“ผมทราบมาว่า ปีศาจมีพลังในการหยั่งรู้ถึงอันตรายล่วงหน้า สามารถบอกได้แม้กระทั่งแหล่งกำเนิดอันตราย ส่งผลให้มันเตรียมแผนรับมือได้ทันเวลา ฉะนั้น การวางกับดักเพื่อจัดการมันคงไม่ใช่เรื่องงาน”
ไอเซนการ์ดพยักหน้ารับ
“คุณเข้าใจถูกต้อง แต่ใช่ว่าจะไม่มีวิธีจัดการเสียทีเดียว”
“วิธีไหน?” คาสลาน่ารีบถาม
ไอเซนการ์ดยิ้ม
“ผมเคยดวลกับมันตัวต่อตัวและได้เห็นพลังหยั่งรู้อันตรายมาแล้ว จึงพอจะทราบถึงจุดอ่อนและจุดแข็งของพลังดังกล่าว เส้นทางปีศาจสามารถตระหนักถึงอันตรายล่วงหน้าได้ระยะเวลาหนึ่ง หากมีใครวางแผนเตรียมลงมือทำร้ายมัน ปีศาจจะสัมผัสได้ทันทีว่ามีอันตรายคืบคลานเข้าหา แน่นอน ต้องเป็นอันตรายในระดับสามารถทำให้มันบาดเจ็บได้ พลังหยั่งรู้จึงจะแสดงผล”
ผิดแล้วสหาย ความจริงก็คือ ปีศาจแต่ละชนิดสามารถหยั่งรู้อันตรายได้ไม่เท่ากัน บางประเภทจะได้ทราบก่อนภัยมาถึงตัวเพียงสิบห้าถึงยี่สิบนาทีเท่านั้น…
ไคลน์โต้แย้งในใจ มิได้กล่าวออกไป
ไอเซนการ์ดเล่าต่อ
“จุดอ่อนของพลังดังกล่าวก็คือ ปีศาจจะทราบเพียงตำแหน่งและตัวตนของผู้สร้างอันตราย ไม่มากไปกว่านี้ พวกเราจึงสามารถนำช่องโหว่มาใช้ดัดหลังมันได้”
“ช่องโหว่? เมื่ออยู่ต่อหน้าพลังหยั่งรู้อันตราย กับดักก็ไม่น่าจะได้ผลไม่ใช่หรือ”
คาสลาน่าถามอย่างไม่เข้าใจ
ไคลน์เองก็พยักหน้าเห็นพ้อง
จริงอยู่ เราสามารถใช้พลังของห้วงมิติเหนือสายหมอกในการผนึกลางสังหรณ์ศัตรู แต่ปัญหาคือ เราคงเปิดเผยพลังของมิติเหนือสายหมอกเทาให้พวกเขารับรู้ไม่ได้…
ไคลน์เสริมในใจ · ไอเซนการ์ดหัวเราะ
“ในทางทฤษฎีละก็ใช่ แต่โลกของผู้วิเศษเต็มไปด้วยความพิศวงมากมาย ตัวผมคือลำดับ 7 ผู้พิทักษ์ความรู้ หรือมีฉายาว่า ‘นักสืบ’ ผมยอมเปิดเผยพลังตัวเองเพราะต้องการแสดงให้เห็นความจริงใจ ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน ไม่มีสิ่งใดสำคัญไปกว่าความไว้เนื้อเชื่อใจอีกแล้ว”
แค่ลำดับ 7 เนี่ยนะ? แล้วลำดับ 7 เอาชีวิตรอดจากลำดับ 5 ผู้ปลดปล่อยความกระหายได้อย่างไร? ไม่ผิดแน่ มิสเตอร์สแตนธอนคงครอบครองสมบัติวิเศษทรงพลังสักชิ้น…
เมื่อกระจ่าง ไคลน์สลับท่านั่ง
“ผู้พิทักษ์ความรู้มีพลังในการสยบสัญชาตญาณของปีศาจหรือ” คาสลาน่าเอนตัวมาด้านหน้าและซักถามอย่างสนใจ
“เปล่า” ไอเซนการ์ดยิ้มมุมปาก “แต่ผมมีแหวนพิเศษ ถือกำเนิดจากการคลุ้มคลั่งของผู้วิเศษลำดับ 6 เส้นทางนักอ่าน หากผมได้เห็นพลังพิเศษชนิดใด ผมจะสามารถจำแนก บันทึก และเลียนแบบได้ทั้งหมด แต่แน่นอน ยิ่งเป้าหมายมีระดับสูง โอกาสล้มเหลวย่อมมากกว่าสำเร็จ
“ฮะฮะ! นี่คือคติพจน์ของโบสถ์เรา ปัญญาคือพลังอันยิ่งใหญ่!”
ทำไมเราถึงคุ้นหูนัก…
ยิ่งไปกว่านั้น คำอธิบายรายละเอียดนั่น…
ขณะไคลน์กำลังเค้นสมองนึก ไอเซนการ์ดล้วงหยิบแหวนหรูหราวงหนึ่งออกมาแสดง
แหวนเลี่ยมเพชร เต็มไปด้วยเพชรเม็ดเล็กจำนวนมาก รอบนอกเป็นอัญมณีสีเขียวมรกตหรูหราราคาแพง มองผิวเผินจะคล้ายกับดวงตาของมนุษย์
เพียงจ้องเข้าไปในแหวน สมองไคลน์พลันพร่ามัว ประหนึ่งเครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานเกินขีดจำกัด
ไม่ผิดแน่… นี่คือสมบัติปิดผนึก 2-081!
ไอเซนการ์ด·สแตนธอนคือชายชราเจ้าของนามแฝง มิสเตอร์เนตรแห่งปัญญา?
ไคลน์จ้องมองยอดนักสืบบนเก้าอี้เอนกาย
แหวนวงนั้นคือสมบัติปิดผนึก 2-081 ซึ่งมิสเตอร์เนตรแห่งปัญญาเคยนำมาอวดกับตน แถมยังนำออกมาใช้ตรวจสอบความถูกต้องของสินค้าภายในชุมนุมลับหลายหน!
เนตรแห่งปัญญา… นามแฝงดังกล่าวสอดคล้องกับการเป็นสาวกโบสถ์เทพปัญญาความรู้…
ไคลน์อาศัยพลังตัวตลกช่วยปกปิดอาการตื่นตระหนักพร้อมกับจ้องมองไอเซนการ์ดอย่างเงียบงัน
หลังจากพิจารณาสักพัก ชายหนุ่มพบว่าไอเซนการ์ดมีความคล้ายคลึงกับเนตรแห่งปัญญาหลายส่วน และแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงในหลายส่วน
อำพรางตัวเก่งกาจ… สมกับเป็นเจ้าของชุมนุมลับผิดกฎหมาย… หรือนี่จะเป็นพลังของ 2-081 ด้วยเช่นกัน?
ไคลน์วิเคราะห์อย่างคร่าว
ทันใดนั้น ชายหนุ่มเริ่มสร้างมโนภาพเหตุการณ์ล่วงหน้าภายในสมอง
…ถ้าเกิดมิสเตอร์สแตนธอนบอกว่า :
“เพื่อเป็นการแสดงความจริงใจ ในเมื่อผมได้บอกเส้นทางและสมบัติวิเศษของตนไปแล้ว ถึงตาพวกคุณช่วยบอกลำดับ เส้นทาง และสมบัติวิเศษของตัวเองด้วย”
แล้วเราควรตอบกลับอย่างไร…? ควักเข็มกลัดสุริยันซึ่งซื้อต่อจากเขาออกมาแสดง?
เขาจะไม่ตะโกนใส่หน้าเราว่า “เจอตัวแกสักที ไอ้เด็กเวร!” เอาหรือ?
ขณะจินตนาการไคลน์กำลังเตลิด คาสลาน่าก้มมองแหวนพร้อมกับซักถามด้วยน้ำเสียงอิจฉาแกมประหลาดใจ
“แล้วคุณคิดจะใช้แหวนจำลองพลังชนิดใดเพื่อต่อกรกับสัญชาตญาณหยั่งรู้ของปีศาจ”
ไอเซนการ์ดยกโค้งมุมปาก
“ผมจะต่อสู้กับพลังหยั่งรู้อันตรายด้วย… พลังหยั่งรู้อันตราย”
ในวินาทีนี้ สีหน้าของมันเผยความเจ้าเล่ห์เยี่ยงจิ้งจอกเฒ่า
หือ… ทำแบบนั้นได้ด้วยหรือ… ไคลน์ผงะเล็กน้อยเนื่องจากยังคิดตามไม่ทัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ