บนระเบียงที่อาบไปด้วยแสงแดดฤดูใบไม้ร่วง ออเดรย์ซึ่งแต่งกายในหมวกฟาง กำลังนั่งบนเก้าอี้นวมตัวยาว พลิกอ่านนิตยสารแฟชั่นด้วยท่าทีผ่อนคลาย
บนโต๊ะกลมตัวเล็กด้านข้างหญิงสาว มีจานของหวานรสเลิศและถ้วยชาดำ ชงจากใบชาที่ผลิตจากคฤหาสน์ของตระกูล
ทันใดนั้นเอง หญิงสาวเงยหน้าขึ้น มองไปยังขอบระเบียงและเห็นเกอร์มัน·สแปร์โรว์ในชุดคลุมสีดำและหมวกผ้าไหม บรรจงย่างกรายเข้าหา
ออเดรย์หันศีรษะเพื่อชำเลืองไปทางแอนนี่ สาวใช้ส่วนตัว และพบว่าอีกฝ่ายไม่ต่างจากคนรับใช้ที่เหลือรอบๆ มิได้สังเกตเห็นคนแปลกหน้าแม้แต่น้อย
ขณะเดียวกัน หญิงสาวเริ่มตระหนักว่าสภาพแวดล้อมรอบตัว มีบรรยากาศสลัวลงเล็กน้อย
เธอลุกขึ้นยืน ยกชายกระโปรงเพื่อโค้งคำนับ
ระหว่างนั้น หญิงสาวเตรียมเรียบเรียงคำพูดเพื่อสนทนาในหัวข้อเกี่ยวกับสมาคมแปรจิตและมิสเตอร์โทสะอย่างจริงจัง แต่หลังจากไตร่ตรองอยู่สักพัก ออเดรย์ฉีกยิ้มกว้างพลางกล่าวด้วยเสียงแผ่วเบาชวนฝัน
“มิสเตอร์เวิร์ล การมาเยือนของคุณในคราวนี้ เพื่อเข้ารับการรักษาอาการทางจิต หรือมาเพื่อสะสางปัญหาของมิสเตอร์โทสะ?”
หากความต้องการของอีกฝ่ายมีเพียงประเด็นแรก ออเดรย์เชื่อว่าเกอร์มัน·สแปร์โรว์คงนัดพบเธอบนมิติเหนือสายหมอกมากกว่า เพราะนั่นทั้งสะดวกและรวดเร็วกว่ามาก ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงว่า เทวทูตรายนี้เป็นตัวแทนมิสเตอร์ฟูลเพื่อมาสะสางปัญหาบนโลกความจริง
ในเวลาเดียวกัน หญิงสาวสัมผัสได้ว่าอารมณ์ของมิสเตอร์เวิร์ลค่อนข้างซับซ้อน มีทั้งพึงพอใจและเปี่ยมสุข ไปจนถึงซึมเศร้าและทุกข์โศก
แต่ในฐานะจิตแพทย์ส่วนตัวของเกอร์มัน·สแปร์โรว์ สภาพเช่นนี้มิใช่สิ่งแปลกใหม่สำหรับออเดรย์ และส่วนมากมักหมายความว่า อีกฝ่ายมาพบเธอเพื่อเข้ารับการรักษาและปลอบประโลม
“ทั้งสอง” ไคลน์ดึงเก้าอี้ออกมานั่งริมโต๊ะตัวเล็ก
“จะรับกาแฟหรือชาดำดีคะ?” แม้ออเดรย์จะไม่เคยสืบเรื่องของเดอะเวิร์ลมาก่อน แต่เธอเคยพบกับดอน·ดันเตสบ่อยครั้ง เคยเข้าร่วมประชุม รับประทานอาหารค่ำ และงานเลี้ยงเต้นรำด้วยกัน ภายใต้การสังเกตของผู้ชม ข้อมูลจำนวนหนึ่งของไคลน์จึงถูกออเดรย์ล่วงรู้
ยกตัวอย่างเช่น ออเดรย์ทราบว่า หากคนที่ ‘รับบท’ ดอน·ดันเตสในขณะนั้นเป็นเกอร์มัน·สแปร์โรว์ หนุ่มใหญ่รายนี้จะชื่นชอบอาหารรสหวาน มัน และเปรี้ยวเล็กน้อย ชอบดื่มกาแฟใส่น้ำตาลมากกว่านม แต่ถ้าเป็นชาดำจะใส่มะนาวฝานแว่น รวมถึงชอบกินของหวานทุกชนิด โดยจะเน้นไปที่ขนมใส่ครีม ชอบกินฟัวกราส์ หนังไก่ย่าง ชอบสเต๊กริบอายมากกว่าสันนอก และชอบพายเดซีย์มากกว่าขนมปัง
นอกจากนั้น ออเดรย์ยังมั่นใจว่าอีกฝ่ายเป็นผู้รักในเครื่องเทศ มีความต้องการเครื่องปรุงรสสูง จึงถูกปากอาหารแคว้นเดซีย์เป็นพิเศษ
เมื่อคำนึงถึงรายละเอียดข้างต้น ออเดรย์เชื่อว่าในเมื่อมีของหวานวางอยู่เต็มโต๊ะ การไม่เชื้อเชิญมิสเตอร์เวิร์ลมาร่วมรับประทานเกรงว่าจะเป็นการเสียมารยาท และเครื่องดื่มสำหรับกินร่วมกับของหวานย่อมต้องเป็นชาดำหรือไม่ก็กาแฟ
“ชาดำ” ไคลน์ตอบหลังจากครุ่นคิด
การตอบสนองอันสดใส เป็นกันเอง และใจดีของมิสจัสติส ช่วยให้ชายหนุ่มผ่อนคลายความตึงเครียดลงหลายส่วน และยังสัมผัสได้ว่า สภาพเช่นนี้เหมาะแก่การใช้พลัง ‘ปลอบโยน’ ซ้ำเพื่อสร้างผลลัพธ์ทวีคูณ
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น การบำบัดจิตใจไปพร้อมกับการเพลิดเพลินของหวาน ถือเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวทีเดียว
“ขอชาดำอีกถ้วย ใส่มะนาวฝานแว่น” ออเดรย์กล่าวกับสาวใช้แอนนี่
แอนนี่มิได้ประหลาดใจกับคำสั่ง โดยมองว่าทุกสิ่งสมเหตุสมผลดีแล้ว จึงหันหลังและเดินไปยังทางเข้าระเบียง ออกคำสั่งกับคนรับใช้ต่ออีกทอด
ออเดรย์ไม่รีบร้อนบำบัดจิตใจ และไม่ได้ถามว่าเหตุใดมิสเตอร์เวิร์ลถึงมีอารมณ์ซับซ้อน เพียงยิ้มพลางแนะนำผลผลิตพิเศษของคฤหาสน์หลังนี้ ก่อนจะนำไปเปรียบเปรยกับคฤหาสน์เพลงกุหลาบของดอน·ดันเตส และอธิบายถึงสถานการณ์ปัจจุบันของพ่อบ้านกับคนรับใช้อย่างเป็นกันเอง:
บางคนพักอยู่ในคฤหาสน์ สานต่อจากงานเดิม ลำพังผลผลิตของคฤหาสน์เพลงกุหลาบ ก็เพียงพอแล้วที่จะแก้ปัญหาปากท้องของทุกคน แถมยังเหลืออีกจำนวนหนึ่งเพื่อใช้ในการซ่อมแซมอาคารและบริจาคให้องค์กรการกุศล ออเดรย์เพียงส่งนักบัญชี รองพ่อบ้าน และเจ้าหน้าที่กองทุนไปคอยตรวจตราเป็นครั้งคราว บางคนก็รู้สึกว่า การไม่มีนายจ้างจริงๆ ทำให้ตัวเองไม่ขยันทำงาน จนเริ่มละอายใจกับค่าจ้างที่ได้รับ จึงตัดสินใจลาออกและหางานที่อื่นทำแทน บางคนเริ่มสนใจกิจกรรมการกุศลและพบเป้าหมายใหม่ในชีวิต จึงเข้าร่วมหนึ่งในกองทุนที่มีออเดรย์เป็นเจ้าของ
ไคลน์นั่งฟังอย่างเงียบงัน คอยซักถามเป็นระยะ ประหนึ่งกำลังคุยกับเพื่อนสนิท
เมื่อชาดำมาถึง มันยกถ้วยจิบ พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
หลังจากจ้องอีกฝ่ายกินเค้กหน้าครีม ดวงตาสีเขียวของออเดรย์กลอกเล็กน้อยก่อนจะกล่าวพลางยิ้ม
“ดูเหมือนว่า เทวทูตไม่ต้องกินอาหารก็ได้ใช่ไหม?”
“ใช่ ก็แค่งานอดิเรก” ไคลน์ตอบห้วน ก่อนจะเสริม “เพื่อรักษาความเป็นคนเอาไว้”
“รักษาความเป็นคน…” ออเดรย์ทวนคำด้วยสีหน้าครุ่นคิด “นี่คือวิธีสำหรับต่อสู้กับความเป็นเทพในใจ? ถ้าอย่างนั้น ปัญหาทางจิตที่คุณกำลังเผชิญ ก็มีสาเหตุมาจากเรื่องนี้ด้วยใช่ไหม?”
หญิงสาวเกริ่นหัวข้อเพื่อเข้าสู่การบำบัด
ไคลน์พยักหน้า
“ถูกต้อง… คุณเองก็คงเคยลิ้มรสมาแล้ว ผู้วิเศษทุกคนที่ได้รับความเป็นเทพ ย่อมต้องเผชิญกับสิ่งนี้อย่างมิอาจเลี่ยง แตกต่างกันแค่ปริมาณ”
ออเดรย์นึกทบทวนอย่างจริงจัง
“ในบางครั้ง ฉันมักจะฝันถึงแสงสว่างที่ส่องไปทั่วโลก และบางครั้ง ฉันจะได้ยินเสียงที่อธิบายไม่ได้และยากจะเข้าใจ บางครั้งก็เห็นทะเลมายาคลุมเครือ พิสดาร และลวงตา คล้ายกับอัดแน่นไปด้วยความคิดที่ขัดแย้งกันเป็นจำนวนมาก ฉันมั่นใจว่านั่นเป็นภาพมายา แต่มันกลับดูจริงอย่างน่าประหลาด… ฉันยังฝันเห็นไม้กางเขนยักษ์ ได้ยินใครบางคนสวดวิงวอนด้วยเสียงต่ำ แต่มิอาจเข้าใจเนื้อหาไม่ว่าจะตั้งใจฟังเพียงใด”
อย่างที่สองน่าจะเป็นการกัดกร่อนทางอ้อมจาก ‘แก่นแท้แห่งต้นกำเนิด’ ทะเลแห่งความโกลาหลและเจตจำนงที่หลงเหลือ ส่วนอย่างที่สามน่าจะเป็นนักสร้างฝันอาดัมที่เริ่มใช้อิทธิพลกับเส้นทางตัวเอง… อย่างแรกหมายถึง ‘มหาต้นกำเนิด’ ที่ตื่นขึ้นในร่างเทพสุริยันบรรพกาล ‘พระเจ้า’ โบราณ? ไคลน์ครุ่นคิดสักพัก ตามด้วยกล่าวเสียงทุ้ม ไอลีนโนเวล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ