ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ นิยาย บท 1133

ในย่านสะพานเบ็คลันด์ อาศัยข้อมูลจากมิสผู้ส่งสาร ไคลน์มองเห็นชายที่ถูกทริสซี่ล่อลองให้ช่วยส่งจดหมายแทน

อย่างไรก็ตาม ไคลน์ไม่ได้ตามเข้าไปในบ้าน ไม่เข้าใกล้เป้าหมาย เพียงล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อกันลมสีดำและเดินต่อไป

ท่ามกลางแสงไฟจากตะเกียงแก๊ส มันเดินมาถึงทางแยกและเลี้ยวไปยังถนนเส้นอื่น

ระหว่างนั้น หนูตัวหนึ่งซึ่งกำลังขโมยอาหารในอาคารเกิดตัวกระตุก

มันทิ้งก้อนชีสในมือทันที เดินกลับไปตามทางที่เคย ‘ผ่านประจำ’ และเข้าใกล้พื้นที่เป้าหมาย

จากนั้น หนูเปิดปากขึ้นในมุมอับ เปล่งเสียงภาษามนุษย์

“ข้ารับใช้แห่งท้องทะเลและโลกวิญญาณ ผู้พิทักษ์แห่งหมู่เกาะรอสต์ ผู้ปกครองมวลหมู่สัตว์ทะเล เจ้าแห่งสึนามิและลมพายุ คาเวทูว่าผู้ยิ่งใหญ่…”

ทันทีที่เสียงของหนูตัวดังกล่าวเงียบลง ไคลน์ซึ่งเลี้ยวเข้าไปในถนนเส้นอื่น อันตรธานหายไป เหลือเพียงร่องรอยของสะเก็ดไฟกลางอากาศ

มันใช้กระโจนเพลิง ทว่า ปลายทางไม่ใช่สถานที่เปิดโล่ง แต่เป็นภายในห้องพักโรงแรมที่ให้หุ่นเชิดแอบมาจองไว้ล่วงหน้า จึงไม่ต้องกังวลว่าจะถูกซาราธตระหนักถึงหรือเกิดเหตุไม่คาดฝัน เพราะระยะทางสั้นมาก แถมปลายทางยังชัดเจนและปลอดภัย

ภายในห้อง ไคลน์เดินถอยหลังสี่ก้าวโดยมีหุ่นเชิดเอ็นยูนยืนมอง ส่งตัวเองเข้าสู่มิติหมอก

เมื่อกลับมานั่งบนเก้าอี้ประธานโต๊ะทองแดงยาว ไคลน์เสกคทาเทพสมุทร อาศัยจุดแสงแห่งการสวดวิงวอน มองผ่านไปยังโลกความจริงด้วยตาทิพย์ คอยสังเกตพฤติกรรมของเป้าหมาย – ชายผู้ถูกแม่มดทริสซี่ล่อลวงให้ส่งข่าว

ผ่านไปไม่กี่นาที ไรเน็ตต์·ไทน์เคอร์ปรากฏตัวในห้องเช่าตามที่นัดหมาย หยิบเหรียญทองและซองจดหมายที่ถูกวางไว้บนโต๊ะ

ชายคนเดิมสั่นกลัวอีกครั้ง แต่ท้ายที่สุดก็เอาชนะความกลัว หยิบจดหมายขึ้นมาและกะน้ำหนัก

สิบห้านาทีถัดมา มันหยิบวัตถุที่คล้ายกับก้อนแป้งเปียกสีดำออกมาป้ายลงบนผิวกระจกอย่างทั่วถึง

เพียงพริบตา มันได้พบกับสตรีในฝันของตนภายในกระจกเงา จึงรีบรายงาน

“นักผจญภัยเสียสติเพิ่งส่งจดหมายมา คล้ายกับมีบางสิ่งแนบมาด้วย ตามคำสั่งของคุณ ผมไม่ได้แกะออกมาดู”

ขณะเดียวกัน ฉากที่ไคลน์เห็นบนมิติหมอกค่อนข้างประหลาด

ในการมองเห็นของชายหนุ่ม ภาพบนผิวกระจกนั้นพร่ามัว ใกล้เคียงกับความมืดมิด ดูลวงตาและไม่สมจริง ผิวกระจกเชื่อมต่อกับสิ่งคล้ายคลึงกันภายในห้องจนเกิดเป็น ‘ใยแมงมุม’ ที่ซับซ้อนและมายา ถักสานและเชื่อมต่อเข้ากับ ‘โลก’ ที่ดูพิสดารใบหนึ่ง

ไคลน์ที่อาศัยตาทิพย์ของมิติหมอก พอจะมองเห็นเค้าโครงภาพรวมอย่างเลือนราง แต่มิอาจจำแนกรายละเอียด ไม่แน่ใจว่าโลกใบดังกล่าวมีตัวตนที่น่าสะพรึงกลัวซ่อนอยู่หรือไม่

ในเชิงศาสตร์เร้นลับ กระจกมักเป็นตัวแทนของการนำไปสู่ ‘อาณาจักรอื่น’ โดยมากมักเป็นสถานที่สยองขวัญ…นี่คงเป็น ‘โลกในกระจก’ …พลังพิเศษของเราอยู่นอกเหนือขอบเขตดังกล่าวโดยสิ้นเชิง…ไม่สิ หากมีใครสักคนสวดวิงวอนถึงเราด้วยพิธีกรรมกระจกวิเศษทำนาย นั่นจะช่วยให้กระจกเงาเชื่อมต่อมาถึงเรา…มาถึงมิติหมอกแห่งนี้…

กล่าวคือ ‘โลกในกระจก’ ไม่ใช่โลกแห่งความจริง แต่ใกล้เคียงกับ ‘บานประตูร่วม’ ที่เชื่อมต่อกระจกทุกบานเข้ากับอาณาจักรที่แตกต่างกัน หากหลงทางภายในนั้น กว่าจะรู้ตัวอีกทีอาจไปโผล่ที่นรก หรือไม่ก็อวกาศ…แต่แน่นอน ครึ่งเทพในขอบเขตดังกล่าวสามารถสร้าง ‘โลกของภาพสะท้อน’ และเข้าไปซ่อนตัวได้…

บานประตูร่วม…หมายความว่านอกจากแม่มดและวิญญาณอาฆาต ผู้วิเศษลำดับสูงของเส้นทางผู้ฝึกหัดก็พลังที่คล้ายคลึงกัน? หรือคำว่า ‘ลึกลับ’ ในชื่อ ‘จอมเวทลึกลับ’ จะเป็นตัวแทนของ ‘โลกในกระจก’ …เป็นไปได้ โลกในกระจกสามารถสื่อถึงความลึกลับได้เช่นกัน…ภายใต้สถานการณ์ปรกติ ต่อให้มีตาทิพย์ของมิติหมอก แต่เราก็จะไม่มีทางเห็น ‘โลกในกระจก’ โดยตรง เว้นเสียแต่จะมีใครบางคนช่วยกระตุ้น…ไคลน์พยักหน้าไตร่ตรอง ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงแม่มดทริสซี่ตอบกลับอย่างอ่อนหวาน

“โยนจดหมายเข้ามาในกระจก”

“โยนเข้าไปได้ด้วยหรือ…” ในฐานะผู้วิเศษลำดับต่ำ ชายคนนี้ไม่เคยสัมผัสประสบการณ์มหัศจรรย์มาก่อน จึงลังเลสักพัก ก่อนจะลองกดจดหมายลงบนกระจก

บนผิวกระจก ความมืดแผ่ขยายออกมาในลักษณะคลื่นน้ำกระเพื่อม

ชายคนดังกล่าวสัมผัสได้ถึงความหนักแน่นจากฝ่ามือ จดหมายเริ่มทะลุผ่านผิวกระจกอย่างน่าอัศจรรย์ หลุดเข้าไปในมิติมายา

ทันทีหลังจากนั้น คล้ายกับจดหมายถูกดูดด้วยกระแสน้ำวนขนาดใหญ่ ค่อย ๆ ไหลไปยังห้องที่ทริสซี่อาศัยอยู่

เหนือมิติหมอก ไคลน์ยกคทาเทพสมุทรขึ้น จดจ่ออยู่กับการแกะรอยจดหมาย พยายามระบุพิกัดของแม่มด

ทันใดนั้น ในทัศนวิสัย ‘ตาทิพย์’ ของชายหนุ่ม โลกในกระจกที่มืดมิดและลุ่มลึก เกิดความผันผวนอย่างหนักจนทุกสิ่งพร่ามัว

เมื่อความผันผวนสงบลง ไคลน์ถูกตัดขาดจากจดหมายและแม่มดทริสซี่

ออร่าของแม่มดบรรพกาลอาจช่วยขัดขวางการจ้องมองในลักษณะนี้…ไคลน์เงียบไปสักพักก่อนจะถอนหายใจยาว

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทำไมไคลน์ถึงไม่กล้าผสมเส้นผมของตัวเองเข้ากับเส้นผมของศพเพื่อเกาะรอย เพราะชะตากรรมของจนอาจจบลงด้วยการถูกสาปหรือไม่ก็ตายคาที่

ในความกังวลของไคลน์ การตายคาที่ไม่ใช่จุดจบที่เลวร้ายนัก เพราะตราบใดที่ศพไม่ถูกทำลายไปด้วย มันมีโอกาสที่จะคืนชีพกลับมาใหม่ แต่ปัญหาก็คือ นั่นจะทำให้ทริสซี่ไหวตัวทันและหนีไป เป็นการสิ้นเปลืองโอกาสคืนชีพอันมีค่าไปอย่างเปล่าประโยชน์

ไคลน์ซึ่งพ่ายแพ้ในยกนี้ รีบส่งตัวเองกลับสู่โลกความจริงและออกจากย่านสะพานเบ็คลันด์

เช้าวันรุ่งขึ้น ไคลน์ซึ่งมีใบหน้าธรรมดา เดินทางไปยังวิหารนักบุญแซมมวลด้วยรถม้า

แผนของมันก็คือ ท่องพระนามเต็มอันทรงเกียรติของเทพธิดารัตติกาลเพื่อแจ้งว่า แม่มดทริสเตรียมจะทำสิ่งใดขณะพระจันทร์เต็มดวงครั้งถัดไป อย่างน้อยก็ควรมีเทพแท้จริงสักตนคอยเฝ้ามองเบ็คลันด์ในช่วงเวลาที่เผชิญความเสี่ยง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ