วิธีที่นุ่มนวลกว่านั้น… เฮอร์มิท แคทลียาที่ขาดแค่ประสบการณ์ในศึกลำดับสูง ฉุกคิดบางสิ่งก่อนจะกล่าว
“ให้มิสเมจิกเชี่ยนเข้าร่วมชุมนุมลับต่างๆ ภายในเบ็คลันด์และเผยความสัมพันธ์กับตระกูลอับราฮัม ‘โดยบังเอิญ’ เพื่อดึงดูดความสนใจจากชุมนุมแสงเหนือ?”
เมื่อเห็นว่าเกอร์มัน·สแปร์โรว์ไม่ปฏิเสธ แคทลียาไตร่ตรองสักพักพลางมองไปยังอีกทิศทางหนึ่ง
“ส่วนวิธีที่จะทำอย่างไรให้สมเหตุสมผลโดยไม่เกิดความน่าสงสัย… การออกแบบขั้นตอนและกระบวนการ ‘เปิดเผยความจริง’ และการวางรากฐานในแต่ละชุมนุม พวกเราคงต้องฝากให้มิสจัสติสช่วยจัดการ”
ตามความเห็นของเธอ มีเพียง ‘จอมบงการ’ เท่านั้นที่สามารถเข้าใจจิตวิทยาของผู้ร่วมชุมนุมทุกคนอย่างแม่นยำ จนสามารถวางแผนได้อย่างเป็นธรรมชาติและสมเหตุสมผล ปราศจากร่องรอยและเบาะแสให้สืบสาว
“ตกลง” จัสติส ออเดรย์พยักหน้าเคร่งขรึม ภายในใจตื่นเต้นเล็กน้อย
เธอเสริมทันที
“แม้ฉันจะไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน แต่ก็จะพยายามทำให้ทุกสิ่งสมเหตุสมผลที่สุด”
…ทำไมเราถึงรู้สึกไม่ดีเลย… ทุกคนยังขาดประสบการณ์ ยกเว้นมิสเตอร์เวิร์ลที่เข้าร่วมปฏิบัติการไม่ได้… อา… มาดามเฮอร์มิทอาจมีประสบการณ์ด้านอื่นมากมาย แต่ยังไม่น่าจะเคยล่าใคร… นี่ไม่ใช่เกมสักหน่อย หากผิดพลาดแม้แต่นิดเดียวอาจทำให้ใครบางคนต้องตาย… ฟอร์สตัวสั่นอย่างมิอาจหักห้ามเมื่อตระหนักว่าทุกคนที่นี่รวมถึงเธอแทบไม่มีประสบการณ์การล่าจริง
อย่างไรก็ตาม เมื่อตระหนักว่ามิสจัสติสและมาดามเฮอร์มิทล้วนเป็นครึ่งเทพลำดับสี่ ส่วนตนกับเดอะสตาร์ต่างก็เป็นลำดับ 5 ฟอร์สพบว่าปัญหาอาจไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่คิด เพราะท้ายที่สุด ทุกคนย่อมสั่งสมประสบการณ์มาในแบบของตัวเอง มิได้ว่างเปล่าโดยสมบูรณ์ นอกจากนั้นยังมีเกอร์มัน·สแปร์โรว์ นักล่าที่แข็งแกร่งที่สุดในห้าห้วงทะเลคอยให้คำปรึกษา
สมเหตุสมผล…วางแผน…จอมบงการ…นั่งฟังบทสนทนาระหว่างเฮอร์มิทกับจัสติส ไคลน์พึมพำคำสำคัญตามความเคยชิน
นั่นทำให้มันหวนนึกถึงประสบการณ์การใช้ 0-08 และถูกเล่นงานด้วย 0-08 จึงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจยาว
ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมลำดับหนึ่งของเส้นทางผู้ชมถึงมีชื่อว่า ‘นักประพันธ์’ เส้นทางนี้เชี่ยวชาญพัฒนาการที่สมเหตุสมผล แถมยังเปลี่ยนจากการ ‘ฝังการชี้นำ’ ไปเป็น ‘บังคับ’ ได้ในลำดับสูง…
“คุณไม่จำเป็นต้องวางแผนอย่างละเอียดในทันที ให้กลับไปนึกทบทวนอย่างรอบคอบเสียก่อน นอกจากนั้นยังต้องปรับแต่งแผนไปตามสถานการณ์จริง” เฮอร์มิท แคทลียาพยักหน้าไตร่ตรองก่อนจะผุดแนวคิดใหม่ “ระหว่างที่มิสเมจิกเชี่ยนเข้าร่วมชุมนุมลับ คุณควรซ่อนตัวในบริเวณใกล้เคียงเพื่อฟังเสียงหัวใจของผู้ร่วมชุมนุมทุกคนผ่านทะเลจิตใต้สำนึกรวม จะได้นำไปปรับใช้กับแผนขั้นถัดไปอย่างถูกต้อง”
ลำพังบุคลิกเสมือนแค่สิบสามบุคลิกจะเพียงพอหรือ? ผู้เข้าร่วมชุมนุมต้องมีมากกว่าสิบสามคนแน่… ไม่สิ เราสามารถสับเปลี่ยน ‘การจับตามอง’ เป็นระยะเพื่อสังเกตภาพรวมได้… จัสติส ออเดรย์วิเคราะห์ความเป็นไปได้ก่อนจะอืมในลำคอ
“ไม่มีปัญหา”
สำหรับเธอ หน้าที่ดังกล่าวเปรียบดังการซ้อมประเภทหนึ่ง ขณะเดียวกันก็เป็นการสวมบทบาท เพราะเธอไม่ได้ใช้พลังพิเศษเพื่อโน้มน้าวเป้าหมายโดยตรง แต่เป็นการชักนำโดยอาศัยข้อมูลจากสภาพจิตใจ ผ่านการกระทำ คำพูด และบท
เมื่อพบว่าทางฝั่งมิสจัสติสไม่มีปัญหา เฮอร์มิท แคทลียาหันมาทางเมจิกเชี่ยนอีกครั้ง
“เพื่อป้องกันการถูกโจมตีอย่างไม่คาดฝัน และเพื่อให้คุณเข้าใจสถานการณ์รอบตัวได้ดีขึ้น ฉันจำเป็นต้องฝังบางสิ่งไว้ในตัวคุณ”
“สิ่งนั้นคืออะไร” ฟอร์สถามอย่างรอบคอบ
แคทลียาชำเลืองไปทางเดอะเวิร์ลที่สุดขอบโต๊ะทองแดงยาว และเมื่อได้รับความยินยอมจากข้ารับใช้เดอะฟูล เธอยกมือขึ้นสัมผัสหว่างคิ้ว
ดวงตาสีใสคู่หนึ่งปรากฏขึ้นด้านหน้าหญิงสาว ปราศจากขนตา ดูเย็นชาและไร้อารมณ์
“นี่คือเนตรส่องความลับ หลังจากกลายเป็นปราชญ์พิศวง ฉันสามารถนำไปใส่ในตัวคนอื่นได้ ทุกสิ่งที่คุณเห็นฉันก็จะเห็น ถ้าอยู่ในภาวะซ่อนเร้นจะตรวจพบได้ยากมาก” แคทลียานิยามอย่างง่าย
ได้เห็นฉากตรงหน้า ไคลน์เอนหลังเล็กน้อยพลางถอนหายใจแผ่ว
ย้อนกลับไปในตอนที่มันหัดใช้เนตรวิญญาณครั้งแรก ไคลน์เคยเห็นสิ่งที่คล้ายกันจากด้านหลังลุงนีลล์
หากตอนนั้นตนมีความรู้เชิงศาสตร์เร้นลับเทียบเท่าปัจจุบัน ปัญหาคงถูกตรวจพบได้เร็วขึ้นและสถานการณ์อาจลงเอยในทิศทางที่แตกต่าง
ถ้าดวงตาพิสดารคู่นี้ถูกฝังไว้ในตัวเรา มาดามเฮอร์มิทย่อมต้องเห็นทุกสิ่งในตอนที่เราเข้าห้องน้ำ… เมจิกเชี่ยน ฟอร์ส สูดลมหายใจยาวพลางถามด้วยสีหน้าเจือความลังเล
“คุณคอยฝังดวงตาใหม่ทุกครั้งก่อนที่ฉันจะเข้าร่วมชุมนุมลับได้ไหม?”
“ถ้าเราติดต่อกันบ่อยเกิดไปอาจทำให้คนอื่นเกิดความสงสัย และนักบุญเร้นลับ โบทิสสามารถปรากฏตัวได้ทุกเมื่อ ไม่ใช่แค่ช่วงเวลาที่คุณเตรียมเข้าร่วมชุมนุม” เฮอร์มิท แคทลียาดันแว่นกรอบหนาบนสันจมูก “ไม่ต้องกังวล ฉันจะไม่ดูในสิ่งที่ไม่ควรดู”
นั่นเป็นบทเรียนที่เธอเคยลิ้มรสด้วยเลือดมาแล้ว
ฟอร์สเงียบไปสักพักก่อนจะถอนหายใจเชื่องช้า
“ก็ได้…”
เฮอร์มิท แคทลียาพยักหน้าเล็กน้อย
“หลังจากพบเบาะแสเกี่ยวกับตระกูลอับราฮัม ชุมนุมแสงเหนือจะลงมือสืบสวนอย่างแน่นอน และเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน พวกมันต้องส่งคนที่มีฝีมือเพียงพอมาทำงาน… ไม่ต้องสงสัยเลยว่านักบุญเร้นลับโบทิสคือคนที่สนใจเรื่องราวของตระกูลอับราฮัมมากที่สุด ประกอบกับการที่กรุงเบ็คลันด์ไม่เหมาะแก่การเสด็จเยือนด้วยร่างหลักของราชาเทวทูต โอกาสที่มันจะปรากฏตัวจึงมีสูงมาก”
ทันใดนั้น เดอะสตาร์ เลียวนาร์ดที่กำลังเอนหลังตั้งใจฟัง ยกมือขึ้นและพูด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ