คดีฆาตกรรมไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่สำหรับเวนเดลล์ ได้ยินหญิงสาวกล่าวออกมาเช่นนั้น มันมิได้แตกตื่น เพียงมองผ่านอีกฝ่ายเข้าไปสำรวจสภาพแวดล้อมภายในห้อง
มันเห็นชายคนหนึ่งนอนอยู่บนพื้น หน้าอกแดงก่ำไปด้วยเลือด
“คุณแน่ใจหรือว่าเขาตายแล้ว” เวนเดลล์ถามเสียงเรียบ
สตรีในวัยยี่สิบเหม่อลอยสักพักก่อนจะตอบด้วยความลังเล
“อาจจะ… ฉันไม่ทราบ…”
“ถ้ายังมีโอกาสรอด เราควรรีบพาเขาส่งโรงพยาบาลโดยด่วน” น้ำเสียงของเวนเดลล์ ฟังดูคล้ายกำลังคุยกับครอบครัวของคนไข้มากกว่าฆาตกร
สตรีผู้ถือมีดชุ่มเลือดเบี่ยงตัวหลบเพื่อให้อีกฝ่ายเข้าไปในห้อง
เวนเดลล์ขยับเข้าไปใกล้เหยื่อ
มันไม่จำเป็นต้องนั่งยอง เพียงจดจ้องสักพักก็ยืนยันได้จากสัญชาตญาณ:
“เขาตายแล้ว”
สตรีวัยยี่สิบ เจ้าของผมสีป่านกระเซิงยาวประบ่า มิได้เปลี่ยนสีหน้ามากนัก เพียงก้มมองนิ้วเท้าและกล่าว
“โทรแจ้งตำรวจเถอะค่ะ”
“คุณชื่ออะไร” ขณะถาม เวนเดลล์ได้ยินเสียงฝีเท้าหนึ่งดังมาจากบันได
คงเป็นบริกรหรือเจ้าของโรงแรมซึ่งได้ยินเสียงกรีดร้องเมื่อครู่ จึงส่งคนมาตรวจสอบ
“เทรซี่…” หญิงสาวหน้าตาบ้านๆ และใสซื่อตอบเสียงแผ่ว
เธอกลับเข้าไปในภวังค์โดยไม่กล่าวคำใดต่อ
ขณะเวนเดลล์เตรียมกล่าวบางสิ่ง มันเห็นเจ้าของโรงแรมซึ่งเป็นคนเช็กอินให้ตน วิ่งมาถึงหน้าประตู
“โอ้ท่านเทพธิดา!” หลังจากเห็นสถานการณ์ภายในห้องชัดเจน ชายชราอดไม่ได้ที่จะโพล่ง
เวนเดลล์ยื่นมือขวาออกไปและกดลง เป็นสัญญาณบอกให้อีกฝ่ายสงบสติ จากนั้นก็กล่าว
“คุณไปแจ้งตำรวจ ผมจะคอยเฝ้าที่นี่”
บรรยากาศและถ้อยคำของมัน ทำให้ผู้ฟังรู้สึกว่าต้องทำตาม เจ้าของโรงแรมรีบหันหลังกลับและวิ่งลงไปด้านล่างโดยไม่ลังเล
อันที่จริง เวนเดลล์แค่ต้องการตรวจสอบสถานการณ์เบื้องต้นตามนิสัยของสุภาพบุรุษ ไม่คิดจะเข้ามาพัวพันมากนัก ยังไงเสีย ตนก็ยังอยู่ระหว่างภารกิจ แต่อาการเหม่อลอย โดดเดี่ยว และมึนงงของมิสเทรซี่ ทำให้มันรู้สึกสงสารอยู่หลายส่วน เป็นการตอบสนองตามปรกติของผู้ชาย
มันมองไปรอบตัว เปล่งเสียงประหนึ่งกำลังพูดกับอากาศ:
“ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมใช่ว่าจะได้รับบทลงโทษรุนแรงเสมอไป บางครั้งก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์”
เทรซี่บรรจงเงยหน้าจ้องสุภาพบุรุษ
ในดวงตาที่คล้ายกับปลาตาย เผยความสับสนปนประกายแวววาว
เวนเดลล์ชำเลืองใบหน้าหญิงสาว:
“เขาทุบตีคุณหรือ”
“ค่ะ” คล้ายกับอีกฝ่ายมีอำนาจลึกลับบางอย่าง เทรซี่เปิดปากพูดทั้งที่ต้องการจะเงียบ
ดวงตาของเวนเดลล์เลื่อนลงมาจ้องมีดที่เลือดหยุดไหลแล้ว
“ใครเป็นคนเสนอให้มาที่นี่ คุณหรือเขา?”
เทรซี่ตอบเชื่องช้า:
“เขา”
เวนเดลล์พยักหน้าเล็กน้อย
“คุณมีสิทธิ์ตามกฎหมายที่จะแก้ต่าง ผมสามารถเป็นพยานให้ได้ว่า พวกคุณทะเลาะกันก่อนมีการลงมือ เห็นได้ชัดว่า เมื่อเหตุการณ์ดำเนินไปในทิศทางดังกล่าว ฝ่ายชายจะถือครองความได้เปรียบ ผมไม่ได้กำลังดูแคลนสตรี แต่นั่นเป็นข้อมูลเชิงสถิติจากวิทยาศาสตร์และประสบการณ์”
มันเว้นวรรค ตามด้วยถาม
“พวกคุณมีความสัมพันธ์กันอย่างไร? เกิดอะไรขึ้น?”
ดวงตาเทรซี่สั่นไหวเล็กน้อย หญิงสาวฟื้นตัวจากสภาวะปิดกั้นตัวเองทันที
ประหนึ่งกำลังตอบคำถามจากนายตำรวจ เทรซี่กล่าวด้วยดวงตาแฝงความหวังเจือเศร้า
“เปล่าค่ะ ฉันเป็นเมียน้อยของเขา”
พูดจบ หญิงสาวเผยรอยยิ้มตำหนิตัวเอง
“ฉันเคยเป็นผู้หญิงน่ารังเกียจที่ไล่ตามแต่เงินทองราวกับคนบ้า หลังจากออกจากโรงเรียน ฉันถูกเขาหลอกให้มาเป็นเมียน้อย… เขายกโรงแรมแห่งหนึ่งให้ฉันอยู่ และรอเขามาหาหรือเรียกออกไปพบในทุกสัปดาห์… ฉันค่อยๆ หมดอาลัยตายอยากกับชีวิต เริ่มหดหู่และดำดิ่ง จนกระทั่งอยากจะคืนทุกสิ่งและออกไปจากชีวิตเขา แต่เขาไม่ยอม คอยข่มขู่ฉันมากมาย ไม่ปล่อยให้ฉันไปไหน การพบกันหลังๆ ก็ลงเอยด้วยการทะเลาะทุกครั้ง… เมื่อสักครู่ เขาบอกว่ามีทางเดียวที่เขาจะยอมให้ฉันเป็นอิสระ นั่นคือความตาย จากนั้นเขาก็ทุบตีฉันและหยิบมีดออกมา… เหตุการณ์หลังจากนั้นคุณคงทราบดี…”
เมียน้อย… เวนเดลล์ชำเลืองใบหน้าเทรซี่ด้วยความเห็นใจ
“ร่องรอยในที่เกิดเหตุช่วยยืนยันว่าคำพูดของคุณตรงกับสิ่งที่เกิดขึ้น”
เดิมที มันเข้าใจว่าเทรซี่และผู้ตายเป็นสามีภรรยา แต่ความจริงกลับเลวร้ายยิ่งกว่า
เทรซี่พยักหน้า
“ขอบคุณค่ะ”
เธอไม่กล่าวสิ่งใดอีกจนกระทั่งตำรวจยูโทเปียมาถึงและทำลายความเงียบ หญิงสาวยกมือขึ้นและรับการใส่กุญแจมือ
เวนเดลล์ชำเลืองฝ่าเท้าเทรซี่เล็กน้อย ตามด้วยกล่าวกับตำรวจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ