ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ นิยาย บท 1162

เกอร์มันสแปร์โรว์หายไป…แบร์นาแดตเกิดลางสังหรณ์บางอย่างทันทีเมื่อเห็นผู้ส่งสารย้อนกลับมา เธอพอจะเข้าใจอย่างคลุมเครือว่าเกิดอะไรขึ้นกับอีกฝ่าย ดังนั้นเมื่อได้ยินคำอธิบายปากจากผู้ส่งสาร หัวใจหญิงสาวพลันดำดิ่ง แต่มิได้แสดงออกทางสีหน้า

ดวงตาสีฟ้าของราชินีเงื่อนงำทวีความลุ่มลึกและดำมืด สูญเสียความคมชัดไปชั่วขณะ ราวกับกำลังจ้องมองกระแสแห่งชะตากรรมของไรเน็ตต์ไทน์เคอร์

ไม่กี่วินาทีถัดมา แบร์นาแดตหลับตาสนิท ประหนึ่งเบื้องหน้าเต็มไปด้วยแสงสว่างเจิดจ้า

ของเหลวสีเลือดไหลออกจากหางตา ส่งผลให้ใบหน้าทวีความขาวซีด

เมื่อดวงตาราชินีเงื่อนงำปิดสนิท หญิงสาวกล่าวด้วยเสียงกึ่งล่องลอย

“เกอร์มันสแปร์โรว์กำลังเผชิญวิกฤติร้ายแรง…ความมืดมิดกลืนกินแสงสว่าง…โอกาสรอดเหลือเพียงริบหรี่”

นี่คือคำพยากรณ์

ลำดับสามของเส้นทางผู้ส่องความลับมีชื่อว่า ‘ผู้หยั่งรู้’

สีหัวของไรเน็ตต์ไทน์เคอร์พูดเรียงกัน

“ความมืด…” “คือสัญลักษณ์…” “ของ…” “สิ่งใด…”

แบร์นาแดตยังคงรักษาความเยือกเย็น

“ว่างเปล่า บิดเบือน หายนะ แง่ลบ และข้อผิดพลาด”

ไรเน็ตต์ไทน์เคอร์ที่แต่งกายในเดรสยาวสีเข้มซับซ้อน ไม่เปล่งคำใดออกมาอีก เพียงวางจดหมายและเหรียญทองลง เดินกลับเข้าไปในความมืด

ราชินีเงื่อนงำ แบร์นาแดต ยังคงยืนในตำแหน่งเดิมโดยไม่ขยับเขยื้อนนานหลายวินาที

ในที่สุดเธอก็ลืมตาอีกครั้ง แต่ดวงตาสีฟ้าทั้งพร่ามัวและหม่นหมอง คล้ายกับต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะฟื้นฟูกลับมา

แบร์นาแดตครุ่นคิดสักพักและเหยียดมือขวาออกไป

ผ้าปูโต๊ะห่อเข้าหากันและคลี่ออกอีกครั้ง อุปกรณ์ประกอบพิธีกรรมถูกแทนที่ด้วยปากกา กระดาษ และขวดหมึก

ปากกาลอยขึ้นราวกับถูกยกด้วยมือล่องหน เขียนอธิบายเกี่ยวกับการหายตัวไปของเกอร์มันสแปร์โรว์อย่างรวดเร็ว

ในทะเลโซเนีย ห้องกัปตันของอนาคตกาล

พลเรือเอกดวงดาว แคทลียา เฝ้ามองเห็ดทอดบนจานตรงหน้า แม้จะได้กลิ่นหอมหวนลอยโชย แต่เธอก็มิได้จับมีดส้อมเป็นเวลานาน

ทันใดนั้นสัมผัสวิญญาณของหญิงสาวถูกกระตุ้น เธอรีบมองไปทางเครื่องวัดมุมทองเหลืองและพบว่ามีจดหมายฉบับใหม่วางอยู่ตั้งแต่ตอนไหนก็มิอาจทราบ

แคทลียาเผยรอยยิ้มทันที รีบหยิบจดหมายขึ้นมาอ่าน

คิ้วของเธอบรรจงขมวดเข้าหากัน

“เกอร์มันสแปร์โรว์หายตัวไป…” แคทลียาพึมพำแก่นสารของจดหมายด้วยเสียงต่ำ เธอตระหนักว่าเรื่องนี้ร้ายแรงกว่าที่คิด

หญิงสาวเข้าใจความนัยแฝงของจดหมายจากราชินีเงื่อนงำทันที โดยไม่รีรอ แคทลียาก้มศีรษะพลางประสานมือ ท่องพระนามเต็มเป็นภาษาเฮอร์มิสโบราณ

“เดอะฟูลจากต่างยุคสมัย…”

เหนือสายหมอกสีเทา ดาวแดงตัวแทนเฮอร์มิทพลันสั่นกระเพื่อม มันยุบพองอย่างต่อเนื่องพร้อมกับสร้างวงแหวนที่มาพร้อมเสียงสวดวิงวอน

วงแหวนวิงวอนที่มีลักษณะเป็นระลอกคลื่น สอดประสานเข้ากับคลื่นของดาวแดงตัวแทนเมจิกเชี่ยนและเดอะซัน ดูคล้ายกับกระแสน้ำที่ไหลผ่านพระราชวังโบราณอันโอ่อ่าสง่างาม

ใครบางคนสวดวิงวอนถึงเดอะฟูลอีกแล้ว…การสอดประสานทวีความรุนแรง เสียงที่ได้ยินก็ทวีความคมชัด…อา…เราได้ยินอย่างชัดเจน ภาพที่เห็นก็คมชัด…เป็นมาดามเฮอร์มิท…มีแค่เธอที่ชอบสวมชุดคลุมจอมเวทโบราณ…

ราชินีเงื่อนงำค้นพบความผิดปรกติเกี่ยวกับเกอร์มันสแปร์โรว์แล้ว? แม้ว่าเราจะเคยกังวลว่าตัวเองอาจต้องตายและใช้เวลาสักพักในการคืนชีพ จึงบอกใบ้ชุมนุมทาโรต์ไว้ล่วงหน้าว่าอาจมีการเลื่อน แต่นั่นเป็นแค่การบอกใบ้ ไม่ใช่ประกาศอย่างเป็นทางการ ยังไม่มีอะไรชัดเจน…เมื่อวันจันทร์มาถึง พวกเขาควรจะแตกตื่นและสวดวิงวอนหรือพยายามติดต่อ นั่นจะให้ทุกคนทราบว่ามิสเตอร์ฟูลหายตัวไปเช่นกัน…หนีตามไปกับเดอะเวิร์ล…ไคลน์รำพันจิกกัดตัวเอง หวังบรรเทาความตึงเครียด

มันชำเลืองอามุนด์ที่เดินอยู่ด้านข้างและยกตะเกียงขึ้น

“มันควรจะดับไปนานแล้ว”

อามุนด์ที่แต่งกายในชุดคลุมทรงโบราณสีดำและหมวกปลายแหม พยักหน้าเล็กน้อยพลางตอบ

“ข้าทำให้มันอยู่ในภาวะพิเศษ สามารถส่องแสงได้นานนับสัปดาห์โดยไม่ต้องใช้เชื้อเพลิง”

ไคลน์ไตร่ตรองสักพัก

“เป็นการ ‘หลอก’ กฎแห่งธรรมชาติ?”

อามุนด์หันหน้ามาทางไคลน์และจ้องด้วยตาข้างที่สวมแว่นสักพัก

“ฉลาดมาก…ลำดับสาม ของเส้นทางนักจารกรรมคือการยกระดับนักต้มตุ๋นขึ้นมาอีกขั้น มักถูกเรียกว่าเจ้าแห่งการหลอกลวง”

เกือบเดาถูก…แต่ไม่ใช่แค่เส้นทางข้อผิดพลาดที่ทำได้ เส้นทางจักรพรรดิมืดก็มีพลังในการบิดเบือนและฉกฉวยเช่นกัน…ไคลน์เริ่มเปรียบเทียบระหว่างเส้นทางนักกฎหมายและนักจารกรรม

ขณะเดียวกัน อามุนด์ลูบคางพลางถาม

“อีกไม่เกินสามวันก็ถึงแล้ว หากเจ้าไม่เริ่มคิดหาวิธีหนีอย่างจริงจัง เกรงว่าอาจไม่ทันการ…พรุ่งนี้จะลองหนีอีกครั้งใช่ไหม?”

“…ลองเดาดูสิ” ไคลน์แสยะยิ้ม ตอบอย่างยอกย้อนเฉกเช่นที่อามุนด์ชอบทำ

ว่ากันตามตรงในแง่ของการหลบหนี ไคลน์ไม่คิดว่ายิ่งทำบ่อยแล้วจะยิ่งได้ผลลัพธ์ที่ดี

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ