ปัง!
สจ๊วตลงมือเหนี่ยวไกอย่างไม่ได้สติ กระสุนพุ่งถากข้างแก้มไคลน์เล็กน้อยและไปกระทบกับกำแพงบ้าน
พร้อมกันกับนักสืบทุกคนต่างหยิบปืนพกของตัวเองออกมาถือด้วยสีหน้าตึงเครียดสุดขีด ประหนึ่งทุกคนรอบตัวเป็นศัตรู
สถานการณ์ปัจจุบันกำลังเข้าขั้นวิกฤติ
จากบรรดาทุกคน สจ๊วตและนักสืบอีกสองสามคนกำลังมีใบหน้าแดงก่ำ ดวงตาถลึงอย่างโกรธแค้น เส้นเลือดตามใบหน้าและหลังมือปูดโปนเด่นชัด ภาษากายคล้ายกำลังหวาดกลัวและโกรธจัด ราวกับอุปนิสัยแปรเปลี่ยนเป็นปีศาจอย่างสมบูรณ์
ทันใดนั้น คาสลาน่าคำราม :
“หยุด!”
ระดับความดังอาจไม่มาก แต่แฝงด้วยพลังอำนาจอย่างเต็มเปี่ยม ส่งผลให้ร่างกายเหล่านักสืบสั่นกระตุกแผ่วเบา ก่อนทุกคนจะยอมปฏิบัติตามถ้อยคำดังกล่าวแต่โดยดี
แม้จะคืนความสงบได้หลายวินาที แต่สถานการณ์กลับยังไม่ดีขึ้น ไคลน์กลิ้งตัวไปถึงอีกฝั่งพร้อมกับลุกยืนพลางกำปืนในมือแน่น
สมองชายหนุ่มกำลังเร่งประมวลผลโดยไม่ปิดกั้นขีดจำกัด ใจหนึ่งเตรียมใช้เวทมนตร์ภาพลวงตาเพื่อสงบสติอารมณ์ของทุกคนในบ้านไว้ก่อน
แต่ทันใดนั้น กริ่งบ้านพลันกังวาน
กริ๊ง! กริ๊ง!
กลุ่มนักสืบต่างสะดุ้งเฮือก แต่สีหน้าแววตาเริ่มเผยความกระจ่างและคมชัด
เสียงกริ่งบ้านเป็นราวกับถังบรรจุน้ำเย็น ถูกราดลงมาเพื่อให้จิตใจทุกคนสงบลง
สจ๊วตก้มมองลูกโม่ในมือพร้อมกับขยับปากพึมพำเสียงเบา
“ผ…ผมทำอะไรลงไป…”
หน่วยพิเศษของทางการเริ่มลงมือแล้ว?
ไคลน์ถอนหายใจยาวขณะเดินตรงไปยังประตูหน้าด้วยลูกโม่ในมือซ้าย
ปลายนิ้วสัมผัสลูกบิด นิมิตผู้มาเยือนผุดขึ้นในสมอง
ชายสูงวัยในเสื้อโค้ทตัวใหญ่สีดำ สวมหมวกนายพราน ใบหน้าเรียว จอนตรงขมับมีสีเทาแซมเล็กน้อย ไอเซนการ์ด·สแตนธอน
สีหน้าค่อนข้างหมองและซีด แขนซ้ายเลื่อนขึ้นมาจับไหล่ขวา
เขาปลอดภัย…!
ไคลน์โล่งใจในตอนแรก แต่จากนั้นก็กลับมาหวาดระแวงตามเดิม เนื่องจากยังไม่ลืมภาพเหตุการณ์ในคืน ‘ผู้ไร้หน้า’ โรซาโก้ แวะเข้ามาเยี่ยมบ้านของตนโดยการปลอมตัวเป็นนายตำรวจ
นิ้วมือซ้ายถูกสอดเข้าโกร่งปืน มือขวาหมุนลูกบิดพร้อมกับขยับถอยหลังสองก้าว
ไอเซนการ์ด·สแตนธอนส่งยิ้มและพยักหน้า
“ขอบคุณมาก เชอร์ล็อก สำหรับการแวะมาเยือนในช่วงบ่าย ไม่อย่างนั้น ผมคงหมดแรงเล่นไล่จับกับเจ้าปีศาจนั่นไปแล้ว คุณคือผู้มีพระคุณช่วยชีวิต”
หรือว่า… นี่จะเป็นความหมายแท้จริงของผลการทำนายถึง ‘ช่วงเวลาเหมาะสม’ ในการไปเยือนบ้านไอเซนการ์ด?
การไปเยือนของเราทำให้เขารอดชีวิต…
ถ้าอย่างนั้น ช่วงเวลาเหมาะสมใน ‘วันอื่น’ จะหมายถึงสิ่งใด? หรือถ้าเราไม่เข้าไปป้วนเปี้ยนในจุดเกิดเหตุ ก็จะไม่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยของคดี?
ไคลน์หัวเราะไม่ได้ร่ำไห้ไม่ออก
ขณะเปิดทางให้อีกฝ่ายเดินเข้ามา ชายหนุ่มยังคงไม่ลดระดับการป้องกัน
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่”
“ไว้ค่อยคุย” ไอเซนการ์ดยิ้มรับพร้อมกับหรี่เสียงให้เบาลง “คุณคงไม่อยากให้ผมพูดเรื่องผู้วิเศษต่อหน้าสจ๊วตกับคนอื่นใช่ไหม”
แล้วทำไมถึงกล้าพูดกับผม?
นั่นสินะ การคุมเชิงระหว่างเราและปีศาจตนนั้นนานกว่าสิบนาทีคงถือเป็นข้อพิสูจน์ได้ชัดเจน… แถมเรายังเป็นคนเสนอแนะว่า ฆาตกรต่อเนื่องในคดีก่อนอาจเป็นสัตว์มากกว่ามนุษย์…
ไคลน์เดินตามหลังไอเซนการ์ดราวสองก้าว
เมื่อเห็นว่ายอดนักสืบยังมีชีวิต คาสลาน่าและผู้ช่วยของเธอ ลิเดีย พลันแสดงสีหน้าโล่งใจโดยไม่ปิดบัง ด้านนักสืบคนอื่นก็มีภาษากายไม่ต่างกันมากนัก
“มิสเตอร์สแตนธอน คุณปลอดภัยดีใช่ไหม?” นักสืบคนหนึ่งซักถาม
ไอเซนการ์ดขยับแขนซ้ายเล็กน้อย
“บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ไม่เป็นอันตราย เอาล่ะ ทุกคน อย่าได้ตื่นตระหนก เรื่องเหลวไหลในคราวนี้กำลังจะจบลง ทางตำรวจได้วางกำลังดักซุ่มตามเงามืดรอบบ้านไว้แล้ว”
“เป็นเพราะคดีฆาตกรรมต่อเนื่องใช่ไหม?”
“คุณระบุตัวผู้ต้องสงสัยได้หรือยัง?”
“มันจะทำร้ายคนบริสุทธิ์ไหม?”
…
คำถามมากมายถาโถมเข้าใส่ไอเซนการ์ดอย่างไม่หยุดพัก ยอดนักสืบสูงวัยรีบกดมือขวาลงเป็นเชิงให้เพลาคำถาม
“ทุกคนไม่ต้องกังวล ผมจะเล่ารายละเอียดให้ฟังหลังจากนี้แน่ แต่ก่อนอื่น ผมขอปรึกษาบางเรื่องกับเชอร์ล็อกและคาสลาน่าก่อน”
ความสง่างามและน่าเชื่อถือของสุภาพบุรุษวัยกลางคนส่งผลให้เหล่านักสืบยอมเชื่อฟัง
ถึงแม้จะยังกังวลอยู่บ้าง แต่ก็ไม่สติแตกหรือถูกอารมณ์ครอบงำเหมือนในตอนแรก
หลังจากเดินเข้าไปในห้องกิจกรรมและปิดประตูไม้ด้านหลัง ไคลน์กวาดสายตามองรอบห้องหนึ่งครั้งและเริ่มเกิดความคิดอุตริ
สภาพแวดล้อมเหมาะแก่การใช้ขวดพิษชีวภาพมาก!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ