ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ นิยาย บท 1221

สรุปบท ราชันเร้นลับ 1221 : ทิ้งข้อความ: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ

สรุปตอน ราชันเร้นลับ 1221 : ทิ้งข้อความ – จากเรื่อง ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ โดย Internet

ตอน ราชันเร้นลับ 1221 : ทิ้งข้อความ ของนิยายInternetเรื่องดัง ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

หากหมาป่าอสูรกำลังประกอบพิธีกรรมเป็นบริวารเร้นลับจริง ร่องรอยของมันต้องไม่สูญหายไปโดยสมบูรณ์… ไคลน์พยักหน้าเชื่องช้า มันผุดแนวคิดบางอย่างในหัวแต่ยังมิอาจวางแผนลงมือทำได้จริง

ความคิดแรกคือการใช้ดินที่เคยถูก ‘ม่าน’ ปกคลุมเพื่อทำนายหาตำแหน่ง เพราะนั่นจะเท่ากับตำแหน่งของหมาป่าอสูรเช่นกัน แต่เมื่อพิจารณาว่าอีกฝ่ายเป็นเทวทูต การทำนายถึงในลักษณะนี้ย่อมทำให้โคทาร์ไหวตัวทันและเตรียมมาตรการรับมือล่วงหน้า ไคลน์จึงจำใจสลัดความคิดดังกล่าวทิ้งไปและส่งตัวเองกลับสู่โลกความจริง จากนั้นก็เริ่มวางแผนกันใหม่

ในวันถัดมา เมื่อถึงยามสายฟ้าแลบถี่มากที่สุดของวัน ชาวเมืองจันทรากลุ่มใหม่เดินทางมาถึงกองไฟของเกอร์มัน·สแปร์โรว์ภายใต้การนำทางจากนักบวชนามว่าดุ๊ก พวกมันตั้งใจฟังคำสอน เพลิดเพลินไปกับเห็ด และรอรับการชำระล้าง

หลังจากชาวเมืองจันทราได้รับการชำระล้างจนน้ำตานองหน้า ไคลน์มองไปรอบตัวพร้อมกับถาม

“เทพสุริยันบอกให้พวกคุณเฝ้าจับตามองที่นี่เพื่อคอยดูว่ามีใครเดินออกจากม่านหมอก?”

“ขอรับ” ดุ๊กที่หายจากอาการป่วยทราบว่ามหานักบวชเคยเล่าวิวรณ์ของเทพสุริยันให้อีกฝ่ายฟังแล้ว จึงตอบกลับเสียงเรียบ

ไคลน์พยักหน้าแผ่วพลางสานต่อบทสนทนา

“พวกคุณจะทำอย่างไรต่อถ้าพบคนเดินออกจากม่านหมอก”

ดุ๊กตอบโดยไม่ลังเล

“ท่องพระนามเต็มอันทรงเกียรติของมหาเทพสุริยันทันที… และรายงานข้อมูลดังกล่าว… แด่พระองค์…”

น้ำเสียงของมันทวีความหม่นหมองขณะกล่าว และลงเอยด้วยการพูดไม่จบประโยค นั่นเพราะเทพสุริยัน – พระผู้สร้าง ไม่มีการตอบสนองมานานกว่าสองพันปีแล้ว ดังนั้นต่อให้ชาวเมืองจันทราประกอบพิธีกรรมที่สมบูรณ์และเอ่ยนามเต็ม ก็คงไม่มีการตอบสนองกลับมาเช่นเดิม

“มีอย่างอื่นอีกไหม?” ไคลน์พยายามซักไซ้

ชายหนุ่มสัมผัสถึงได้ถึงบางสิ่ง และนั่นมิได้มาจากสัญชาตญาณ แต่เป็นข้อสรุปจากการอนุมานในระดับหนึ่ง – ไม่มีทางที่เทพสุริยันบรรพกาลจะไม่คำนึงถึงปัญหาที่จะตามมา: บุคคลผู้เดินผ่านม่านหมอกจะต้องเปี่ยมไปด้วยความระมัดระวัง ไม่มีทางปล่อยให้ถูกจับตามองเป็นเวลานานโดยเด็ดขาด อาจถึงขั้นใช้พลังพิเศษเพื่อสะกดจิตให้ชาวเมืองจันทราหลงลืมที่จะสวดวิงวอน หรือไม่ก็ลืมในสิ่งที่ได้เห็นและได้ยิน

เมื่อคำนึงถึงปัญหาดังกล่าว ไม่มีทางที่เทพสุริยันบรรพกาลจะไม่เตรียมตัวล่วงหน้า

แต่แน่นอนว่าอาจไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป เพราะถ้าในคำทำนายของบิดาอามุนด์ระบุว่า ผู้ที่เดินออกจากม่านหมอกเป็นเพียงมือใหม่อ่อนหัด การเตรียมตัวเพิ่มเติมก็คงไม่จำเป็น

แต่เมื่อพิจารณาว่าเทพสุริยันบรรพกาล ‘ทายผิด’ – เนื่องจากคนที่เดินออกจากม่านหมอกคือตนซึ่งมีความแข็งแกร่งพอสมควร ไคลน์จึงปัดตกแนวคิดเมื่อครู่และมั่นใจว่าพระผู้สร้างที่เมืองเงินพิสุทธิ์นับถือจะต้องมีแผนสองเตรียมไว้

ดุ๊กไตร่ตรองสักพักก่อนจะกล่าวด้วยความลังเล

“เดินเข้าไปหาบุคคลดังกล่าวและทักทายหนึ่งคำ”

หัวใจไคลน์เริ่มเต้นแรงก่อนจะถามหน้านิ่ง

“คำว่า?”

ริมฝีปากดุ๊กสั่นเทาราวกับพยายามเลียนแบบการออกเสียง จากนั้นก็กล่าวด้วยสำเนียงประหลาด:

“เชอร์โนบิล”

“…” สมองไคลน์หยุดทำงานไปพักหนึ่งก่อนจะถอนหายใจยาว

อาณาจักรโลเอ็น แคว้นเชสเตอร์ตะวันออก ภายในป่าทึบแห่งหนึ่ง

ชาวนาจากหมู่บ้านใกล้เคียงกำลังรวมตัวกันที่นี่เพื่อเก็บเห็ดประหลาดที่ซ่อนอยู่ตามรากไม้ ซากไม้ และพุ่มไม้

ตามกฎหมายของอาณาจักร ทุกสิ่งที่เติบโตในป่าแห่งนี้ล้วนเป็นทรัพย์สินของเจ้าของที่ดิน – มิสออเดรย์·ฮอลล์ แต่เนื่องจากสงครามยืดเยื้อเป็นเวลานานจนประสบภาวะขาดอาหารรุนแรง ปัจจัยดังกล่าวทำให้ชาวนาไม่แยแสกฎหมายอีกต่อไป เพราะคงไม่เกิดประโยชน์หากจะเป็นพลเมืองดีแต่เอาชีวิตไม่รอด ผนวกกับการที่มีคนจำนวนมากร่วมกระทำผิด ความกล้าหาญก็ยิ่งเพิ่มพูนเป็นเท่าตัว

พวกมันแบ่งเป็นกลุ่มเล็กเพื่อเก็บเห็ดลายดาวสีทองและลายเนื้อหินอ่อนอย่างมีประสิทธิภาพ เห็ดถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนน้อยเก็บไว้กินกันเอง และส่วนใหญ่เก็บไว้ขายพ่อค้าที่รอด้านนอกป่าเพื่อแลกกับทองปอนด์ เกลือ ผ้า และสิ่งของจำเป็นอื่นๆ

ชาวนาเหล่านี้ไม่ได้ล้ำเส้น นอกเหนือจากเห็ด พวกมันนำกลับไปเพียงผลไม้ส่วนน้อย ยังเหลือส่วนใหญ่ไว้ให้ผู้ดูแลป่าที่ต้องนำผลผลิตกลับไปส่งให้เจ้านาย

ชาวนาสามารถขายเห็ดและผลไม้ได้มากมายภายในเวลาเพียงสองชั่วโมง จากนั้นก็เดินกลับหมู่บ้านด้วยรอยยิ้มเปื้อนหน้า

สำหรับพวกมัน ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ล้วนเป็นไปตามความตั้งใจของเจ้าตัว

พ่อค้าธัญพืชเคราดกเองก็มีความสุขไม่น้อยเช่นกัน เพราะพืชผลที่ชาวนาหามาได้จะทำกำไรมหาศาล

มันสั่งให้คนงานที่มาด้วยกันเคลื่อนย้ายเห็ดและผลไม้ไปยังจุดแปรรูปนอกเมือง หลังจากแปรรูปเสร็จก็เป็นการเก็บใส่ยุ้งฉาง

ในฐานะนักธุรกิจรอบคอบ มันส่งคนงานกลับไปก่อนจะตรวจสอบยุ้งฉางอีกครั้ง เมื่อยืนยันจนแน่ใจว่าทุกสิ่งเรียบร้อยดี พ่อค้าปิดประตูยุ้งฉางและลงกลอนแน่นหนา

ทันใดนั้นเอง มันพบเงินสดก้อนโตวางกองอยู่บนพื้น ทั้งหมดคือธนบัตรสิบปอนด์

เราเผลอทำเงินมากขนาดนี้หล่นตั้งแต่เมื่อไร? พ่อค้าธัญพืชก้มลงเก็บธนบัตรด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส

มันฉุกคิดถึงที่มาของเงินหลังจากนับจำนวนเสร็จ:

นี่คือกำไรจากการขายผงเห็ด เห็ดตากแห้ง และผลไม้แห้ง!

เมื่อตัดสินใจได้ หญิงสาวเตรียมกระตุ้นพลังเทเลพอร์ตเพื่อเดินทางกลับเบ็คลันด์

แต่ทันใดนั้นก็ชะงักพลางหยุดคิดไตร่ตรองด้วยสีหน้าหดหู่

นั่นเพราะหญิงสาวตระหนักดีว่า ต่อให้เธอรวบรวมอาหารมาเลี้ยงผู้คนได้เป็นจำนวนมาก แต่นั่นไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ยั่งยืน สถานการณ์ก็มีแต่จะยิ่งเลวร้ายตราบใดที่สงครามยังไม่จบลง

สงคราม… ออเดรย์หลับตาลงอย่างจนปัญญาจะคิดหาทางออก

หญิงสาวเคยได้ยินมาดามเฮอร์มิทกล่าวว่า เนื้อแท้ของสงครามนี้คือการต่อสู้ระหว่างทวยเทพ และศึกระหว่างทวยเทพมักมีสิ่งหนึ่งร่วมกันเสมอ: ต่างฝ่ายต่างยินดีที่จะสละเวลาและขุมกำลังเพื่อสั่นคลอน ‘หลักยึดเหนี่ยว’ ซึ่งเป็นแหล่งพลังของอีกฝ่าย

ไตร่ตรองสักพัก ออเดรย์เม้มปากพร้อมกับตัดสินใจหนักแน่นในสิ่งที่จะทำ

หลังจากหน้ากระดาษส่องแสง ร่างกายหญิงสาวแปรเปลี่ยนเป็นโปร่งใสและเลือนหายไป

ไคลน์ที่นั่งข้างกองไฟไตร่ตรองเกี่ยวกับคำพูดอามุนด์หลังจากส่งคณะเดินทางของเมืองจันทรากลับไป

อามุนด์กล่าวว่า ในส่วนลึกของเชอร์โนบิลเต็มไปด้วยเบาะแสของสิ่งที่ไคลน์ต้องการจะทราบ

เทพสุริยันบรรพกาลก็ยังเน้นย้ำเกี่ยวกับเชอร์โนบิลมากเป็นพิเศษ… ท่ามกลางความคิดดังกล่าว ชายหนุ่มนึกอยากสำรวจเชอร์โนบิลขึ้นมาทันที

การตัดสินใจครั้งนี้มิได้เกิดขึ้นอย่างปุบปับ ไคลน์ต้องการจะสำรวจมานานแล้ว แต่ไม่กล้าเพราะมีอามุนด์คอยขัดขวาง

เราเอาแต่มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกมานานกว่าครึ่งปี คงไม่มีใครคาดคิดว่าเราจะไปโผล่เชอร์โนบิลได้… อามุนด์ที่ได้รับตะกอนพลัง ‘หนอนกาลเวลา’ ก้อนสุดท้ายไปแล้วคงกำลังเตรียมประกอบพิธีกรรมเถลิงบัลลังก์ ไม่มีทางที่ร่างต้นจะยังอยู่ในเชอร์โนบิล อา… แต่ในฐานะราชาเทวทูตผู้มีความอดทนเป็นเลิศ ร่างโคลนของอามุนด์สักตัวคงเฝ้าอยู่ที่นั่น… ไตร่ตรองสักพัก ไคลน์ตัดสินใจจะทดสอบด้วยการใช้ภาพฉายจากช่องว่างประวัติศาสตร์ของตัวเอง

หัวเด็ดตีนขาดยังไงมันไม่มีทางไปโผล่ที่เชอร์โนบิลด้วยร่างต้นเด็ดขาด!

ไคลน์ส่งตัวเองขึ้นไปทำนายบนมิติหมอกหลังจากวางแผนเสร็จ จากนั้นก็กลับลงมาและดึงตัวเองเมื่อห้านาทีที่แล้วออกจากช่องว่างประวัติศาสตร์

ภาพฉายเริ่มได้สติหลังจากร่างต้นเลือนหาย ตามด้วยการคว้าอากาศอยู่หลายหนจนกระทั่งดึงไม้เท้าสีดำเลี่ยมอัญมณีออกมาสำเร็จ

ไม้เท้าดวงดาว!

ไคลน์ต้องการใช้พลังของไม้เท้าดวงดาวเพื่อเทเลพอร์ตไปยังเชอร์โนบิลในพริบตา!

………………………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ