ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ นิยาย บท 1299

สรุปบท ราชันเร้นลับ 1299 : นมและน้ำผึ้ง: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ

สรุปตอน ราชันเร้นลับ 1299 : นมและน้ำผึ้ง – จากเรื่อง ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ โดย Internet

ตอน ราชันเร้นลับ 1299 : นมและน้ำผึ้ง ของนิยายInternetเรื่องดัง ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ดินแดนเทพทอดทิ้ง เมืองจันทรา

เมื่ออดาล ซิน รุส และคนอื่นๆ ได้ยินเสียงของมหานักบวชดังกังวานไปทั่วเมือง พวกมันรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก

ทุกคนยืนขึ้นแทบจะในเวลาเดียวกัน พลางแบกย่ามหนังสัตว์ที่เตรียมไว้แล้วขึ้นหลัง

ด้านในเป็นวัสดุจำพวกผงเห็ด เห็ดตากแห้ง ตะกอนพลัง และหนังสัตว์ประหลาดซึ่งถูกแจกจ่ายในปริมาณแตกต่างกัน

สำหรับพวกมัน แม้จะตื่นเต้นเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเปี่ยมไปด้วยความคาดหวัง แต่ความทุกข์ยากซึ่งเคยเผชิญในอดีตทำให้กังวลว่าพวกตนจะไม่ได้รับการเอาใจใส่มากนัก จึงต้องพกอาหารไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ก่อนหน้านี้หลายฟ้าแลบ นักบวชของเมืองจันทราได้รับวิวรณ์จากมิสเตอร์ฟูล จึงงดส่งทีมล่าออกนอกเมือง และเรียกให้ชาวเมืองเก็บข้าวของสำคัญและเตรียมพร้อมออกเดินทางในทุกเมื่อ

ไม่กี่นาทีถัดมา อดาลและคนอื่นๆ ทยอยเดินถือตะเกียงหนังสัตว์เดินออกจากบ้านมายังถนน

เมื่อสายตาประสานกัน ใบหน้าซึ่งพิการหรือไม่ก็ปกคลุมด้วยตุ่มเนื้อต่างเผยความยินดีโดยไม่เก็บซ่อน ไม่มีใครเสียใจกับการต้องทิ้งเมืองจันทราซึ่งเป็นบ้านเกิด

นี่คือหนึ่งในต้นตอของฝันร้ายที่พวกมันต้องเผชิญ ไม่รู้ว่าผ่านมาแล้วกี่ชั่วอายุคนที่วัยเด็กของชาวเมืองปราศจากความสุข

หลังจากรวมตัวกัน ณ จัตุรัสซึ่งมีเวทียกสูง พวกมันระงับความตื่นเต้น เข้าแถวอย่างเป็นระเบียบตามย่านพักอาศัย พลางตรวจสอบว่าเพื่อนบ้านของตนมาถึงแล้วหรือยัง

เพียงไม่นาน ชาวเมืองจันทราทุกคนเตรียมตัวเสร็จเรียบร้อย มหานักบวชนีมก้าวขึ้นไปบนเวทียกสูงก่อนจะกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ทุกคน ผมได้รับวิวรณ์แล้ว… มิสเตอร์ฟูลกำลังจะช่วยให้เราได้ออกจากดินแดนต้องสาปแห่งนี้และมีชีวิตในรูปแบบใหม่… มิสเตอร์ฟูลจงเจริญ!”

มันนำฝ่ามือขวากดลงบนหน้าอกซ้ายเพื่อเป็นตัวอย่าง

นี่คือท่าที่พวกมันคิดขึ้นเพื่อสรรเสริญมิสเตอร์ฟูล และมิสเตอร์ฟูลก็มิได้คัดค้าน

“มิสเตอร์ฟูลจงเจริญ!” ชาวเมืองจันทรากดฝ่ามือขวาลงบนหน้าอกซ้าย สีหน้าเปี่ยมด้วยความศรัทธาอย่างแรงกล้า

ท่ามกลางเสียงกึกก้อง นีมเจ้าของผมสีเทา ยกมือขึ้นเล็กน้อยและกดลงเป็นเชิงบอกให้เงียบ:

“พวกเราจะถูกส่งไปยังเมืองเงินพิสุทธิ์ก่อน ไปรวมตัวกับผู้รอดชีวิตที่นั่น จากนั้นก็จะมุ่งหน้าออกไปยังโลกภายนอกอันสดใสพร้อมกัน… ไม่ต้องกังวลในสิ่งใด มิสเตอร์ฟูลจะคอยปกป้องพวกเราอย่างแน่นอน… เอาล่ะ หลับตาลงและเริ่มวิงวอน”

กล่าวจบ มหานักบวชประสานมือไว้ด้านหน้า เม้มริมฝีปากแน่น เริ่มสวดวิงวอนถึงเดอะฟูลจากก้นบึ้ง โดยหวังว่าตัวตนอันยิ่งใหญ่รายนี้จะช่วยเติมเต็มความปรารถนาสูงสุดของชาวเมืองจันทราซึ่งสั่งสมจากรุ่นสู่รุ่นตลอดสองสามพันปีที่ผ่านมา

วินาทีถัดมา ครึ่งเทพแห่งเส้นทางรัตติกาลเริ่มตระหนักว่าสภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไป เมื่อลืมตาขึ้นและมองไปรอบตัว พวกมันเริ่มเห็นเสาหินซึ่งมีโคมไฟแขวน เห็นร่างของมนุษย์ตัวสูงใหญ่

ที่นี่คือเมืองเงินพิสุทธิ์? เรามาถึงเมืองเงินพิสุทธิ์แล้ว… ด้วยพลังของทวยเทพ… มิสเตอร์ฟูลจงเจริญ! อดาล ซิน และคนอื่นๆ รีบสำรวจสภาพแวดล้อมอย่างละเอียด

พวกมันมีภาพจำที่ดีต่อเมืองเงินพิสุทธิ์ เพราะผู้เผยแผ่พระวจนะแห่งเทพอย่างเกอร์มัน·สแปร์โรว์เคยกล่าวว่า หลังจากเข้ามาในดินแดนเทพทอดทิ้ง เมืองแรกที่ได้พบคือเมืองเงินพิสุทธิ์

ท่ามกลางความมืดมิด ที่นี่คือจุดเริ่มต้นในการเผยแผ่แสงสว่างแห่งพระองค์ เป็นต้นกำเนิดของความหวังทั้งปวง

ไม่เพียงนาน ร่างรอบตัวเริ่มคมชัดอย่างรวดเร็ว เกือบทั้งหมดสูงกว่าสองเมตร ใบหน้าและร่างกายปรกติสมบูรณ์ ปราศจากภาวะพิการโดยสิ้นเชิง อีกฝ่ายกำลังจดจ้องมาทางชาวเมืองจันทราด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็นเจือหวาดระแวง

ความสูงอันน่าทึ่งของชาวเมืองเงินพิสุทธิ์สร้างบรรยากาศกดดันเป็นล้นพ้น จนอดาล ซิน รุสและคนอื่นเกิดความประหม่า ต่ำต้อย และกังวล

อย่างไรก็ตาม เมื่อลองกวาดสายตาเพิ่มเติม พวกมันเห็นชาวเมืองเงินพิสุทธิ์บางคนกำลังแทะเห็ดสีน้ำตาล บ้างก็กำลังดูดของเหลวจากเห็ดสีขาวอวบอ้วน

ฉากที่คล้ายคลึงกันทำให้ชาวเมืองจันทราค่อยๆ ผ่อนคลายตัวเองลง และมองว่า ‘ครึ่งยักษ์’ เหล่านี้มีบางจุดคล้ายคลึงกับตน

ฮอยต์·เฌอมงต์เจ้าเมืองเงินพิสุทธิ์ พยักหน้าให้กับบุคคลที่น่าจะเป็นเจ้าเมืองจันทรา มหานักบวชผู้เรียกตัวเองว่านีม

“คุณพร้อมหรือยัง”

ดวงตาของมันสงบนิ่งและเป็นธรรมชาติ มิได้ดูแคลนอีกฝ่ายเพียงเพราะมีรูปลักษณ์ ‘น่ากลัว’

ด้วยกังวลว่าอาจเกิดเหตุไม่คาดฝัน นีมขานรับทันที

“พร้อม”

ฮอยต์·เฌอมงต์หันหน้าไปทางชาวเมืองเงินพิสุทธิ์ทันที

“กินอาหารให้เสร็จภายในสามนาทีและเริ่มสวดวิงวอน”

เพียงไม่ถึงหนึ่งนาที ชาวเมืองเงินพิสุทธิ์ดื่ม ‘นม’ จนหมดและทิ้งอาหารในมือลง จากนั้นก็สวดวิงวอนถึงเดอะฟูลอย่างเคร่งขรึม

การมาเยือนซึ่งดูราวกับปาฏิหาริย์ของผู้รอดชีวิตโบราณ – ชาวเมืองจันทรา ทำให้ชาวเมืองเงินพิสุทธิ์ยิ่งมั่นใจว่าพวกตนสามารถหลุดพ้นจากดินแดนเทพทอดทิ้งได้จริง ไม่มีใครคลางแคลงในตัวมิสเตอร์ฟูลอีกต่อไป

ไม่กี่วินาทีถัดมา ทุกคนบนลานกว้างภายในเมืองเงินพิสุทธิ์พลันอันตรธานหาย

เมืองเงินพิสุทธิ์เงียบสงัดในพริบตา ในอีกไม่ช้า วัชพืชกลายพันธุ์จะเจริญเติบโต สัตว์ประหลาดจะเดินเตร็ดเตร่ไปทั่วถนนและบ้านเรือน

ผ่านไปไม่กี่วินาที ชาวเมืองเงินพิสุทธิ์และจันทราถูกส่งมายังด้านหน้าวังราชาคนยักษ์ซึ่งถูกฉาบไปด้วยแสงสนธยา

นี่คือ ‘พิธีกรรม’ ซึ่งไคลน์จงใจสร้างขึ้น เพื่อให้ผู้รอดชีวิตจากดินแดนเทพทอดทิ้งได้บอกลาอดีตเป็นครั้งสุดท้าย

ขณะชาวเมืองจันทรากำลังตกตะลึงในความอลังการ มหากาพย์ และบรรยากาศซึ่งราวกับหลุดมาจากตำนานของวังราชาคนยักษ์ ชาวเมืองเงินพิสุทธิ์ส่วนใหญ่หันหลังกลับและก้มมองไปยังจุดห่างไกล

ใต้แสงสนธยาสีส้ม ผืนแผ่นดินล้วนจมอยู่ในความมืดมิด และเมื่อฟ้าแลบเป็นครั้งคราว เค้าโครงของอาคารโบราณ ภูเขาสูงตระหง่าน และพืชพันธุ์ที่กลายพันธุ์จะถูกเผยสู่สายตา

ดวงตาของเธอหรี่ลงเล็กน้อย สีหน้าค่อยๆ เผยความอิ่มเอมใจ

ระหว่างนี้ เธอไม่กล่าวสิ่งใดแม้แต่คำเดียว

เมื่อเห็นพฤติกรรมของบุตรสาว ภรรยาลีอาวาลนำทอฟฟี่ใส่ปาก

เธอมองว่าสิ่งนี้เป็นของมีค่า จึงไม่กล้าเคี้ยวลงไปทันที แต่เลือกจะอมไว้ในช่องปากและปล่อยให้มันค่อยๆ ละลาย

กลิ่นนมและความหวานซึ่งยากจะบรรยาย กำลังฟุ้งเต็มปากจนภรรยาลีอาวาลเริ่มเผยสีหน้าอิ่มเอิบ

ได้เห็นฉากตรงหน้า ลีอาวาลฉีกยิ้มกว้างกว่าเดิม ตามด้วยพรั่งพรูคำพูดที่ค้างคาอยู่ในลำคอ

“ผู้ส่งสารของพระองค์กล่าวว่า พวกเราสามารถเข้าไปหางานทำในบายัมได้ รับค่าจ้างเป็นทองปอนด์ และทองปอนด์สามารถนำไปใช้แลกสินค้าอื่นๆ อย่างทอฟฟี่ได้… นอกจากนั้น เรายังสามารถขายตะกอนพลังและหนังสัตว์ประหลาดส่วนเกินให้กับโบสถ์เทพสมุทร… เทพสมุทรคือเทพรับใช้ของมิสเตอร์ฟูล… ใกล้มืดค่ำแล้ว ผมจะพาพวกคุณไปชมพระอาทิตย์ตกแถวชายหาด มันสวยมาก ผมไปดูทุกวันเลย และอยากพาพวกคุณไปดูด้วยกันมานานแล้ว…”

เสร็จสักที หลักยึดเหนี่ยวของเราเสถียรขึ้นมาก… นอกจากนั้น การเติมเต็มความปรารถนาให้ชาวเมืองเงินพิสุทธิ์และจันทรา ช่วยให้เราย่อยโอสถผู้ชี้นำปาฏิหาริย์ไปได้หลายระดับ แต่ก็ยังไม่เท่ากับการฟื้นฟูเมืองคอนสแตน… อย่างที่คิด การทำตัวเป็น ‘เทพประทานพร’ ไม่ใช่การสวมบทบาทที่ถูกต้องที่สุด… ไคลน์เหนือสายหมอกสีเทา ถอนหายใจแผ่วพลางโยนไม้เท้าดวงดาวกลับเข้าไปในกองขยะ

หลังจากนี้ มันจะพเนจรเพื่อสร้างปาฏิหาริย์ต่อไป และแวะไปยังดินแดนเทพทอดทิ้งเป็นครั้งคราวเพื่อเปลี่ยนสัตว์ประหลาดบางชนิดให้กลายเป็นหุ่นเชิด เตรียมความพร้อมสำหรับพิธีกรรมในอนาคต

สำหรับแผนการสวมบทบาทขั้นถัดไป ไคลน์เตรียมตระเวนสั่งสมพร ‘แปลงโฉม’ จากผู้คนจนถึงระดับหนึ่ง จากนั้นจะนำมาแก้ปัญหาในระดับปาฏิหาริย์ให้กับชาวเมืองจันทรา

ไม่ยากเท่าไร… มีหญิงสาวไม่น้อยต้องการขจัดสิว ทำตาสองชั้น เสริมดั้ง ตัดปีกจมูก และเราสามารถทำได้ไม่ยาก… ด้วยวิธีดังกล่าว หากค่อยๆ ไล่ระดับจากพรง่ายไปยาก สะสมสักพักก็คงสามารถรักษาความพิการของชาวเมืองจันทราได้… ในโลกภายนอกเช่นนี้ พวกเขาจะยิ่งรู้สึกต่ำต้อยด้วยรูปลักษณ์ปัจจุบัน… ไคลน์พึมพำเงียบ จากนั้นก็รำพันจิกกัดตัวเอง:

หึหึ… ถ้าทำสำเร็จ เราจะเรียกตัวเองว่า ปรมาจารย์แห่งอุตสาหกรรมความงาม ผู้พิทักษ์สถาปนิกและคนงานก่อสร้าง ผู้รังสรรค์ปาฏิหาริย์จากการเดินทางไกล…

หลังจากเข้าสู่น่านน้ำซึ่งไม่ใช่ทางเดินเรือปลอดภัย คล้ายกับราชินีเงื่อนงำแบร์นาแดตสูญเสียการรับรู้ด้านเวลา หากไม่มีนาฬิกาแขวนซึ่งแม่นยำและเที่ยงตรงภายในห้องกัปตันเรือ เธอคงลืมไปแล้วว่าตนเข้ามาในน่านน้ำอันตรายแห่งนี้กี่คืนวัน

สายลมกระโชกและสายฝนโหมกระหน่ำทำให้เรือลอยไปในอากาศบ่อยครั้ง ประหนึ่งกำลังซ้อมรับมือกับวันสิ้นโลก

แบร์นาแดตเฝ้ามองอย่างสงบและอดทน ไม่เข้าไปแทรกแซงสถานการณ์ของเรือ ‘รุ่งอรุณ’ มากนัก

ไม่มีใครทราบว่าอีกนานแค่ไหนพายุจึงจะสงบ

ทันใดนั้นเอง เค้าโครงสีดำปรากฏขึ้นจากระยะไกล

……………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ