ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ นิยาย บท 1180

บนดินแดนเทพทอดทิ้ง ในยามค่ำคืนที่ความถี่สายฟ้าค่อนข้างต่ำ

ขนมปังขาวสองแผ่นกับเนื้อย่างช่วยให้รู้สึกดีมาก…เครื่องดื่มรสหวานอมเปรี้ยวจากทะเลหมอกรสชาติดีกว่าที่คิด…ไคลน์ถอนหายใจยาวหลังจากกลืนอาหารคำสุดท้ายลงท้อง มันโยนบรรจุภัณฑ์ของขนมปังและอาหารทิ้งในความมืด เพราะหากเป็นที่นี่ก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับกลุ่มรณรงค์อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมหรือถังขยะ

แน่นอนว่าไคลน์ไม่ลืมตัดขาดความเกี่ยวข้องกับขยะเหล่านั้น เฉกเช่นที่ต้องกลับเข้าปราสาทต้นกำเนิดเพื่อ ‘ฆ่าเชื้อ’ หลังจากสลายหุ่นเชิดทุกครั้งเพื่อป้องกันมิให้ถูกอามุนด์ระบุพิกัด

อา…วัตถุไร้ชีวิตจะไม่เข้าสู่สถานะถูกปกปิดภายในความมืด…ไคลน์ส่องตะเกียงที่เดนิสสังเวยให้ไปทางเศษขยะเมื่อครู่

หลังจากสะสางปัญหาเกี่ยวกับอาหาร ชายหนุ่มมีอารมณ์อยากทดสอบบางสิ่งที่ตนเคยทำนายวิเคราะห์ระดับอันตราย

ท่ามกลางแสงสลัว ไคลน์เหยียดมือไปข้างหน้าและลากใครบางคนออกจากอากาศ

เป็นตัวมันเองจากช่องว่างประวัติศาสตร์ซึ่งกำลังถือตะเกียง

วินาทีถัดมา ไคลน์เข้าไปในสายหมอกสีเทา ส่งผลให้จิตใต้สำนึกถูกถ่ายทอดมายังภาพฉายที่ตัวเองเรียก

ท่ามกลางเหล่าสัตว์ประหลาด ภาพฉายของชายหนุ่มอ้าปากในความมืดพร้อมกับเปล่งเสียง อมานีซิส

“…”

แต่กลับไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกจากปาก ราวกับสิ่งที่ต้องการจะพูดแต่ถูกใครบางคนปกปิดไว้

“เหมือนกับที่คิดไว้” ไคลน์ซึ่งแต่งกายในชุดกันลมคลุมเข่าและหมวกทรงกึ่งสูง ถอนหายใจออกเชื่องช้า

เฝ้ามองแสงไฟสีเหลือง มันเปล่งเสียงเป็นภาษาคนยักษ์

“เลโอเดโร!”

ยังไม่ทันสิ้นเสียง สายฟ้านับร้อยเส้นผ่าลงมายังเบื้องล่างในลักษณะพัวพันประหนึ่งตอบสนองต่อการเรียกหา ปกคลุมไปทั่วบริเวณในพริบตา

ไคลน์ไม่มีโอกาสขยับตัวหลบแม้แต่น้อย หรือต่อให้สลับตำแหน่งกับหุ่นเชิดทันก็ยังไม่พ้นขอบเขตพลังทำลาย

ท่ามกลางแสงสีเงินสว่าง ชายหนุ่มทรุดตัวลงกับพื้นในตำแหน่งเดิม ร่างกายไหม้เกรียมพลางสั่นกระตุกประหนึ่งกลายเป็นถ่านหินก้อนใหญ่

จากนั้นก็ล้มลงและสลายไปราวกับภาพลวงตา

ไคลน์ในเสื้อกันลมและหมวกทรงกึ่งสูง ‘กลับ’ มายังโลกความจริงและเดินถือตะเกียงต่อไปราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น

เดินไปได้สักพัก ร่างของมันพร่ามัวและกลับมาคมชัด

ถัดมาเป็นการอ้าปากเปล่งเสียงภาษาคนยักษ์

“เออเมี…”

ยังไม่ทันพูดจบ เปลวไฟสีใสพลันลุกท่วมร่างโดยไม่เปิดโอกาสให้สลับตำแหน่งกับหุ่นเชิด

ไคลน์ปรากฏตัวอีกครั้งพร้อมกับดันหมวกทรงสูง เดินไปข้างหน้าอย่างใจเย็นจนกระทั่งถึงเนินเขาที่เต็มไปด้วยต้นไม้ประหลาด

“เฮราเบอร์เก้น”

“บาร์ดไฮเออร์”

“โอมีเบล่า”

ไม่มีเหตุการณ์ผิดปรกติเกิดขึ้น หมายความว่าไม่หลงเหลือพลังของพวกท่านในบริเวณใกล้เคียงเมืองเงินพิสุทธิ์…

เมดีซี โอโรเลอุส ซาสเรีย…ไม่เกิดประโยชน์เลยสักชื่อ คงเป็นเพราะพวกท่านไม่ใช่เทพแท้จริง…เราเคยคิดว่าสถานการณ์ในหมู่บ้านยามบ่ายและวังราชาคนยักษ์อาจเป็นกรณีพิเศษ ถ้าเอ่ยนามซาสเรียด้านนอกจะสามารถกระตุ้นพลังเสื่อมทรามภายในดินแดนเทพทอดทิ้งได้ แต่เปล่าเลย…นอกจากนั้น แม้แต่เทวทูตสีชาดที่ปรองดองกับเอกลักษณ์เรียบร้อยและขาดอีกเพียงก้าวเดียวก็จะกลายเป็นเทพ ก็ยังไม่ทิ้งร่องรอยใดไว้บนดินแดนเทพทอดทิ้งแห่งนี้…เสียชื่อราชาเทวทูตชะมัด! ไคลน์ในชุดกันลมสีดำเดินลงเขาพลางอาศัยสัมผัสวิญญาณนำทางไปยังทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จุดหมายคือโบราณสถานเมืองนอร์ธ

บ้างก็เดินอ้อม บ้างก็กระโจนไฟ ไม่ได้ตรงไปตามเส้นทางที่ทีมสำรวจของเมืองเงินพิสุทธิ์สร้างขึ้น

กลางดึกในกรุงเบ็คลันด์

ออเดรย์ซึ่งตระหนักว่าโอสถของตนมีความคืบหน้าเล็กน้อย ใช้พลังท่องฝันเพื่อเดินทางออกจากบ้านและเข้าไปในความฝันบริเวณใกล้เคียง

เมื่อทราบสถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างดี เธอปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะรีบเป็นครึ่งเทพ

ทันทีที่เริ่มท่องฝัน หญิงสาวได้พบกับบุคคลที่มีใบหน้าคุ้นเคย

อีกฝ่ายเป็นสตรีขุนนางที่สนิทสนมกับเธอ อายุยี่สิบเก้า แต่งงานกับไวเคาต์เมื่อสองปีก่อน

ในห้องเต็มไปด้วยกลีบกุหลาบ เตียงนอนสีขาวโพลนและมีแหวนรูปหัวใจวางอยู่ จากนั้นก็มีเสียงใครบางคนเคาะหน้าต่าง

หญิงสาวเดินไปเปิดหน้าต่างด้วยแก้มที่แดงระเรื่อ

ชายสวมหน้ากากเหล็กและเสื้อคลุมสีดำโผกอดสตรีพร้อมกับกระซิบ

“ผมจะช่วยให้คุณหลุดพ้นจากความทุกข์”

จากนั้น ร่างทั้งสองกอดก่ายกันอย่างนัวเนียและกลิ้งไปบนเตียง

ในฐานะนักท่องฝันผู้ต้องการย่อยโอสถ ออเดรย์เคยเห็นฉากที่คล้ายคลึงกันมานักต่อนัก เธอหลุดพ้นจากความเขินอายและทำได้เพียงตัดพ้อในจินตนาการสุดบรรเจิดของผู้คน อารมณ์ในปัจจุบันจึงกำลังสุขุมสุดขีด ทำตัวเป็น ‘ผู้ชม’ ละครที่ดีคนหนึ่ง

หลังจากจ้องมองสักพัก หญิงสาวพบปัญหา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ