ได้ยินคำสั่งจากหัวหน้าบิชอป เลียวนาร์ดผงะเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจ
คำพยากรณ์ของมิสเตอร์ฟูลแม่นยำมาก…
ไม่สิ นั่นไม่ใช่คำพยากรณ์ แต่ท่านตระหนักรู้ทุกสิ่งอย่างชัดแจ้ง…
เลียวนาร์ดรีบตั้งสติและแจ้งกับอาร์ชบิชอปแอนโทนีว่าตนต้องการเอกสารอนุญาตอย่างเป็นทางการ จากนั้นก็เดินกลับไปยังชั้นใต้ดินและพาสมาชิกสองคนเข้าไปในประตูยานิส
เมื่อผู้คุมตรวจสอบเอกสารเสร็จ มันเดินมายังห้องขังของเอ็มลินไวท์ที่จุดเทียนสีเงินสลักลวดลาย สอดกุญแจทองเหลืองเข้าไปไขเปิดประตูหิน
แสงจางสีฟ้าส่องเข้าไปในห้องขังจนเอ็มลินไวท์ต้องหลับตาลงตามสัญชาตญาณ
ใบหน้าของอีกฝ่ายซีดเซียวกว่าเมื่อก่อนมาก และร่างกายก็ซูบผอมราวกับสายลมเพียงแผ่วเบาสามารถพัดให้ปลิว
นึกทบทวนคำพยากรณ์ของมิสเตอร์ฟูล เอ็มลินมั่นใจในสถานการณ์ปัจจุบันมาก มันลุกขึ้นโดยไม่ลืมตาพลางหัวเราะในลำคอ
“ข้ารู้อยู่แล้วว่าในท้ายที่สุด พวกเจ้าจะเป็นฝ่ายปล่อยข้าออกไปเอง”
ถ้าฉันบอกว่านี่เป็นแค่การสอบสวนตามปรกติ นายจะผิดหวังแค่ไหนกันนะ? เลียวนาร์ดถากถางในใจพลางตอบหน้านิ่ง
“ให้เวลาสามสิบวินาที ถ้าคุณยังไม่รีบออกจากประตูยานิส ผมจะถือว่าคุณสมัครใจอยู่ต่อ”
ในฐานะเหยี่ยวราตรีที่ค่อนข้างอาวุโสและหัวหน้าหน่วยถุงมือแดงหลายเดือน เลียวนาร์ดมีประสบการณ์ในการรับมือนักโทษ
เอ็มลินผงะเล็กน้อย ปากอ้ากว้างเตรียมเปล่งบางสิ่งออกมา แต่สุดท้ายกลับปิดปากสนิทและรีบเดินผ่านเลียวนาร์ดกับพรรคพวกจนกระทั่งพ้นประตูยานิส
เมื่อถึงด้านนอก ร่างกายของมันสั่นระริกแผ่วเบาทันที ราวกับต้องการขจัดความหนาวเย็น
“หลังจากกลับถึงบ้าน ถ้าได้ตากแดดสักพักก็น่าจะดีขึ้น…จริงสิ ในกรุงเบ็คลันด์คงหาแดดได้ยาก…แล้วแวมไพร์อย่างพวกคุณก็คงไม่ชอบการอาบแดดสักเท่าไร…เป็นนักปรุงยาใช่ไหม? ลองปรุงยาในขอบเขตสุริยันดู” เลียวนาร์ดช่วยมอบคำแนะนำหลังจากเห็นท่าทีของอีกฝ่าย
เอ็มลินกำลังอยู่ในสภาวะค่อนข้างย่ำแย่ แง่หนึ่งเป็นเพราะไม่ได้ดื่มเลือดมนุษย์ที่เจือพลังวิญญาณมาหลายวัน ลำพังเลือดสัตว์ยังมีสารอาหารไม่เพียงพอ อีกแง่หนึ่งเป็นเพราะถูกขังหลังประตูยานิสนานเกินไปจนถูกพลังรัตติกาลกัดกร่อน จำเป็นต้องรักษาด้วยพลังในขอบเขตสุริยัน
ในฐานะศาสตราจารย์โอสถ เอ็มลินตระหนักรู้สภาพร่างกายและจิตใจตัวเองเป็นอย่างดี จึงไม่เถียงหรือเห็นด้วย เพียงเน้นย้ำคำว่า ‘ผีดูดเลือด’ ก่อนจะหันมาถาม
“หลวงพ่อยูทรอฟสกี้อยู่ที่ไหน?”
“เขาต้องอยู่ที่นี่ต่ออีกสักพัก ได้แต่หวังว่าสงครามบ้าๆ จะจบลงโดยเร็ว…แต่ไม่ต้องเป็นห่วง ทางเราจะปล่อยเขาออกมารับแสงแดดสัปดาห์ละสองหน ส่วนจะเป็นวันไหนก็ต้องขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ” เลียวนาร์ดตอบห้วนก่อนจะพาเอ็มลินไปส่งข้างนอกวิหาร
เอ็มลินลังเลเล็กน้อยก่อนจะถาม
“โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดไปทางไหน”
“คิดจะทำอะไร” เลียวนาร์ดถามด้วยความเป็นมืออาชีพ
“เข้ารับการถ่ายเลือด” เอ็มลินเชิดคางขึ้นโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า
เข้ารับการถ่ายทอด…ดื่มเลือดมนุษย์มากกว่ามั้ง…เลียวนาร์ดมิได้กล่าวสิ่งใด เพียงชี้ไปยังทิศทางหนึ่งและอธิบายรายละเอียด
หลังจากยืนมองแผ่นหลังไวเคาต์ผีดูดเลือดเดินจากไป มันกลับมายังชั้นใต้ดินและเริ่มพูดคุยกับคนในทีมเกี่ยวกับคดีล่าสุด
…
หลังจากเดินทางเป็นเวลาหลายวัน ในที่สุดไคลน์ก็เข้าเขตซากปรักหักพังเมืองนอร์ธ
ที่นี่ยังคงเป็นทุ่งกว้างที่รกร้าง บนพื้นดินบางจุดมีร่องรอยของแม่น้ำเหือดแห้ง
เฝ้ามองเมืองที่มืดมิดและเต็มไปด้วยเงาดำสักพัก ไคลน์ตัดสินใจไม่บุ่มบ่ามเข้าไปใกล้ มองหาจุดซ่อนตัวและท่องพระนามเต็มของเดอะฟูล
จากนั้นก็เดินถอยหลังสี่ก้าวและท่องคาถาส่งตัวเองเข้ามิติหมอก หากไคลน์ต้องการกลับปราสาทต้นกำเนิดในพริบตาด้วยความคิด สมาชิกทุกคนของชุมนุมทาโรต์จะต้องสวดวิงวอนพร้อมกันจนเกิดการซ้อนทับหลายชั้น นั่นจะกลายเป็นหลักยึดเหนี่ยวที่แข็งแกร่งให้เดอะฟูล
อาศัยจุดแสงแห่งการวิงวอน ไคลน์ใช้ตาทิพย์ตรวจสอบสถานการณ์ของซากปรักหักพังเมืองนอร์ธจากระยะไกลและพบว่าหมอกบางๆ ที่เคยปกคลุมเมืองเริ่มจางลงทีละนิด แต่ก็ยังไม่หมดไป นอกจากนั้นภายในเมืองยังปราศจากด้ายวิญญาณโดยสิ้นเชิง ผู้คนที่สวมเสื้อลินินหรือหนังสัตว์ต่างกำลังนอนตามถนนอย่างไร้ชีวิตชีวา แตกต่างจากเมื่อครั้งที่ทีมสำรวจเมืองเงินพิสุทธิ์ค้นพบโดยสิ้นเชิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ