หลังจากเปิดประตูกายปัญญา ไคลน์ยังคงสกัดความทรงจำเกี่ยวกับเดอะฟูลด้วยความระมัดระวัง นำมาผสานรวมกันและ ‘ปลูกถ่าย’ ไปยังเหนือสายหมอกสีเทา
จากนั้น มันเห็นออเดรย์เจ้าของผมสีทองปล่อยธรรมชาติ ผูกตาด้วยผ้าไหมสีขาวซีด ย่างกรายไปตามบันไดหินโบราณซึ่งยื่นออกจากทะเลแห่งจิตใต้สำนึก ทอดยาวไปถึงเกาะแห่งจิตของชายหนุ่ม
หลังจากลังเลสักพัก ไคลน์ตัดสินใจไม่ปล่อยให้จิตใต้สำนึกบางส่วนล่องลอยอยู่เหนือผืนนภาวิญญาณ จึงยกเลิกการควบคุมและส่งพวกมันกลับมารวมกับจิตหลัก
หากไม่ทำเช่นนี้ ในระหว่างกระบวนการบำบัดจิต ชายหนุ่มจะยังหลงเหลือสติสัมปชัญญะโดยสมบูรณ์ จนมิอาจถูกสั่นคลอนอารมณ์จากอิทธิพลของความทรงจำ ส่งผลให้ขั้นตอนเสริมสร้างความเป็นคนประสบความล้มเหลว
กล่าวคือ การรักษาของออเดรย์จะกลายเป็นหมันตั้งแต่ต้น
หลังจากอาศัยสัมผัสวิญญาณของเธอนำทางมายังเกาะแห่งจิตซึ่งคล้ายกับโลกแห่งความฝัน ออเดรย์ชะงักฝีเท้าและกางแขนออกเล็กน้อย
หญิงสาวหวนนึกถึงความรักที่พ่อแม่มอบให้ ความตื่นเต้นเมื่อได้เป็นผู้วิเศษครั้งแรก และความสุขในยามได้ช่วยเหลือผู้อื่น เพื่อปรับเปลี่ยนอารมณ์ของตัวเองและส่งต่อความผันผวนให้อีกฝ่าย
นี่คือเทคนิคการปลุกความทรงจำที่ออเดรย์เตรียมใช้กับเกอร์มัน·สแปร์โรว์ เป็นพลังพิเศษที่ชื่อว่า ‘หัวอกเดียวกัน’
ฉากที่ควรค่าแก่การหวงแหนหรือเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ ทยอยผุดขึ้นภายในจิตใต้สำนึกของออเดรย์ทีละหนึ่ง ขณะเดียวกัน ใต้ฝ่าเท้าหญิงสาว บนพื้นผิวเกาะซึ่งเป็นตัวแทนความคิดของไคลน์ มีจุดแสงขนาดเล็กคล้ายหิ่งห้อยลอยทะลุขึ้นมาจาก ‘ดิน’
ทุกจุดแสดงฉากที่แตกต่างกัน:
“เด็กขาสั้นคนหนึ่งกำลังวิ่งไปรับไอศกรีม” ;
“นักเรียนคนหนึ่งกำลังแอบอ่านนิยายและการ์ตูนโดยใช้หนังสือเรียนบังหน้า” ;
“วัยรุ่นคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่หน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์ที่บ้าน เล่นเกมด้วยสมาธิจดจ่อ แต่ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงกุญแจบ้านถูกสอดเข้ามาในรูและหมุนบิดอย่างนุ่มนวล จึงรีบลุกพรวดจากเก้าอี้ ชักปลั๊กคอมพิวเตอร์และวิ่งกลับห้อง หลังจากนั้น เมื่อพบว่าพฤติกรรมของตนไม่ถูกล่วงรู้ วัยรุ่นคนดังกล่าวดีใจกระโดดโลดเต้น ก่อนจะเดินไปที่ห้องนั่งเล่นเพื่อขอค่าขนมจากแม่ เดินไปหาพ่อและถามการบ้านบางข้อ” ;
“ชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งรวมกลุ่มอยู่กับเพื่อน ถูกรุมผลักออกไปยังทางเดิน เกือบชนกับคนที่ตัวเองแอบชอบ จากหันก็หันหลังกลับมาหัวเราะกับเพื่อนเสียงดัง” ;
“ชายคนหนึ่งซึ่งยังดูหน้าเด็ก มองลงมายังชั้นล่างและเฝ้ามองร่างหนึ่งเดินจากไป แต่มันมิอาจกล่าวคำใด” ;
“พนักงานคนหนึ่งซึ่งมีพุงยื่นเล็กน้อย กลับมายังบ้านพ่อแม่เมื่อถึงกำหนดวันหยุดพักร้อน มันโบกไม้โบกมือด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย บอกพ่อกับแม่ว่าไม่ต้องหาข้าวให้กิน และไม่ต้องหาสาวมานัดบอดอีก แต่เมื่อจิตใจสงบลง มันจ้องมองพ่อแม่ที่เริ่มมีผมสีขาวแซมด้วยท่าทีรู้สึกผิด” ;
“ชายหนุ่มมาดนักวิชาการคนหนึ่ง หลังจากย้ายเข้าบ้านหลังใหม่พร้อมกับพี่ชายและน้องสาว มันมองไปยังรอยยิ้มเปื้อนฝุ่นบนใบหน้ากันและกันพลางหัวเราะเยาะชอบใจ” ;
“…”
ไคลน์ซึ่งนั่งอยู่ริมโต๊ะกลมตัวเล็กบนระเบียง มือข้างหนึ่งถือหมวกทรงกึ่งสูง อีกข้างยกค้างกลางอากาศ ประหนึ่งต้องการปกปิดใบหน้าตัวเอง
หยดน้ำสีใสสองหยด บรรจงไหลผ่านข้างดั้งจมูกทั้งสองฝั่ง ก่อนจะตกลงสู่ความว่างเปล่า
ไคลน์หลับตาลง สีหน้าเผยความอ่อนโยนและซาบซึ้ง
ในเกาะแห่งจิตของชายหนุ่ม ออเดรย์ซึ่งดูคล้ายกับวังวนแห่งห้วงอารมณ์ ทยอยดึงความทรงจำแบบเดียวกันออกมาอย่างต่อเนื่อง
หลังจากทั่วทั้งเกาะเต็มไปด้วยจุดแสงคล้ายหิ่งห้อย หมอกสีเทาอ่อนแผ่ปกคลุมบรรยากาศอย่างเจือจาง
ท่ามกลางสายหมอก บานประตูแห่งแสงที่ฉาบด้วยสีน้ำเงินเข้มปรากฏขึ้น ลักษณะคล้ายกับก่อตัวจากก้อนแสงทรงกลมจำนวนมาก
แกนหลักของในทุกก้อนแสงทรงกลมจะประกอบไปด้วย หนอนแมลงโปร่งใส่ หนอนแมลงตัวปล้อง และหนอนแมลงแสงดาว พวกมันกอดรัดกันแนบแน่น ดูคล้ายกับสัตว์ในตำนานประเภทหนึ่ง
บานประตูดังกล่าวดูแปลกประหลาดในตอนต้น แต่ถ้าตั้งใจมองจะพบว่า สภาพแวดล้อมโดยรอบค่อนข้างมืด คล้ายกับกำลังถูกคลุมด้วยชุดคลุมสีดำแบบมีผ้าคลุมศีรษะ
ดังนั้น ภาพรวมจึงดูเหมือนกับตัวตนลึกลับที่กำลังซ่อนอยู่ใต้ชุดคลุม
วินาทีถัดมา หนวดรยางค์มายาผิวลื่น โผล่ออกจากใต้ชุดคลุมสีดำของ ‘ตัวตนลึกลับ’
ทันใดนั้นเอง แม้จิตใต้สำนึกของออเดรย์จะไม่เห็นหรือได้ยินสิ่งใด แต่สัมผัสวิญญาณของเธอกำลังร้องเตือนถึงอันตราย เกิดเป็นนิมิตว่า ทะเลแห่งการกัดกร่อนกำลังจะท่วมท้นตัวเธอ
ไม่… นี่ไม่ใช่ภาพมายา! หญิงสาวเชื่อว่า หากตนปล่อยให้ทุกสิ่งดำเนินต่อไป เธอต้องเผชิญอาการทางจิตขั้นรุนแรง อาจเลวร้ายถึงขั้นคลุ้มคลั่งคาที่ กลายเป็นคนเสียสติโดยสมบูรณ์!
ขณะออเดรย์เตรียม ‘ปลอบโยน’ ตัวเองเพื่อลดการกัดกร่อนตรงหน้า จุดแสงคล้ายหิ่งห้อยที่ล่องลอยอยู่บนเกาะ เริ่มหลั่งไหลมารวมตัวกันด้วยความเร็วสูง เกิดเป็นแสงสว่างเจิดจ้าท่ามกลางสายหมอกสีเทา สลายความมืดรอบบานประตูแห่งแสงไปหลายส่วน ส่งผลให้หนวดรยางค์ซึ่งเต็มไปด้วยลวดลายลึกลับรีบหดตัวกลับ
นี่คือเหตุผลว่าทำไม ไคลน์ถึงต้องรอให้จิตใจฟื้นคืนเสถียรภาพเบื้องต้น และกำราบเจตจำนงของราชันสวรรค์ฟ้าดินให้ได้ในระดับหนึ่งเสียก่อน จึงค่อยเข้ารับการบำบัดจิตจากหญิงสาว
เหตุการณ์เมื่อครู่ทำให้ออเดรย์สัมผัสได้ว่า อันตรายตรงหน้าเจือจางลงไปหลายส่วน จึงรีบทำการวิเคราะห์ภาพจิตใจตัวเองทันที ก่อนจะใช้พลัง ‘ปลอบโยน’ ใส่การกัดกร่อน และลงมือ ‘สะกดจิต’ อีกฝ่ายอย่างแท้จริง
ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เวลาผ่านไปนานแค่ไหน แม้แต่ออเดรย์ก็มิอาจทราบได้ จนกระทั่งเธอบรรลุผลสำเร็จเบื้องต้นตามที่คาดหวัง
หญิงสาวออกจากเกาะแห่งจิตของเกอร์มัน·สแปร์โรว์ กลับสู่ร่างต้นของตัวเอง
นี่เป็นการรักษาที่ยากมาก ออเดรย์จึงไม่ได้กระทำผ่านบุคลิกเสมือน แต่ไปเยือนด้วยกายปัญญาของเธอโดยตรง
เมื่อตระหนักว่าการรักษาสิ้นสุดลง ไคลน์ยกมือขึ้นลูบหน้า ดึงความทรงจำของเดอะฟูลซึ่งเคยปลูกถ่ายไว้เหนือมิติหมอก กลับคืนสู่ร่างกาย
ไม่กี่วินาทีถัดมา ออเดรย์ถอดผ้าพันคอผ้าไหมออกจากรอบดวงตา ปลดปล่อยตัวเองจากภาวะสะกดจิต
หญิงสาวจ้องมิสเตอร์เวิร์ลฝั่งตรงข้าม กล่าวกับตัวเองกึ่งถอนหายใจ
“นี่คืออาการทางจิตที่เกิดจากความเป็นเทพ?”
น่ากลัวมาก…
ไคลน์พยักหน้าแผ่วเบา
“ถูกต้อง นี่เป็นสิ่งเทวทูตทุกตนต้องประสบ ความแตกต่างก็คือ บางคนเผชิญในปริมาณมาก และบางคนต้องเผชิญในปริมาณมหาศาล”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ