อาณาจักรโลเอ็น กรุงเบ็คลันด์
ฟอร์สตื่นจากความฝันกะทันหันขณะกำลังหลับสนิท สายตาจดจ้องไปทางหน้าต่างตามสัญชาตญาณ
ใช่ว่าเธอไม่เคยมีประสบการณ์ในทำนองนี้ ย้อนกลับไปสมัยยังมิได้เข้าร่วมชุมนุมทาโรต์ ฟอร์สต้องตื่นขึ้นมากลางดึกบ่อยครั้งเพราะคำสาปพระจันทร์เต็มดวง แม้ในคราวนี้จะไม่ได้เจ็บปวดทรมานเหมือนเคย แต่หัวใจกลับเต้นแรงอย่างไร้เหตุผล
เนื่องจากผ้าม่านปิดอยู่จนทำให้แสงสว่างลอดผ่านได้ยาก ฟอร์สมิอาจระบุเวลาได้แม่นยำ หญิงสาวตัดสินใจลุกขึ้นจากเตียงและเดินไปทางหน้าต่างเพื่อเปิดผ้าม่าน
แสงแดดส่องทะลุหมอกจางเข้ามาในห้องพร้อมกับสลายความมืดมิด ฟอร์สที่ยืนริมหน้าต่างแหงนหน้ามองฟ้าด้วยความสับสนสุดขีด
แม้พระอาทิตย์จะขึ้นแล้วและพระจันทร์ได้เลือนหายไปพักใหญ่ แต่ทำไมเรากลับสัมผัสถึงกลิ่นอายคำสาปในคืนจันทร์เต็มดวง?
นอกจากนั้นยังเหลืออีกหลายวันกว่าจะถึงกำหนดพระจันทร์เต็มดวง!
…
สาธารณรัฐอินทิส กรุงทรีอาร์
เหล่านักดาราศาสตร์ที่ตื่นเช้า ผู้คลั่งไคล้ศาสตร์เร้นลับ รวมถึงผู้วิเศษที่แฝงตัวท่ามกลางคนธรรมดาต่างพากันแหงนมองฟ้า
เมฆยามค่ำคืนเลือนหาย พระจันทร์ยักษ์กำลังส่องแสงสุกสว่างจนบดบังแสงดาวรอบข้างทั้งหมด
สีของพระจันทร์มิได้แดงเลือดเหมือนในอดีต แต่เป็นสีขาวสุกใส
ผู้พบเห็นต่างพากันตกตะลึง เพราะนี่คือดวงจันทร์ที่พวกมันไม่เคยเห็นมาก่อน
ไม่ว่าจะตำราวิชาการของมนุษย์หรือตำนานศาสตร์เร้นลับ ก็ไม่เคยมีการบรรยายฉากพระจันทร์แบบนี้แม้แต่ครั้งเดียว!
ดวงจันทร์ไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลงนอกเหนือไปจากพระจันทร์เสี้ยว พระจันทร์เต็มดวง และจันทราโลหิต ไม่เคยเกิดขึ้นแม้แต่ครั้งเดียวตลอดหนึ่งพันสามร้อยปีที่ผ่านมาของยุคสมัยที่ห้า!
ในวินาทีนี้ ทุกคนได้ทราบแล้วว่านอกจากพระจันทร์สีแดงเข้มกับสีเลือด พระจันทร์ยังเป็นสีขาวได้ด้วย
…
ดินแดนเทพทอดทิ้ง เมืองเงินพิสุทธิ์
เดอร์ริคและทุกคนตระหนักถึงความผิดปรกติบนท้องฟ้ายามบ่ายซึ่งควรมีสายฟ้าค่อนข้างถี่
พวกมันคุ้นเคยกับสายฟ้าและความมืด แต่ยามนี้ทั้งสองสิ่งกลับเลือนหายไปอย่างไร้ร่องรอย ถูกแทนที่ด้วยก้อนแสงทรงกลมสีเลือดที่มีขนาดใหญ่จนปกคลุมกว่าครึ่งของท้องฟ้า ช่วยมอบความสว่างให้กับทุกซอกมุมของบริเวณโดยรอบ
ชาวเมืองบางคนที่หัวไวและมีความรู้พลันนึกถึงภาพพระจันทร์และคำอธิบายในตำราเรียน หลายคนแสดงความเห็นตรงกัน
“นี่คือพระจันทร์?”
“พระจันทร์แดง?”
“พวกเราได้เห็นพระจันทร์แดงด้วยตาตัวเอง…”
แต่เพียงไม่นาน พระจันทร์แดงตรงหน้าเริ่มซีดลงจนกลายเป็นพระจันทร์สว่างสุกใส
ชาวเมืองเงินพิสุทธิ์ตกอยู่ในภวังค์ความฉงนโดยสมบูรณ์ ตอบสนองไม่ถูกไปสักพักใหญ่
เดอร์ริคเบเกอร์ที่เคยฟังเรื่องราวโลกภายนอกจากแฮงแมน จัสติส และชาวชุมนุมทาโรต์ยิ่งทวีความตกตะลึงกว่าใคร เพราะแม้แต่โลกด้านนอกดินแดนเทพทอดทิ้งก็ยังไม่เคยปรากฏพระจันทร์สีนี้มาก่อน
ความมืดมิดกลับมาปกคลุมทุกสิ่งในอีกไม่กี่วินาทีถัดมา แสงจากสายฟ้ากลับมาเป็นแหล่งกำเนิดความสว่างตามเดิม
“เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น?”
“เห็นวงกลมสีแดงนั่นไหม?”
“พระจันทร์ นั่นคือพระจันทร์!”
“พระจันทร์แดง!”
“เป็นสัญญาณว่าพวกเรากำลังจะหลุดพ้นจากความยากลำบาก?”
“การสำรวจวังราชาคนยักษ์ครั้งที่สองจะประสบความสำเร็จอย่างราบรื่นจนสามารถเปิดประตูออกสู่โลกภายนอก?”
ท่ามกลางความสับสน ชาวเมืองเงินพิสุทธิ์ส่วนใหญ่ตีความว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวคือลางดีในเชิงศาสตร์เร้นลับ มีเพียงโคลินอีเลียดและบรรดาอาวุโสเท่านั้นที่เผยสีหน้าเคร่งเครียดพลางขมวดคิ้ว
…
เหนือสายหมอกสีเทา ภายในวังโบราณ
ไคลน์กำลังวิเคราะห์ ‘ความลับ’ หลังเอาตัวรอดจากกลอุบายของอามุนด์มาได้ฉิวเฉียด
อันที่จริงมีหลายเรื่องที่มันพอจะทราบอยู่แล้ว แต่พอได้ยินคำยืนยันก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงปนสิ้นหวัง
เมื่อพิจารณาว่าอวกาศเล่นงานเรารุนแรงเช่นนี้ หมายความว่าความลับเกือบทั้งหมดที่อามุนด์เล่าเป็นของจริง…
ยังมีลำดับเหนือลำดับศูนย์…คงเป็นระดับที่เทพสุริยันบรรพกาลเอื้อมถึง…แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สมบูรณ์สักเท่าไร เพราะยังสามารถพลาดท่าถูกหักหลังจนร่วงหล่นและถูกแบ่งศพ…
…เป็นไปตามที่อามุนด์บอก การนิยามลำดับดังกล่าวว่า ‘พระผู้สร้าง’ ยังไม่ถูกต้องเสียทีเดียว…อามุนด์ตั้งชื่อมันว่า ‘เหนือลำดับ’…แต่ก็ยังมีบางตัวตนที่เรียกระดับดังกล่าวว่า ‘ก้าวข้ามลำดับ’…กำลังจะสื่อว่าเป็นลำดับที่ก้าวข้ามขีดจำกัดของเส้นทางผู้วิเศษ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ