งูยักษ์สีเงินสว่างก้มมองออเดรย์พลางเปิดปากสีแดงก่ำ
“โอสถลำดับ หนึ่ง ที่ซาราธ ผู้นำลัทธิเร้นลับดื่มเข้าไปถูกปรุงจากตะกอนพลังของบริวารเร้นลับ กล่าวอีกนัยหนึ่ง เจ้านั่นมีตะกอนพลังผู้ชี้นำปาฏิหาริย์สองชุดในตัว…”
“เช่นเดียวกันกับบรรพบุรุษของตระกูลอันทีโกนัสในอดีต แต่แน่นอน หากมันมีคนโปรดและอยากอำนวยความสะดวกให้อีกฝ่าย ในฐานะเทวทูตที่มีระดับตัวตนสูง มันสามารถสกัดตะกอนพลังผู้ชี้นำปาฏิหาริย์ส่วนเกินออกมาให้คนโปรดได้…”
“ตะกอนผู้ชี้นำปาฏิหาริย์ก้อนที่สามได้ผสานเข้ากับตะกอนพลังที่ไม่ทราบต้นกำเนิด กลายเป็นสมบัติปิดผนึก ‘ศูนย์-ศูนย์ห้า’ หรือที่เรียกกันว่า ‘ตะเกียงวิเศษประทานพร’…เทพแท้จริงบางตนเคยพยายามทำลายสมบัติปิดผนึกชิ้นนี้เพื่อแยกตะกอนพลังออกจากกัน แต่ก็ต้องล้มเหลว…”
“ตะกอนพลังผู้ชี้นำปาฏิหาริย์ก้อนที่สี่และห้าอยู่ในมือโบสถ์สุริยันเจิดจรัสและวายุสลาตันในรูปแบบสมบัติปิดผนึกระดับ ศูนย์ หนึ่งในนั้นมีรหัส ศูนย์-หนึ่งสาม มาจากพระผู้สร้างในยุคสมัยที่สาม ถูกเรียกว่า ‘งานเลี้ยงมื้อสุดท้าย’ ส่วนอีกหนึ่งมีรหัสว่า ศูนย์-สามสอง เป็นผลผลิตจากสงครามสี่จักรพรรดิ ถูกเรียกว่า ‘โรงละครที่ไม่มีวันปิดม่าน’…”
“ตะกอนพลังผู้ชี้นำปาฏิหาริย์ก้อนที่หกน่าจะอยู่ในดินแดนเทพทอดทิ้ง กล่าวกันว่าที่นั่นมีหมาป่าอสูรทมิฬปรากฏตัวเป็นครั้งคราวในช่วงต้นของยุคสมัยที่สาม แต่หลังจากเหตุการณ์มหาภัยพิบัติ ข่าวคราวของมันก็หายไปโดยสิ้นเชิง”
ออเดรย์ฟังอย่างตั้งใจ กล่าวหลังจากไตร่ตรองด้วยความรอบคอบ
“คุณระบุว่าตะกอนพลังของผู้ชี้นำปาฏิหาริย์จะมีสูงสุดได้หกก้อนในกรณีที่ตำแหน่งลำดับ หนึ่ง อย่างบริวารเร้นลับถูกเติมเต็ม แต่เมื่อครู่คุณเพิ่งเอ่ยถึงลำดับ หนึ่ง เพียงสองตนนั่นคือซาราธแห่งลัทธิเร้นลับ และบรรพบุรุษของตระกูลอันทีโกนัส…ในสถานการณ์เช่นนี้ หมายความว่าอาจมีตะกอนพลังผู้ชี้นำปาฏิหาริย์หลงเหลือมากกว่าหกก้อน…”
นั่นไม่ใช่ข้อมูลที่เกอร์มันสแปร์โรว์แจ้งให้ทราบล่วงหน้า แต่เกิดจากการวิเคราะห์และตกผลึกเป็นความเข้าใจของออเดรย์เอง
ดวงตาสีแดงของงูยักษ์ขยับเล็กน้อย
“อันที่จริงต้องบริวารเร้นลับสามตน…แต่ในยุคสมัยที่สอง เมื่อครั้งเทพบรรพกาลเฟรเกียยังมีชีวิตอยู่ ตะกอนพลังบริวารเร้นลับก้อนที่สามได้อันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอย รวมถึงตะกอนพลังผู้ชี้นำปาฏิหาริย์ที่เกี่ยวข้องกันด้วย บางทีพวกมันอาจรวมกันเป็นก้อนเดียวในสถานะซ่อนตัวที่มีประสิทธิภาพ”
ออเดรย์พยักหน้าแผ่วเบา
“เข้าใจแล้วค่ะ ดิฉันจะส่งต่อข้อมูลให้มิสเตอร์ดอนดันเตส…เอ่อ…เขายังฝากถามด้วยว่า คุณมีอะไรให้เขาช่วยไหม?”
งูยักษ์สีขาวเริ่มขยับตัว หนึ่งในสามของร่างกายท่อนบนชูคอขึ้น
“ไม่…ไม่ใช่เรื่องใหญ่…หนึ่งในข้ารับใช้ของข้าเป็นยอดนักชิม เขาปรารถนาจะชิมไอศกรีมรสเลิศจากบรรดาตระกูลขุนนางใหญ่เพื่อเปรียบเทียบกันว่าของใครอร่อยที่สุด”
…คำขอแบบนี้…มิสเตอร์งู…เอ่อ…อาจเป็นมาดามงู…ท่านใจดีกับข้ารับใช้มาก…แต่น้ำเสียงฟังดูเหมือนอดใจรอไม่ไหวแล้ว…ฟู่ว…เป็นคำขอที่ง่ายมาก เรารับปากแทนมิสเตอร์เวิร์ลได้ ให้มองว่าเป็นการสะสมคะแนนผลงานเพื่อแลกสูตรโอสถ…ออเดรย์ครุ่นคิดสักพักก่อนจะตอบ
“ไม่มีปัญหาค่ะ…แต่ดิฉันจะส่งไอศกรีมให้ด้วยวิธีใด?”
งูยักษ์สีเงินสว่างขดตัวเล็กน้อย
“สังเวยถึงเขา…เขาเป็นนักบุญลำดับ สาม แล้ว สามารถรับมอบเครื่องสังเวยหากอยู่ในเมืองเดียวกัน…นามเต็มอันทรงเกียรติก็คือ ร่างอวตารแห่งโชค สัตว์ประหลาดแห่งการพยากรณ์ ภัยพิบัติผู้แพร่กระจายเคราะห์กรรม สักขีพยานของทุกชะตากรรมในเบ็คลันด์ ผู้พิทักษ์แห่งความโกลาหลและบ้าคลั่ง”
มีบางจุดที่แตกต่างจากนามเต็มอันทรงเกียรติของผู้วิเศษลำดับ สาม ตามปรกติ…ในวรรคสุดท้ายไม่มีชื่อกำกับไว้…ดวงตาออเดรย์ขยับเล็กน้อย แต่ในท้ายที่สุดก็พยักหน้ารับ
…
ผู้พิทักษ์แห่งความโกลาหลและบ้าคลั่ง…วรรคสุดท้ายน่าสนใจทีเดียว…นี่คงไม่ใช่พระนามเต็มของอสรพิษแห่งชะตา แต่เป็นชื่อที่วิลเคยใช้เมื่อครั้งยังเป็นลำดับ สาม โดยมีการปรับแต่งเล็กน้อยในภายหลัง…เส้นทางสัตว์ประหลาดต้องคอยจับตามองความโกลาหลและบ้าคลั่งของโลกใบนี้? หรือหมายถึงเรื่องที่ผู้วิเศษลำดับต่ำของเส้นทางต้องต่อสู้กับความยากลำบากดังกล่าว และพยายามทำให้ทุกสิ่งดูเป็นปรกติ? ไคลน์ที่ได้ฟังคำตอบจากมิสจัสติส ไม่แปลกใจกับข้อเรียกร้องอยากกินไอศกรีมของวิลอัสติน แต่สนใจนามเต็มอันทรงเกียรติของประธานแห่งโรงเรียนชีวิตมากกว่า
หึหึ…ข้ารับใช้ของข้า…ฟังดูเหมือนกับการอ้างว่า ‘เพื่อนฝากถาม’…หมอนั่นกำลังเลียนแบบเรา? ไม่สิ เรามีข้ารับใช้ตัวจริง และนั่นคือเดนิส! อีกสักพักคงต้องให้เดนิสสังเวยอาหารจริงมาให้กินบ้าง คนเราคงไม่สามารถกินเห็ดหรือภาพฉายทางประวัติศาสตร์ไปได้ตลอดแน่…ถ้ามีโอกาสก็อยากชวนเดอะซันน้อยมากินด้วยกัน การกินเห็ดของแฟรงค์บ่อยๆ คงไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไร…อา…ข้ารับใช้จริงๆ ของวิลไม่น่าจะมีน้อยไปกว่าเรา อาจมากกว่าด้วยซ้ำเพราะหมอนั่นมีองค์กรใหญ่อย่างโรงเรียนชีวิต…ไคลน์เสกเกอร์มันสแปร์โรว์ขึ้นมาสวดวิงวอนและแจ้งกับมิสจัสติสว่า ไอศกรีมเหล่านั้นจะถูกแลกกับคะแนนผลงานจำนวนมาก
หลังจากจัดการเสร็จ มันเคาะนิ้วลงบนขอบโต๊ะทองแดงยาวลวดลายโบราณพลางพิจารณาเกี่ยวกับวัตถุดิบหลักโอสถผู้ชี้นำปาฏิหาริย์
เลิกหวังว่าซาราธจะสกัดตะกอนพลังส่วนเกินมาให้เราได้เลย…สิ่งเดียวที่เจ้านั่นต้องการคือการเปลี่ยนเราให้เป็นหุ่นเชิด…
การพึ่งพาตะกอนพลังส่วนเกินจากอันทีโกนัสยังไม่สิ้นหวังเสียทีเดียว…เทพธิดาอาจช่วยเราได้ แต่ปัญหาคือเรายังไม่มีสิ่งใดไปแลกเปลี่ยน…นอกจากนั้น เทพธิดาอาจยังไม่มีวิธีสกัดออกมา เพราะการฆ่า ‘ฮาล์ฟฟูล’ ที่คลุ้มคลั่งอาจทำให้อีกฝ่ายหลุดพ้นจากสถานการณ์ยากลำบากในปัจจุบันและคืนชีพที่ใดสักแห่ง เหมือนกับที่เราหลุดพ้นจากอามุนด์ นั่นคงเป็นเหตุผลที่เทพธิดาทำได้เพียงผนึกอีกฝ่ายไว้…ในสถานการณ์แบบนี้ การสกัดตะกอนพลังผู้ชี้นำปาฏิหาริย์ออกจากตัวอันทีโกนัสคงเป็นไปไม่ได้…
เลิกคิดถึง ศูนย์-ศูนย์ห้า ได้เลย กระทั่งเทพแท้จริงยังไม่มีปัญญาป่น นับประสาอะไรกับเรา…แถมต้นกำเนิดของมันก็ยังฟังดูลึกลับและอันตราย…
ศูนย์-หนึ่งสาม ของโบสถ์สุริยันเจิดจรัสมีชื่อว่า ‘งานเลี้ยงมื้อสุดท้าย’ เป็นผลผลิตจากพระผู้สร้างที่เมืองเงินพิสุทธิ์นับถือ… ทำไมชายคนนี้ถึงชอบใช้ชื่อที่หมิ่นเหม่นัก…ศูนย์-สามสอง ของโบสถ์วายุสลาตันมีชื่อว่า ‘โรงละครที่ไม่มีวันปิดม่าน’…แต่ฟังชื่อก็พอจะจินตนาการวิธีใช้งานออก…โอกาสครอบครองสมบัติปิดผนึกระดับ ศูนย์ ทั้งสองชิ้นนั้นต่ำมาก แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ขึ้นกับว่าสุริยันเจิดจรัสกับวายุสลาตันต้องการปลุกปั้นเราเพื่อต่อต้านอามุนด์มากแค่ไหน…
จวบจนปัจจุบัน พวกท่านยังไม่เคยแสดงความกรุณาให้เห็นเป็นประจักษ์ และเราก็ไม่มีโอกาสติดต่อกับตัวแทนอย่างเป็นทางการ…เราไม่ควรใช้พลังทำนายแอบมองสุริยันเจิดจรัสอีกครั้งเพื่อสื่อสารผ่านมิติกับท่านโดยตรง เพราะถ้าทำแบบนั้น ท่านคงเลือกจะบุกเข้ามายังปราสาทต้นกำเนิดและยึดครองที่นี่แทน แบบนั้นจะสะดวกกว่ามาก…
ถ้ามัวรอปลุกปั้นมิสเตอร์แฮงแมนจนอีกฝ่ายมีตำแหน่งสูงพอที่จะเบิกสมบัติปิดผนึกระดับศูนย์ ถึงตอนนั้นเราคงกลายเป็นอามุนด์ไปแล้ว…
พระผู้สร้างแท้จริงมีเบาะแสของตะกอนพลังบริวารเร้นลับก้อนที่สาม…ดินแดนเทพทอดทิ้งคืออาณาจักรของพระองค์ ทั้งสองสิ่งอาจเกี่ยวพันกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง…
มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่ภายในดินแดนเทพทอดทิ้งจะมีตะกอนพลังบริวารเร้นลับอยู่หนึ่งก้อนและผู้ชี้นำปาฏิหาริย์อยู่สองก้อน…ไม่รู้ว่าสิ่งที่อยู่ในซากปรักหักพังนอร์ธจะเป็นแบบไหน…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ