สันตะปาปา… เดนิสพลันผงะ แทบไม่อยากเชื่อในวิวรณ์ที่ได้ยิน
หากไม่ใช่ว่านี่เป็นคำสั่งโดยตรงจากมิสเตอร์ฟูล มันคงโพล่งคำสบถออกมาแล้ว
แต่แน่นอน หากคนที่กำลังนั่งฝั่งตรงข้ามคือเกอร์มัน·สแปร์โรว์ เดนิสก็คงกลืนคำด่าลงคอไป
“ลอร์ดเดนิส ข้อมูลนี้มีปัญหาตรงไหนหรือ?” หัวหน้าหน่วยข่าวกรองของโบสถ์เทพสมุทรด้านนอกประตูพบว่าเดนิสมีสีหน้าค่อนข้างประหลาด จึงเกิดความหวาดกลัวเล็กน้อย
เดนิสสลัดความคิด ฝืนยิ้มพลางกล่าว
“คอยจับตาความเคลื่อนไหวของมหาวิหารคลื่นสมุทรไว้ให้ดี”
“ขอรับ ลอร์ดเดนิส” หัวหน้าหน่วยข่าวกรองถอนหายใจแผ่ว รีบกล่าวคำอำลา
เดนิสหันกลับมาจ้องอัลเจอร์·วิลสัน กล่าวด้วยรอยยิ้มสดใส
“มิสเตอร์ฟูลส่งวิวรณ์มาแล้ว”
อัลเจอร์ไม่เผยสีหน้าตื่นเต้น เพียงลุกขึ้นและกดมือขวาลงบนอกซ้าย
เดนิสเหยียดตัวตรง กล่าวเสียงขรึม
“พระองค์ทรงตรัสว่า: นับแต่นี้ไป อัลเจอร์จะสวมหน้ากากและทำหน้าที่สันตะปาปาแห่งโบสถ์เทพสมุทร”
“พระประสงค์ของมิสเตอร์ฟูลคือประสงค์ของข้า” อัลเจอร์ก้มศีรษะด้วยรอยยิ้ม
ครึ่งหนึ่งของรอยยิ้มเป็นเพียงการเสแสร้งต่อหน้าเดนิส ส่วนอีกครึ่งหนึ่งความเป็นสุขจากก้นบึ้ง นั่นเพราะวิวรณ์ดังกล่าวมีความนัยแฝงสองประการ:
มิสเตอร์ฟูลและเทพวายุสลาตันทำข้อตกลงบางอย่างร่วมกัน ส่งผลให้การละทิ้งศาสนาของอัลเจอร์จะไม่ถูกสอบสวนเชิงลึก แต่หลังจากนี้มันต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา เพื่อไม่เป็นการหมิ่นเกียรติของโบสถ์วายุสลาตัน
การเป็นสันตะปาปาของโบสถ์เทพสมุทร ถือเป็นก้าวย่างสำคัญในการขึ้นครองบัลลังก์เทพสมุทรของอัลเจอร์
จากมุมมองของมัน ปัจจุบันตนกลายเป็นบริวารของมิสเตอร์ฟูลโดยสมบูรณ์แล้ว ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการแลกเปลี่ยนตำแหน่งเทพสมุทร หรือการเป็นผู้นำของโบสถ์เดอะฟูล โอกาสของอัลเจอร์เปิดกว้างขึ้นมาก ไม่เพียงเท่านั้น มิสเตอร์ฟูลคือตัวตนอันยิ่งใหญ่ซึ่งกำลังฟื้นคืนพลัง ความแข็งแกร่งในปัจจุบันอาจทัดเทียมเทพแท้จริงหรือสูงกว่า เช่นนั้นแล้ว ‘ตัวแทน’ ของพระองค์ก็ควรอยู่ในระดับเทวทูตด้วยไม่ใช่หรือ?
โค้งคำนับเสร็จ อัลเจอร์รอคอยอย่างอดทนสักพัก จนกระทั่งเดนิสนำหน้ากากสีเงินทึบมาให้
มันหยิบหน้ากากขึ้นมาสวมบนใบหน้าด้วยท่าทางเคร่งขรึม
…
เลียวนาร์ดซึ่งแต่งกายด้วยถุงมือสีแดง กำลังเดินเล่นไปตามชายฝั่งแคว้นเลียบทะเล เพลิดเพลินไปกับเวลาว่างหลังจากสะสางคดีเหนือธรรมชาติเสร็จ
สำหรับเหตุการณ์ประตูและหน้าต่างเปิดเองเมื่อคืน มันได้รับคำสั่งจากเบื้องบนของศาสนจักรแล้ว ว่าไม่ต้องสอบสวนเพิ่มเติม
เลียวนาร์ดยอมทำตามแต่โดยดี เพราะมันทราบความจริงจากชายชราพาลีส·โซโรอาสเตอร์มาสักพักแล้ว:
มิสเตอร์ประตูกลับคืนสู่โลกความเป็นจริง และเทวทูตกาลเวลาอามุนด์ฉวยโอกาสดังกล่าวขโมยพิธีกรรมเถลิงบัลลังก์เทพ สถาปนาตัวเองกลายเป็นลำดับ 0 ‘ข้อผิดพลาด’ อย่างเต็มตัว โดยในขณะเดียวกัน มิสเตอร์ฟูลก็ฟื้นคืนพลังไปอีกขั้น ผนวกกับอำนาจของปราสาทต้นกำเนิด พระองค์สามารถสร้างการเชื่อมโยงบางๆ ครู่หนึ่งกับผู้วิเศษบนเส้นทางนักทำนาย ผู้ฝึกหัด และนักจารกรรม
ในฐานะเทวทูตแห่งเส้นทางนักจารกรรม พาลีส·โซโรอาสเตอร์ย่อมสัมผัสได้ชัดเจนว่า อามุนด์กลายเป็นเทพโดยสมบูรณ์แล้ว เป็นการตระหนักผ่านอำนาจภายในเส้นทาง ขณะเดียวกันก็พบว่า ปราสาทต้นกำเนิดได้สร้างการเชื่อมต่อบางๆ เข้ากับตน
“ตาแก่ ในเมื่ออามุนด์กลายเป็นลำดับ 0 แล้ว ความสำคัญของคุณในสายตาอีกฝ่ายก็น่าจะลดลง แล้วทำไมถึงยังต้องเป็นปรสิตอยู่ในตัวผม?” เลียวนาร์ดสูดอากาศยามเช้า พลางหรี่เสี่ยงถามด้วยความสงสัย
พาลีส·โซโรอาสเตอร์พ่นลมหายใจ
“ช่างไร้เดียงสา… คิดว่าตัวเองเป็นนักบุญ แถมยังช่ำชองในศาสตร์เร้นลับมาก จนคำแนะนำของข้าไม่จำแล้วเป็นสินะ?”
“ก็มาสอนด้วยร่างจริงก็ได้นี่” เลียวนาร์ดกล่าวหลังจากไตร่ตรอง
สำหรับมัน การมีเทวทูตเป็นปรสิตอยู่ในตัว มีทั้งข้อดีและข้อเสีย
ข้อดีก็คือ ถึงแม้จะบังเอิญเผชิญหน้ากับสัตว์ในตำนานร่างสมบูรณ์ เลียวนาร์ดก็พอจะตอบโต้กลับไปได้บ้าง ขอเพียงตนตะโกนออกไปว่า ‘ตาแก่’ ปัญหาหลายเรื่องก็จะคลี่คลายในทันที นอกจากนั้น ประวัติศาสตร์ของยุคสมัยที่สี่ รวมถึงความรู้เชิงศาสตร์เร้นลับจากอีกฝ่ายก็ยังมีประโยชน์กับตนไม่น้อย
ข้อเสียที่ใหญ่ที่สุดก็คือ ชีวิตของตนต้องอยู่ในกำมือปรสิต หากอีกฝ่ายมีเจตนาร้าย ตนก็หมดสิทธิ์ขัดขืนโดยสิ้นเชิง
ประเด็นดังกล่าวเคยสร้างความกังวลใจอย่างมากให้เลียวนาร์ด แต่ปัจจุบันไม่ใช่อีกต่อไป เพราะยิ่งมิสเตอร์ฟูลฟื้นตัว พระองค์ก็ยิ่งแข็งแกร่งจนสามารถกำราบพาลีส·โซโรอาสเตอร์ได้อยู่หมัด นอกจากนั้น เลียวนาร์ดยังกลายเป็นอาวุโสใหญ่ของโบสถ์รัตติกาล เทพธิดาจะต้องคอยเฝ้าจับตาอย่างแน่นอน และอาจเป็นไปได้ที่พระองค์จะทำเครื่องหมายพิเศษเอาไว้ ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว เทพผู้กุมอำนาจ ‘การปกปิด’ ย่อมมองเห็นพาลีส·โซโรอาสเตอร์ที่เป็นปรสิตได้ง่ายดาย หากชายชรามีเจตนาร้ายจริง ก็คงถูกขจัดออกไปสักพักแล้ว
สิ่งที่เลียวนาร์ดเป็นกังวล จึงอยู่ในประเด็นด้านอิสระและความสะดวก
แม้จะเคยชินกับการเข้าห้องน้ำโดยมีอีกฝ่ายเป็นปรสิตอยู่ในร่าง รวมถึงเคยสนทนาอย่างเป็นกันเองขณะนั่งชักโครก แต่ภายใต้สถานการณ์พิเศษดังกล่าว เลียวนาร์ดอยากอยู่คนเดียวมากกว่า
ดังนั้นมันจึงรู้สึกว่า คงเป็นการดีกว่าหากอีกฝ่ายจะออกจากร่างของตน และอาศัยร่วมกันภายในบ้านเหมือนกับอาวุโสคนหนึ่ง โดยในยามต้องเผชิญหน้ากับอันตราย มันยังสามารถบอกให้ชายชราปรสิตร่างศัตรู
ได้ยินคำแนะนำของเลียวนาร์ด พาลีส·โซโรอาสเตอร์พ่นลมหายใจ
“เจ้าอยากให้ข้าออกจากร่างขณะอยู่บ้าน และปรสิตร่างเจ้าตอนออกไปข้างนอก? คิดว่าข้าเป็นบอดี้การ์ดหรืออย่างไร?”
เลียวนาร์ดขำแห้ง
“ถ้าคุณยังฟื้นตัวไม่สมบูรณ์ จะเป็นปรสิตต่อไปก็ได้ ผมไม่ขัดข้อง”
พาลีส·โซโรอาสเตอร์เงียบไปหลายวินาที ก่อนจะเปล่งเสียงค่อนข้างชราภายในใจเลียวนาร์ด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ