ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ นิยาย บท 413

สรุปบท 413: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ

อ่านสรุป 413 จาก ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ โดย Internet

บทที่ 413 คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายInternet ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 413 : กลุ่มผู้มาเยือน
ราชันเร้นลับ 413 : กลุ่มผู้มาเยือน
โดย
Ink Stone_Fantasy
ณ สถานีตำรวจไรซ์ ขอบเขตการดูแลครอบคลุมถนนมินส์และบริเวณโดยรอบ

ไคลน์ยืนจับมือกับเจ้าพนักงาน ผู้เดินออกมาส่งตนถึงหน้าประตู

“จดหมายขู่ฉบับนี้ต้องเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมต่อเนื่องก่อนหน้านี้แน่นอนครับ! เนื่องจากแกนนำผู้รวบรวมกลุ่มนักสืบหัวกะทิเข้าด้วยกันอย่างยอดนักสืบไอเซนการ์ด ได้ถูกคนร้ายบุกจู่โจมไปก่อนหน้านี้แล้ว! ได้โปรดจริงจังกับเรื่องนี้ด้วยนะครับ”

ตำรวจคนเดิมยังไม่ชักมือกลับ เพียงยิ้ม

“ไม่ต้องกังวล นักสืบโมเรียตี้ พวกเราไม่เพิกเฉยคำแนะนำของคุณแน่นอน และจะรีบรายงานให้เบื้องบนทราบทันที”

“ขอบคุณมากครับ” ไคลน์สวมหมวกพร้อมกับเดินออกจากสถานีตำรวจ

หลังจากได้รับจดหมายขู่สองฉบับจากผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นเจ้านายสุนัขปีศาจ ไคลน์รีบถ่อมายังสถานีตำรวจไรซ์เพื่อแจ้งความโดยไม่รีรอ ภายในใจหวังให้คดีถูกส่งต่อไปถึงจิตแห่งจักรกลหรือทูตพิพากษาโดยเร็ว หน่วยพิเศษจะได้ส่งคนมาคุ้มกันทันเวลา

ว่ากันตามตรง ไคลน์ไม่มีความจำเป็นต้องยึดติดกับตัวตน ‘นักสืบเชอร์ล็อก’ มากนัก สามารถเผ่นหนีไปให้ไกลในตอนกลางคืน และหาเช่าบ้านหลังอื่นในกรุงเบ็คลันด์ด้วยตัวตนใหม่ได้ไม่ยาก

แต่เมื่อลองไตร่ตรองให้ดี ชายหนุ่มคิดว่านั่นอาจเป็นจุดประสงค์ของผู้ส่งจดหมายข่มขู่แต่แรก

ตามหลักทั่วไป ผู้วิเศษนอกกฎหมายมักหวาดกลัวและไม่กล้าแจ้งตำรวจหรือกองทัพโดยตรง ทางเลือกยอดนิยมจึงเป็นการเผ่นหนีในยามวิกาล และนั่นจะกลายเป็นโอกาสเหมาะเจาะสำหรับการซุ่มโจมตี

อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายก็มีโอกาสจู่โจมเราระหว่างการเดินทางไปกลับสถานีไรซ์และอาคาร 15 ถนนมินส์อยู่ดี… แปลว่ามันน่าจะมีจุดประสงค์อื่นมากกว่า… ตัดทิ้ง…

ไคลน์ ผู้กำลังสับสนและหวาดระแวง ตัดสินใจเดินทางกลับอาคาร 15 ถนนมินส์

ขณะย่างกรายลงจากรถม้า ด้วยแสงสว่างจากเสาตะเกียงท่ามกลางสายฝนโปรยปราย ชายหนุ่มมองเห็นบุคคลผู้หนึ่งกำลังยืนทำตัวลับล่อหน้าบ้านตน

หัวใจไคลน์พลันหยุดเต้น แต่ก็ผ่อนคลายลงเมื่อจดจำใบหน้าของผู้มาเยือนได้

อีกฝ่ายไม่ใช่ใครนอกจากสจ๊วต นักสืบหนุ่มเจ้าของส่วนสูงปานกลาง รูปร่างผอมเพรียว

อย่าเพิ่งวางใจจะดีกว่า… เส้นทางปีศาจอาจมีพลังคล้ายกับผู้ไร้หน้า…

ไคลน์เดินเข้าไปใกล้พร้อมกับกำไม้ค้ำในมือซ้ายแน่น จึงค่อยตะโกนเรียกหยั่งเชิง

นักสืบสจ๊วตรีบหันขวับกลับมา และซักถามด้วยสีหน้าแววตาตื่นตระหนกไม่ปิดบัง

“มิสเตอร์โมเรียตี้! ผมได้รับจดหมายขู่ เนื้อหาด้านในเขียนว่า พวกแกทุกคนต้องตาย!”

“คุณก็ด้วยหรือ?” ไคลน์ขมวดคิ้วฉงน แต่ภายในใจก็พอจะเดาออก

สจ๊วตคือหนึ่งในกลุ่มนักสืบ ผู้เคยถูกไอเซนการ์ด·สแตนธอนเรียกประชุม เพื่อช่วยสืบคดีฆาตกรรมต่อเนื่องสะเทือนขวัญในอดีต

ดวงตาสจ๊วตพลันเบิกโพลง

“คุณก็ได้รับด้วยหรือ”

“ใช่” ไคลน์พยักหน้ารับเคร่งขรึม

แถมยังมากกว่าหนึ่งฉบับ… มันรำพัน

“แล้วผมควรทำอย่างไรดี? ผมแวะเข้าไปหามิสเตอร์สแตนธอนมาก่อนแล้ว แต่เมื่อทราบว่าเขาถูกคนร้ายบุกโจมตี จึงรีบตรงมาหาคุณทันที… ขอบคุณพระองค์! ขอบคุณสำหรับคำอวยพร! ผมเกือบจะกลับไปแล้ว!”

สจ๊วตเล่าเรื่องราวอย่างตื่นตระหนก

ไคลน์ชี้ไปทางประตูบ้าน

“เข้าไปคุยข้างในกันเถอะ”

หลังจากเดินเข้าห้องนั่งเล่น ไคลน์หาข้ออ้างเข้าห้องน้ำพร้อมกับส่งตัวเองเข้าสู่ห้วงมิติเหนือสายหมอกเทา เพื่อทำนายให้หายคาใจในสองเรื่อง ประกอบด้วย ข้อแรก มันต้องยืนยันให้ได้ว่า อีกฝ่ายคือสจ๊วตตัวจริง และข้อสอง ในค่ำคืนนี้จะมีอันตรายเกิดขึ้นหรือไม่

ผลลัพธ์ระบุว่า ‘ใช่’ ทั้งสองคำถาม

หรืออีกนัยหนึ่ง สจ๊วตมิใช่ศัตรูปลอมตัวมา และค่ำคืนนี้จะมีอันตรายบางอย่างเกิดขึ้น!

แน่นอน อันตรายดังกล่าวอาจไม่ได้เกิดขึ้นกับไคลน์โดยตรง แต่เป็นเคราะห์ร้ายของนักสืบเอกชนสักคน ผู้ถูกเจ้านายของสุนัขปีศาจเชือดทิ้งอย่างเงียบเชียบ

นี่คือข้อจำกัดของพลังทำนาย ผลลัพธ์จะออกมาในลักษณะคลุมเครือตามประโยคทำนาย ไม่ใช่การถามตอบเพื่อเค้นความจริง ไม่มีทางมองเห็นอนาคตล่วงหน้าอย่างแจ่มชัด

ไม่เพียงเท่านั้น ศาสตร์เร้นลับยังมีข้อจำกัดในการใช้พลัง แถมยังสิ้นเปลืองพลังวิญญาณมหาศาล ไม่สามารถใช้เทคนิคการถามแบบ ‘ใช่หรือไม่’ ไปเรื่อยๆ จนครบทุกข้อสงสัยได้

เมื่อกลับสู่โลกความจริง ไคลน์กดปุ่มกลไกชักโครกเพื่อสร้างกระแสน้ำชะล้าง ก่อนจะรีบล้างมือและเปิดประตูออกไป

“สจ๊วต กาแฟหรือชาดำ” มันซักถามสุขุม

สจ๊วตลุกพรวดและรีบส่ายหน้า

“ไม่! พวกเราควรกังวลกับปัญหาตรงหน้าเป็นอันดับแรก! จริงอยู่ ผมเคยได้รับจดหมายขู่เป็นจำนวนมาก แต่ไม่มีฉบับใดเทียบได้กับจดหมายขู่คราวนี้แน่นอน! เจ้าบ้านั่นบรรจงใช้เลือดสดของมนุษย์เขียนทีละคำ! สัญชาตญาณของผมเตือนว่า มันเป็นคนพูดจริงทำจริง และมีพลังพอจะทำเรื่องแบบนั้นได้! ไม่ผิดแน่ มิสเตอร์แสตนธอนต้องถูกคนร้ายคนเดียวกับพวกเราโจมตี!”

“ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน” ไคลน์กล่าวเสียงเรียบพลางทิ้งตัวนั่ง “คนร้ายคงมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมต่อเนื่องซึ่งถูกพวกเราสะสางไป เป็นเหตุผลให้มันรู้สึกโกรธแค้นมิสเตอร์สแตนธอน ผม และคุณ”

หืม… สจ๊วตตื่นตระหนกจนผิดธรรมชาติ… เป็นเพราะได้ยินว่ามิสเตอร์สแตนธอนถูกลอบทำร้าย?

ไคลน์สังเกตท่าทีสจ๊วตอย่างระมัดระวัง

สจ๊วตเริ่มสงบสติ มันนั่งลงและกล่าวหลังจากก้มหน้าตรึกตรองเป็นเวลานาน

“ก็คงจะเป็นเช่นนั้น…”

ยังไม่ทันได้กล่าวจบประโยค สุ้มเสียงแหลมกังวานพลันดังระงมไปทั่วบ้าน

ใครบางคนดึงกริ่งหน้าประตู

สจ๊วตพลันสะดุ้งอย่างตื่นกลัว ประหนึ่งนกน้อยสติกระเจิงหลังจากได้ยินเสียงปืน

ไคลน์ขมวดคิ้ว สายตาเหลือบมองไปทางประตูเล็กน้อย ตามด้วยการลุกเดินไปตรวจสอบด้วยตัวเอง

ในวินาทีฝ่ามือสัมผัสลูกบิด นิมิตลางสังหรณ์พลันปรากฏขึ้นในสมอง

ผู้มาเยือนคราวนี้คือนักสืบคาสลาน่า เธอสวมเสื้อขนสัตว์สีเทาอ่อน และลิเดีย ผู้ช่วยสาวผมแดง รวมถึงกลุ่มนักสืบหนุ่มสาวอีกหลายคนด้านหลัง ทุกคนล้วนมีใบหน้าคุ้นเคย

ทั้งหมดคือกลุ่มนักสืบเอกชน ผู้เคยถูกยอดนักสืบสแตนธอน เรียกประชุมเพื่อไขคดีฆาตกรรมต่อเนื่องสะเทือนขวัญ

ไม่ผิดจากความคาดหมายสักเท่าไร…

เกิดปฏิบัติการร่วม? นั่นคงไม่ราบรื่นแน่…

ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน คงมีสมาชิกหน่วยพิเศษเพียงไม่กี่คนคอยจับตามองและอารักขาพวกเรา อย่างมากก็คงเป็นระดับอาวุโสทั่วไป และมิได้พกพาสมบัติปิดผนึกทรงพลังติดตัวมาด้วย…

ลืมเรื่องครึ่งเทพไปได้เลย ข่าวคราวอาจยังไปไม่ถึงหูพวกมันด้วยซ้ำ…

สำหรับเจ้านายสุนัขปีศาจ ไม่มีโอกาสใดเหมาะแก่การสังหารหมู่ไปมากกว่านี้…

จริงอยู่ หน่วยพิเศษหลายทีมอาจมีพลังเพียงพอจะเอาชนะผู้วิเศษลำดับ 5 หนึ่งคนได้ แต่เงื่อนไขก็คือ ต้องอยู่ภายใต้สถานการณ์เอื้ออำนวยเท่านั้น และด้วยคุณลักษณะพิเศษของเส้นทางปีศาจ อีกฝ่ายสามารถตระหนักถึงอันตรายล่วงหน้าและหลบหนีได้ไม่ยากเย็น…

ภายในเวลาไม่กี่สิบวินาที ไคลน์สร้างสมมติฐานได้มากมายในหัว และเตรียมเล่าความคิดเห็นให้ทุกคนฟัง

ขณะเดียวกัน มันยังไม่ลืมผลการทำนายบนมิติสายหมอกเมื่อครู่ ซึ่งระบุชัดเจนว่าค่ำคืนนี้จะมีอันตรายบางอย่างเกิดขึ้น ชายหนุ่มจึงตื่นตัวเป็นพิเศษ หลังจากปิดประตูหน้าบ้านและเดินตามเข้าไป ไคลน์กล่าวกับกลุ่มนักสืบ ผู้นั่งบ้างยืนบ้าง ด้วยเสียงกังวาน

“พวกคุณแจ้งตำรวจหรือยัง”

จากบรรดานักสืบซึ่งมิสเตอร์สแตนธอนเคยรวบรวมเพื่อไขคดี ราวครึ่งหนึ่งกำลังกระจุกตัวอยู่ในบ้านเรา… ไคลน์สำรวจพลางพึมพำ

ตัวแทนของทุกคน คาสลาน่า หันมาตอบ

“บางคนแจ้งตำรวจแล้ว ส่วนอีกหลายคนรีบติดต่อมิสเตอร์สแตนธอน แต่เมื่อติดต่อไม่ได้จึงหันมาติดต่อกันเอง หลังจากนั้น ทุกคนได้ข้อสรุปว่าควรมาพบคุณ คุณยอดนักสืบ”

ไคลน์พยักหน้ารับ และพยายามกล่าวให้กำลังใจทุกคน

“พวกคุณไม่ต้องกังวลไป ถึงคนร้ายจะเป็นพวกพ้องของฆาตกรต่อเนื่อง แต่มันก็มีแค่คนเดียวเท่านั้น หรืออย่างมากก็ไม่เกินสาม แต่นักสืบเอกชนอย่างพวกเราล้วนเชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้และยิงปืนได้แม่นยำ ไม่มีความจำเป็นต้องกลัวมัน! ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีเหยื่อของคนร้ายนอกเหนือจากพวกเราอยู่อีก นั่นคือกลุ่มนักสืบคนอื่นๆ ซึ่งเคยถูกมิสเตอร์สแตนธอนรวบรวมให้ช่วยสืบคดี ถึงพวกเขาจะไม่ได้ติดต่อมาหาคุณหรือผม แต่ก็คงอยู่ฝ่ายเราไม่ผิดแน่”

เมื่อสิ้นเสียงไคลน์ คาสลาน่าและผู้ช่วยของเธอ ลิเดีย พลันแสดงสีหน้าอึมครึมราวกับตรวจพบความผิดปรกติบางอย่าง

นักสืบคนอื่นๆ เริ่มสูดลมหายใจยาว

“มิสเตอร์โมเรียตี้ จริงอยู่ คุณอาจจะกล่าวได้ถูกต้อง พวกเราไม่จำเป็นต้องกลัว… แต่อีกฝ่ายคืออสรพิษผู้คอยดักซุ่มในความมืด! ไม่มีใครทราบว่ามันจะลงมือตอนไหน และเป้าหมายเป็นใคร บางที มันอาจกำลังเล็งโจมตีครอบครัวพวกเราอยู่ก็ได้!”

“ครอบครัว…?”

“ไม่นะ! ภรรยาของผม!”

“โธ่! นางฟ้าตัวน้อยของพ่อ!”

คล้ายกับห้วงอารมณ์กำลังครอบงำเหนือความคิด นักสืบแต่ละคนเริ่มแสดงท่าทีตื่นตระหนกและออกอาการเกินจริง

สจ๊วตเริ่มยืนสั่นเทาราวกับกำลังโกรธแค้นใครบางคน

“ไม่ มันต้องไม่ใช่แบบนี้…” นักสืบหนุ่มพึมพำอย่างเหม่อลอยราวกับสติหลุด

ทันใดนั้น สจ๊วตพลันชักปืนออกมาและเล็งไปยังท้ายทอยไคลน์!

ดวงตาถมึงทึงอย่างโกรธแค้น คล้ายกับถูกอารมณ์ครอบงำอย่างท่วมท้นจนสลัดไม่หลุด

……………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ