ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ นิยาย บท 1213

สามพันเจ็ดร้อยยี่สิบสองปี… นั่นสินะ พวกเขาถูกส่งมาที่นี่ตั้งแต่ตอนที่เทพสุริยันบรรพกาลยังมีชีวิต… เนื่องจากเมืองเงินพิสุทธิ์เองก็มีชะตากรรมต้องดิ้นรนท่ามกลางความมืดมานานกว่าสองถึงสามพันปี ไคลน์จึงไม่เคลือบแคลงข้อมูลจากปากมหานักบวชแห่งเมืองจันทรา

มันพยักหน้าเล็กน้อยพร้อมกับถาม

“พวกคุณคอยจับตากลุ่มหมอกแห่งนี้เพื่อป้องกันมิให้เกิดความเปลี่ยนแปลง?”

มหานักบวชแห่งเมืองจันทราผู้แต่งกายด้วยชุดหนังสัตว์สีน้ำตาลเข้ม นีม ส่ายหน้าและมอบคำตอบ

“วิวรณ์จากพระองค์มีเพียง… คอยจับตามองกลุ่มมองเอาไว้ตลอดเวลาและดูว่ามีใครเดินออกมาบ้างไหม”

เดินออกจากหมอก… เทพสุริยันบรรพกาลเกิดลางสังหรณ์ว่าจะมีคนเดินออกจากหมอก? ถ้าอีกฟากหนึ่งของหมอกคือทวีปตะวันตก หมายความว่าที่นั่นอาจมีผู้คนและอารยธรรม? หัวใจไคลน์พลันเต้นแรงเมื่อได้ยินคำตอบ แต่จากนั้นก็ฉุกคิดถึงข้อเท็จจริงหนึ่ง

แม้แต่บิดาของอามุนด์ พระผู้สร้างรุ่นที่สอง ก็ยังจนปัญญาจะผ่านกลุ่มหมอกเข้าไป ทำได้เพียงส่งคนมาคอยเฝ้าจับตามอง!

บาเรียเหล่านี้ต้องผ่านเข้าไปด้วยวิธีการพิเศษเท่านั้น? จริงสิ… มิสเตอร์แฮงแมนเคยเล่าให้ฟัง ราชินีแห่งภัยธรรมชาติ โคฮีเน็มกล่าวว่าการจะผ่านเข้าไปในทวีปตะวันตกอาจต้องใช้คาถาหรือคำสั่งบางอย่าง แต่นั่นคือในกรณีที่ทวีปตะวันตกกลับมาปรากฏตัวอีกครั้ง… ไคลน์จ้องมหานักบวชผู้มีร่องลึกบนใบหน้าและกล่าวโดยไม่ขยับเปลือกตา

“พวกเขาคงแนะนำไปแล้ว ผมคือผู้เผยแผ่ศาสนา เดินทางมาที่นี่เพื่อเผยแผ่แสงสว่างแห่งพระองค์”

มหานักบวชแห่งเมืองจันทรา นีม ยังคงรักษาความเยือกเย็นพลางใช้ดวงตาสีเทาเหมือนกับเส้นผมจ้องมาทางไคลน์

“ท่านผู้ยิ่งใหญ่ เทพที่ท่านศรัทธาคือผู้ใด”

ใจจริงไคลน์อยากจะตอบกลับไปง่ายๆ แต่เมื่อพิจารณาถึงตัวตนผู้เผยแผ่ศาสนาที่สร้างขึ้น มันตัดสินใจข่มความละอายพร้อมกับอาศัยพลังตัวตลกในการเผยสีหน้าเปี่ยมศรัทธา:

“ผมขอถือโอกาสนี้แนะนำเทพที่ผมศรัทธา พระองค์ผู้มาโปรดดินแดนแห่งนี้… มหาเดอะฟูล…”

เดอะฟูล… มหานักบวชของเมืองจันทรา นีม คาดไม่ถึงกับคำตอบดังกล่าว มันวิเคราะห์หาความไม่ชอบมาพากลอยู่สักพัก จากนั้นก็พิจารณาว่าคำตอบดังกล่าวอาจเป็นการแฝงความนัย

ท้ายที่สุด นีมให้ความสนใจกับคำนิยาม:

พระองค์ผู้มาโปรดดินแดนแห่งนี้

นีมอดไม่ได้ที่จะหันไปมองอดาลและคนอื่นๆ ที่มีใบหน้าเปล่งปลั่ง

สำหรับผู้วิเศษลำดับ 4 นีมทราบทันทีว่าภาวะเช่นนี้เป็นผลมาจากการขจัดมลพิษและโรคภัยที่สั่งสมในร่างกาย ไม่เพียงเท่านั้น บรรดาสมาชิกหน่วยล่ายังได้รับการรักษาเพิ่มเติมในระดับยอดเยี่ยม หากไม่ใช่เพราะมันเคยเห็นวัยรุ่นเหล่านี้เติบโตมากับตาตัวเอง คงไม่เชื่อว่าอีกฝ่ายเป็นคนของเมืองจันทรา

อดาลโพล่งขึ้นทันทีที่เห็นมหานักบวชจ้องมาทางตน

“ท่านเจ้าคุณสแปร์โรว์สวดวิงวอนให้เทพประทานพรแก่พวกเรา!”

“ใช่แล้ว! พวกเราเห็นแสงสว่าง! พวกเราสัมผัสถึงความอบอุ่น!” ซินผู้ปราศจากจมูกรีบเสริม

หลังจากได้รับพรอันยิ่งใหญ่เมื่อครู่ เธอเริ่มเกิดความศรัทธาในเทพที่เกอร์มัน·สแปร์โรว์เอ่ยถึง

เมื่อเทียบกับพระผู้สร้างที่ไม่ยอมตอบสนองและไม่แยแสความทุกข์ยากของเมืองจันทรา ตัวตนนามว่าเดอะฟูลยังน่าเลื่อมใสเสียกว่า!

รุสและสมาชิกทีมล่าที่กลับเมืองไปก่อนเพื่อแจ้งข่าวกับมหานักบวช ปัจจุบันกำลังจดจ้องไปทางกลุ่มเพื่อนร่วมหน่วยด้วยสายตาอิจฉา ไม่เปิดบังความปรารถนาที่จะได้รับพรอันยิ่งใหญ่

มหานักบวช นีม ถอนสายตากลับและจ้องไปทางเกอร์มัน·สแปร์โรว์ผู้แต่งกายในชุดและหมวกประหลาด

“มหาเดอะฟูลของท่านคือเทพของโลกใบนี้… ไม่สิ คือเทพด้านนอกดินแดนต้องสาป?”

ไคลน์พยักหน้าเคร่งขรึมอย่างเชื่องช้า

“ถูกต้อง”

“เช่นนั้นแล้ว… มหาเทพสุริยันผู้รังสรรค์ทุกสรรพสิ่ง?” นีมลังเลสักพักก่อนจะถามในสิ่งที่มันอยากรู้มากที่สุด

ไคลน์เปลี่ยนสำเนียงการพูดให้คล้ายพวกนักต้มตุ๋น

“ท่านผู้นั้นถูกเหล่าราชาหักหลัง ส่งผลให้โลหิต โทสะ ความเสื่อมทราม และเงามืดเริ่มปกครองดินแดนแห่งนี้ภายใต้มหาภัยพิบัติ”

รูม่านตานีมพลันเบิกกว้างประหนึ่งต้องการรับแสงเพิ่มเพื่อให้เห็นบุคคลตรงหน้าอย่างชัดเจน

มันพยายามข่มอารมณ์อย่างยากลำบากก่อนจะถามต่อ

“กล่าวคือ… พระองค์ร่วงหล่นจากเหตุการณ์ดังกล่าว?”

“ไม่เพียงท่านผู้นั้นจะร่วงหล่น แม้แต่เลือดเนื้อยังถูกเหล่าผู้ทรยศกลืนกินจนเป็นเหตุให้ดินแดนแห่งนี้ต้องคำสาป”

ไคลน์มิได้แบ่งแยกสองพี่น้องตัวแสบออกจากอีกหกราชาเทวทูตเพราะอยากให้ชาวเมืองจันทราเข้าใจไปเองว่าราชาเทวทูตทั้งหมดคือผู้ทรยศ เมืองจันทราจะได้ไม่ถูกอามุนด์ล่อลวงในภายหลัง

ตลอดการเดินทางกว่าครึ่งปีและการทดลองอีกมากมาย ไคลน์มั่นใจว่าดินแดนเทพทอดทิ้งแห่งนี้ถูกผนึกและปิดตาย หรือกล่าวได้ว่าถูกตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสมบูรณ์ จุดเชื่อมโยงเดียวคือวังราชาคนยักษ์หรือไม่ก็ตัวตนระดับปราสาทต้นกำเนิด ดังนั้นการใช้ไม้เท้าดวงดาวที่นี่จะไม่ช่วยให้ออกไปยังโลกภายนอกแม้จะจินตนาการภาพได้ถูกต้อง อย่างมากก็แค่เคลื่อนย้ายตำแหน่งอยู่ภายในดินแดน

แม้แต่ภาพฉายทางประวัติศาสตร์ของกล่องวันวานก็ยังถูกปิดกั้นและสะกดไว้ ภาพฉายจะถูกสภาพแวดล้อมกลืนกินทันทีที่การอัญเชิญสำเร็จ ส่งผลให้ไร้ประโยชน์โดยสมบูรณ์

นั่นทำให้ไคลน์วิเคราะห์ว่า ‘ชั้นที่สาม’ ของกล่องวันวานอาจเป็นอันตรายแม้แต่กับทวยเทพอย่างพระผู้สร้างแท้จริง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ