้พูด ตอบสนองพร้อมกับพยักหน้า
ไคลน์ลุกออกจากเตียง เดินออกจากห้องนอน หยิบปากกาและกระดาษมาเขียนอย่างเรียบง่าย
“หาวิธีทำให้บัสต์หมดสติจนถึงช่วงเช้า…”
“จากนั้น รีบออกจากห้องทันที หนีไปให้ไกล ในห้องมีอันตรายร้ายแรงซุกซ่อนอยู่”
“รอจนถึงเช้า คอยจับตามองบัสต์อีกครั้ง แต่คราวนี้อย่าไปรบกวน”
อันตรายที่ไคลน์เอ่ยถึงนั้นกึ่งจริงกึ่งเท็จ จุดประสงค์หลักมีแค่การทำให้แอนเดอร์สันกับเดนิสออกห่างจากจุดเกิดเหตุ
ไคลน์วางปากกาลงและอ่านทวน จากนั้นก็พับกระดาษจดหมายส่งให้ไรเน็ตต์ ไทน์เคอร์ที่เดินตามออกมา
…
ตีสามสิบนาที เกาะไซรอส ณ ทะเลคลั่ง ห้องนอนบัสต์
เดนิสเพิ่งเก็บกวาดแท่นบูชาเสร็จ ทันใดนั้น มันเห็นผู้ส่งสารสี่หัวที่น่าสะพรึงย้อนกลับมาหา
เกอร์มัน·สแปร์โรว์ยังไม่มาด้วยตัวเอง… เดนิสเหยียดแขนออกไปรับคำตอบด้วยสีหน้าประหลาดใจ ตามด้วยการยื่นเหรียญทองให้ผู้ส่งสาร
รอจนกระทั่งสตรีสี่หัวในเดรสสีดำซับซ้อนเลือนหายไป เดนิสคลี่กระดาษจดหมายออกและกวาดตาอ่าน
ม…มีอันตราย! ดวงตาเดนิสพลันเบิกกว้าง รีบวิ่งไปที่หน้าประตูราวกับถูกไฟคลอกร่าง
เมื่อพ้นกรอบประตู มันเห็นแอนเดอร์สันที่กำลังยืนพิงกำแพงโถงทางเดิน คาบบุหรี่แต่ไม่จุด เดนิสรีบโพล่ง
“เร็วเข้า ที่นี่มีอันตราย!”
“…เกอร์มันสแปร์โรว์พูดแบบนั้นหรือ” แอนเดอร์สันผงะเล็กน้อย ก่อนจะถามหลังจากครุ่นคิด
“ใช่… นายรู้ได้ยังไงว่าฉันไม่ได้ค้นพบเอง?” เดนิสถามตามความเคยชิน
“นายน่ะหรือ? หึหึ” แอนเดอร์สันหัวเราะในลำคอ ถามกลับผ่อนคลาย “แล้วเขาบอกอะไรอีก?”
“นายไม่กังวลเลยหรือ? เกอร์มันสแปร์โรว์ไม่เคยผิดพลาดในเรื่องแบบนี้” สติเดนิสไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว
แอนเดอร์สันเงียบไปสักพัก
“ผู้ส่งสารของเขาแม่นยำยิ่งกว่า… อย่างน้อยในช่วงสองสามนาทีก่อนและหลังเธอจะมาและกลับไป ที่นั่นจะยังปลอดภัย”
เพราะถ้าในห้องมีอันตรายอยู่จริง มันคงหดหัวกลับไปหลังจากได้เห็นผู้ส่งสาร
“…” เดิมที เดนิสอยากโต้แย้ง แต่ด้วยเหตุผลบางประการ มันยอมจำนนตามสัญชาตญาณ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ