ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ นิยาย บท 1256

‘ทะเล’ ลึกกลืนกินวงกลมแสงสว่าง เปลี่ยนให้บรรยากาศภายในเขตแดนเจิดจรัสมืดลงจากเดิมมาก

สายฟ้าสีเงินทยอยระเบิดออกจากภายในทีละหนึ่ง เปลี่ยนให้จุดที่เอ็นยูนและโคลินกำลังสู้กันกลายเป็นผืนป่าอสนี

ท่ามกลางเสียงฉ่า อสรพิษสายฟ้าจำนวนมหาศาลแทรกซึมเข้าไปช่องว่างชุดเกราะของโคลินรวมถึงกะบังหน้า

อัศวินสีเงินผู้เผยร่างสัตว์ในตำนานไม่สมบูรณ์พลันชะงักราวกับถูกสายฟ้าทำให้เป็นอัมพาต ทางด้านเอ็นยูน เกราะสีดำที่คล้ายกับสร้างจากพลัง ‘เสื่อมทราม’ ของมันมีคุณสมบัติดูดกลืนสายฟ้า ช่วยให้ร่างกายไม่ได้รับผลกระทบมากนัก

ฉวยโอกาสตรงหน้า เอ็นยูนที่เกราะสีดำเริ่มร่วงกราวหลุดจากผิวหนัง ทำการเหวี่ยงดาบใหญ่สีดำด้วยสองมือเพื่อฟันในแนวเฉียง โดยที่โคลินหมดสิทธิ์หลบโดยสิ้นเชิงเนื่องจากกำลังอยู่ในอาการอัมพาต

ท่ามกลางเสียงผิวหนังถูกเชือดเฉือน รอยแยกเป็นทางยาวปรากฏขึ้นบนไหล่ซ้าย ราวกับชุดเกราะสีเงินที่ถูกฟันขาดสูญเสียคุณสมบัติในการป้องกันไปโดยสิ้นเชิง

นี่คือ ‘ดาบเนื้อวิญญาณ’ ของอัศวินมืด ไม่เพียงจะมีคุณสมบัติกัดกร่อนเลือดเนื้อ ทำลายวิญญาณ และฟันผ่านสิ่งกีดขวาง แต่ยังสามารถมองข้ามพลังป้องกันของสิ่งมีชีวิตที่มีความคิดด้านลบ ถือเป็นพลังหลักของอัศวินมืดที่อยู่ในขอบเขต ‘ความเสื่อมทราม’

เมื่อเห็นว่า ‘ดาบเนื้อวิญญาณ’ สามารถเฉือนเกราะบนไหล่ซ้ายโคลินสำเร็จ แถมรอยแผลก็ยังกว้างขึ้นอย่างต่อเนื่องประหนึ่งจะฉีกไปถึงหัวใจ เดอร์ริคเผยสีหน้าตึงเครียดทันที มันรีบควบแน่นหอกพลังแสงอาทิตย์และขว้างใส่เอ็นยูนหลังจากง้างไปด้านหลังเล็กน้อย

หอกเจิดจรัส!

เอ็นยูนไม่หยุดโจมตีหรือหลบหลีก เพียงสยายปีกมายาออกมาป้องกันตัวเองประหนึ่งโล่

บึ้ม!

หอกเจิดจรัสทะลวงผ่านปีกมายาสีดำได้สองชั้น จากนั้นก็ระเบิดแสงสีขาวไปทุกทิศคล้ายกับดวงอาทิตย์ขนาดย่อม

ในเวลาเดียวกัน ร่างกายทุกส่วนของโคลินเริ่มละลายกลายเป็นแอ่งโลหะเหลวสีเงิน

ของเหลวดังกล่าวไหลด้วยความเร็วสูงก่อนจะจัดระเบียบใหม่กลายเป็นร่างกายโคลินในจุดห่างออกไป มันยังคงอยู่ในรูปลักษณ์คนยักษ์ที่สวมเกราะสีเงินตามเดิม เพียงแต่ไหล่และแขนซ้ายของเจ้าเมืองเงินพิสุทธิ์หลุดร่วงหล่นพื้น รอยตัดบนบาดแผลเรียบเนียนโดยไม่มีเลือดแม้แต่หยดเดียว

โคลินที่ใช้พลัง ‘จำแลงปรอท’ หลบหนี ยอมสละแขนซ้ายเพื่อแลกกับบาดแผลที่อาจร้ายแรงถึงชีวิต

สายตาด้านหลังกะบังหมวกของโคลินมิได้สั่นคลอนแม้แต่น้อย มันรีบกำดาบสนธยาอีกข้างแน่นกระชับก่อนจะวิ่งปรี่เข้าใส่ศัตรูด้วยบรรยากาศคุกคามประหนึ่งหัวรถจักรที่แล่นด้วยความเร็วเกิดขีดจำกัด

เดอร์ริครีบควบแน่นหอกแสงอาทิตย์อีกครั้งจากด้านข้าง ตามด้วยการปาหอกแห่งแสงเข้าใส่เอ็นยูน

ระหว่างนั้นก็เปิดปากเปล่งเสียงเคร่งขรึม:

“พระองค์ทรงตรัสว่า การชำระล้างจะสัมฤทธิผล”

นี่คือพลังของ ‘ผู้รับรอง’ ที่ถูกยกระดับเมื่อก้าวมาถึงผู้เจิดจรัส

พลังดังกล่าวสอดประสานเข้ากับเขตแดนเจิดจรัสของนักบุญสุริยันจนทำให้บรรยากาศโดยรอบสว่างขึ้น ออร่าความเสื่อมทรามของเอ็นยูนและโลเฟียร์อ่อนแอลงถนัดตา

“พระองค์ทรงตรัสว่า มันไม่ได้ผล!” นักบุญสุริยันรีบปฏิเสธ ‘การรับรอง’ ของเดอร์ริคเพื่อเปลี่ยนให้คุณสมบัติ ‘ชำระล้าง’ กลับไปเป็นปรกติ

ท่ามกลางเสียงแหวกอากาศ หอกเจิดจรัสพุ่งเข้าใกล้เอ็นยูนทุกขณะ โดยที่ปีกมายาสีดำของอัศวินมืดปัจจุบันเหลือเพียงครึ่งเดียวจากของเดิมเพราะถูกการโจมตีล่าสุดทำลายไปหลายคู่

เอ็นยูนหลบหลีกหอกแสงบริสุทธิ์ได้ไม่ถนัดนักเนื่องจากอีกฝ่ายขว้างมาในระยะใกล้ แถมตนยังต้องการต้านรับการโจมตีจากโคลินที่พุ่งเข้าหาอย่างต่อเนื่อง จึงตัดสินใจสยายปีกมายาสีดำคู่หนึ่งออกจนสุดและปล่อยให้พวกมันแตกกระจัดกระจายกลายเป็นชิ้นส่วน ‘ความมืด’

เมื่อหอกเจิดจรัสสัมผัสกับ ‘ความมืด’ บางส่วนของหอกปนเปื้อนด้วยของเหลวสีดำเหนียวหนืด บางส่วนถูกกัดกร่อนและแตกหักลงไปกระแทกใส่บันไดหิน บางส่วนกระเด็นกลับมาหาเดอร์ริค·เบเกอร์

ทุกส่วนเกิดความเสื่อมทรามในพริบตา

ได้เห็นฉากตรงหน้า เดอร์ริครีบเคลื่อนไหวตามสัญชาตญาณที่ถูกขัดเกลามานานหลายปีจากการฝึก จากหน่วยลาดตระเวน และจากหน่วยสำรวจแห่งเมืองเงินพิสุทธิ์ เด็กหนุ่มกระโดดไปข้างหน้าและกลิ้งม้วนตัว

ฉ่า!

เศษหอกสีดำพุ่งปะทะพื้นด้านหลังเดอร์ริคและกัดกร่อนบันไดหินเป็นวงกว้าง

ในเวลาเดียวกัน นักบุญสุริยันทำการซัดหอกเจิดจรัสบ้าง เกิดเป็นลำแสงสีขาวแหวกผ่านอากาศจนโลเฟียร์ต้องรีบสลับหนึ่งในดวงวิญญาณเพื่อ ‘บลิงค์’ เข้าไปประชิดตัวศัตรู

เรื่องน่าเสียดายก็คือ ในสภาพปัจจุบันเธอสามารถใช้ดวงวิญญาณได้พร้อมกันเพียงทีละหนึ่ง มิอาจใช้ ‘บลิงค์’ ควบคู่กับ ‘เรเพียร์เงิน’ เพื่อสะบั้นร่างนักบุญสุริยันจากระยะไกลได้เหมือนทุกที

ในอีกด้านหนึ่ง ศึกระหว่างไคลน์และ ‘เงา’ กำลังดุเดือดจนเหนือความคาดหมาย ท่ามกลางเสียงระเบิดของปืนใหญ่อัดอากาศและแสงสีแดงจากเปลวไฟที่ลุกท่วม เศษกระดาษจำนวนมากโปรยปรายเต็มสนามรบ ภาพลวงตากลายเป็นฟองอากาศหลังจากถูกทำลาย

หุ่นเชิดอัศวินสีเงินกำลังถูกส่งไปรับมือนักบุญผู้ชม เพราะไม่ว่ากายามังกรจิตจะทนทานสักเพียงใด แต่ย่อมไม่ใช่คู่มือของครึ่งเทพเส้นทางคนยักษ์ที่เชี่ยวชาญการรบระยะประชิด

แต่แน่นอน ฝ่ายนักบุญผู้ชมเองก็ไม่ได้รับบาดเจ็บสักเท่าไร เพราะท้ายที่สุด มันสามารถเผยร่างสัตว์ในตำนานได้อย่างปลอดภัย หากไม่ใช่เพราะศัตรูในคราวนี้เป็นเพียงหุ่นเชิด และไคลน์ยังเป็นถึงผู้วิเศษลำดับ 3 ที่ย่อยโอสถสมบูรณ์ แถมยังเคยเห็นร่างสัตว์ในตำนานมาแล้วมากมาย การแปลงมังกรของผู้ชมครึ่งเทพจะแผ่ออร่าที่สามารถแทรกแซงความคิดศัตรูจนค่อยๆ เปลี่ยนให้กลายเป็นบ้า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ