เมืองเงินพิสุทธิ์ บนยอดหอคอยกลม ห้องเจ้าเมือง
โคลิน·อีเลียดเจ้าของผมสีขาวและรอยแผลเป็นเก่าบนใบหน้า มองออกไปนอกหน้าต่างท่ามกลางความมืดมิด จากนั้นก็ถอนสายตากลับเมื่อเห็นแสงสายฟ้าเส้นที่สองแลบจากจุดห่างไกล
เฌอมงต์เลื่อนลำดับสำเร็จ…
สายตาของมันจ้องไปทางเด็กหนุ่มเจ้าของส่วนสูงสองเมตรที่กำลังยืนกลางห้อง
“เดอร์ริค คุณทราบไหมว่าทำไมผมที่กลายเป็นลำดับสาม อัศวินสีเงินแล้วถึงไม่จัดทีมไปสำรวจวังราชาคนยักษ์ตามแผนเดิม”
เดอร์ริคใช้ความคิดสักพัก
“แง่หนึ่งท่านเจ้าเมืองต้องการค้นหาว่ามีเส้นทางอื่นที่นำไปสู่ทะเลหรือไม่ อีกแง่หนึ่งเป็นเพราะท่านเจ้าเมืองต้องการให้อาวุโสท่านอื่นในสภาเลื่อนเป็นลำดับสาม ให้เรียบร้อย”
และทั้งสองสิ่งก็ได้ข้อสรุปแล้วในปัจจุบัน:
เมื่อราวห้าเดือนก่อน ทีมสำรวจของเมืองเงินพิสุทธิ์ค้นพบเส้นทางลับสำหรับอ้อมภูเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของวังราชาคนยักษ์ไปยังทะเลได้โดยตรง แต่ทะเลดังกล่าวกลับเป็นเพียงภาพมายา ร่างกายของผู้ที่ฝืนผ่านเข้าไปจะแหลกสลาย
และเมื่อครู่ ในที่สุดครึ่งเทพของหกสภาอาวุโส ฮอยต์·เฌอมงต์ ก็ประสบความสำเร็จในการเลื่อนเป็นลำดับสามและสามารถมีพระนามเต็มอันทรงเกียรติเพื่อตอบสนองคำวิงวอนของชาวเมืองเงินพิสุทธิ์ได้ในขอบเขตจำกัด
โคลิน·อีเลียดถอนหายใจและกล่าว
“เยี่ยมมาก คุณเข้าใจสถานการณ์อย่างชัดเจนและครอบคลุม… หากเลือกได้ ผมไม่อยากพาคุณไปสำรวจวังราชาคนยักษ์ซึ่งมีเทวทูตมืดหลับใหลสักเท่าไร…”
โคลินเว้นวรรคเมื่อกล่าวถึงตรงนี้
“พวกเราไม่มีทางคาดเดาได้ว่าอันตรายแบบใดกำลังรออยู่ เรื่องเดียวที่ทำได้คือการเตรียมตัวให้พร้อมและรัดกุมมากที่สุด… ตอนนี้เฌอมงต์ทำสำเร็จแล้ว หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นระหว่างการสำรวจ เขากับโลเฟียร์จะช่วยกันค้ำจุนเมืองเงินพิสุทธิ์ให้เดินหน้าต่อไปได้ จากนั้นก็รอคอยโอกาสใหม่ในอนาคต”
มันจ้องเดอร์ริคหัวจรดเท้าก่อนจะพยักหน้าเชิงชื่นชม
“คุณมีพัฒนาการไวกว่าที่ผมคิดไว้มาก หากไม่ใช่เพราะคุณเป็นคนสำคัญในการสำรวจวังราชาคนยักษ์ ผมอยากเก็บคุณไว้ที่นี่และบ่มเพาะให้กลายเป็นอาวุโส”
ได้ยินเช่นนั้น เดอร์ริครีบตอบโต้
“ต่อให้คุณอยากเก็บผมไว้ที่เมือง แต่ผมก็จะสมัครเข้าร่วมทีมสำรวจอยู่ดี”
นี่คือแสงแห่งความหวังที่เด็กหนุ่มมองเห็น เป็นโอกาสอันแสนล้ำค่าที่จะช่วยเหลือเมืองเงินพิสุทธิ์ เดอร์ริคยินดีที่จะสละทุกสิ่งเพื่อเดิมพัน
โคลิน·อีเลียดเผยรอยยิ้มที่หาได้ยาก
“คุณยังหนุ่มยังแน่น… หากเคยผ่านประสบการณ์มากมายมาแบบผม คุณจะเข้าใจว่าการชักดาบสละชีพด้วยศรัทธาอันแรงกล้านั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายเมื่อเทียบกับการต้องกล้ำกลืนความสิ้นหวังและอับอายในความมืดอย่างเจ็บปวดขื่นขม… หรือถ้าไม่เชื่อผม คุณรอถามเฌอมงต์ก็ได้… ถามว่าอยากนำทีมไปสำรวจวังราชาคนยักษ์หรือประจำการอยู่ที่เมืองเงินพิสุทธิ์มากกว่ากัน”
เดอร์ริคจมอยู่กับความเงียบ ปากอ้าขึ้นเล็กน้อยโดยไม่มีเสียงใดเล็ดลอด
โคลิน·อีเลียดไม่สานต่อบทสนทนาและตัดสินใจเปลี่ยนหัวข้อ
“ย่อยโอสถนักบวชแสงเสร็จสมบูรณ์แล้วหรือยัง”
“เสร็จแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อนครับ” เดอร์ริคตอบเถรตรง
โคลินพยักหน้า
“รวบรวมวัตถุดิบเสริมได้ครบถ้วนไหม”
เดอร์ริคอืมในลำคอ
“รวบรวมครบหมดแล้ว เหลือแค่พิธีกรรมครับ”
พิธีกรรมคือการสกัดอารมณ์ที่เข้มข้นที่สุดซึ่งไม่ต้องการละทิ้งออกมา จากนั้นค่อยบรรจุกลับเข้าไปใหม่หลังจากดื่มโอสถ
หลังจากผ่านชุมนุมทาโรต์มาหลายครั้งและมีการพูดคุยส่วนตัวกับมิสจัสติส พวกมันร่างแผนซึ่งค่อนข้างมีประสิทธิภาพขึ้นมา
เดอร์ริคจะเลื่อนลำดับภายใต้ความช่วยเหลือจากอ้อมกอดเทวทูตของมิสเตอร์ฟูลและพลังในขอบเขตจิตใจของนักวางแผน
นักล่าปีศาจโคลินเพียงกล่าวอย่างใจเย็น
“ไม่ต้องกังวลไป กำหนดการสำรวจวังราชาคนยักษ์ครั้งที่สองจะยังไม่มีขึ้นในเร็วๆ นี้”
“ทุกคนกำลังรอให้ผมกลายเป็นผู้เจิดจรัส?” เดอร์ริคถาม
โคลินพยักหน้าเล็กน้อยโดยไม่ปฏิเสธ
“นอกจากนั้นพวกเรายังรอให้โลเฟียร์กลายเป็นอัศวินมืด เธอเตรียมวัตถุดิบกับพิธีกรรมเรียบร้อยแล้ว”
เดอร์ริครู้สึกกดดันทันทีเมื่อได้ยิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ