หลังจากพานักสืบทั้งสามขึ้นรถม้ามายังบ้านหลังหนึ่ง ไอคานส์·เบอร์นาร์ดถอดหมวกสีดำด้วยมือหนึ่งข้าง ส่วนอีกข้างชี้ไปทางประตูบ้านซึ่งอยู่ถัดไปจากน้ำพุ
“พวกเราทำการรื้อคดีกลับมาสืบใหม่ทั้งหมดจากหลายช่องทาง เก็บรวบรวมเบาะแสทุกชนิด สืบสวนร่วมกับภาพวาดด้านข้างของคนร้าย แล้วก็… ผนวกกับความช่วยเหลือจากกระจกวิเศษ ผลลัพธ์คือ ทางเราสามารถระบุตัวผู้ต้องสงสัยได้หนึ่งคน”
ถึงกับชะงักครู่หนึ่งเมื่อพูดถึงกระจกวิเศษ…ชักอยากรู้แล้วว่าเขาต้องจ่ายอะไรไปบ้างกว่าจะได้รับคำตอบสำคัญเกี่ยวกับคดี…
เมื่อได้ยินเสียงสั่นเครือของไอคานส์ ไคลน์รู้สึกเห็นอกเห็นใจไม่น้อย
“ผู้ต้องสงสัยคือเจ้าของบ้านหลังนี้?”
คาสลาน่าย้อนถาม น้ำเสียงค่อนข้างมั่นใจว่าตนคาดเดาไม่ผิด
ไอเซนการ์ดมองไปรอบตัวด้วยสีหน้าครุ่นคิด
“ในเมื่อคุณยอมบอกเรื่องนี้กับเรา…หมายความว่าจิตแห่งจักรกลค้นพบเบาะแสสำคัญเพิ่มเติมแล้วใช่ไหม”
“ถูกต้อง จุดน่าสงสัยก็คือ พวกเราไม่พบรูปถ่ายเจ้าของบ้านแม้แต่ใบเดียว ปรากฏเพียงภาพวาดสีน้ำมัน” ไอคานส์เปิดเผยรายละเอียดของคดีโดยไม่ปิดบัง “ไม่เพียงเท่านั้น ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงยังระบุตรงกันว่า พวกเขาเคยเห็นสุนัขสีดำตัวใหญ่ในบ้าน—”
“พวกคุณจึงสรุปว่า ผู้ต้องสงสัยเป็นคนเดียวกับผู้ปลดปล่อยแรงกระหายใช่ไหม?” เมื่อกล่าวจบ ไอเซนการ์ดยิ้มชืด “ต้องขอโทษด้วย ผมไม่ได้ตั้งใจจะขัด เพียงแต่ความเข้มข้นของคดีทำให้พวกเรากระวนกระวาย”
หลังจากทุกคนเดินอ้อมน้ำพุ ไอคานส์ชี้ไปทางประตูบ้านพร้อมกับเล่าต่อ
“เจ้าของบ้านชื่อว่าเจสัน·แพทริค เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของธนาคารเล็กแห่งหนึ่ง จากคำบอกเล่าของเพื่อนบ้านในละแวก เขาเป็นชายวัยกลางคนอุปนิสัยร่าเริง กระตือรือร้น และมองโลกในแง่บวก เป็นชายโสด แต่หลายฝ่ายเชื่อว่าเขามีภรรยาลับซ่อนไว้หลายคน อย่างไรก็ตาม แม้จะร่ำรวย แต่จำนวนคนรับใช้กลับน้อยผิดปรกติ การจัดงานเลี้ยงรับแขกแต่ละครั้งจำเป็นต้องจ้างคนใช้ชั่วคราวจากสำนักงานจัดหาคนรับใช้ประจำเมืองเป็นจำนวนมาก เขาให้เหตุผลรองรับว่า ตนเป็นโรคนอนไม่หลับ จึงไม่ชอบจ้างคนรับใช้ในบ้านเยอะเพราะมักมีเสียงดังวุ่นวาย”
“อย่างนั้นหรือ…แต่ผมกลับคิดว่า เหตุผลแท้จริงของพฤติกรรมกล่าวก็คือ เขากำลังซุกซ่อนความลับบางอย่างไว้ในบ้าน” ไอเซนการ์ดกล่าวทีเล่นทีจริง
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ไคลน์ ผู้ไม่ได้จ้างคนใช้ไว้ในบ้านเลย เริ่มออกอาการร้อนตัว
“เขาอาจไม่ได้ร่ำรวยเหมือนภายนอกก็ได้”
“ถูกต้อง พวกเรายังไม่ควรตัดความเป็นไปได้ดังกล่าวออกไป” ไอเซนการ์ดยกมุมปากขณะเดินขึ้นไปบนเฉลียงหน้าประตู
ไอคานส์พลันหันมาจ้องไคลน์ด้วยสีหน้ากระจ่าง ราวกับเพิ่งตระหนักบางสิ่งได้
“แบบนี้นี่เอง…สาเหตุให้คุณไม่จ้างคนรับใช้แม้แต่คนเดียว และเลือกใช้บริการทำความสะอาดจากสาวใช้เจ้าของบ้านสัปดาห์ละสองครั้งแทน เพราะคุณกังวลว่าความลับเรื่องผู้วิเศษจะรั่วไหลออกไป?”
หากเทียบกับความลับอื่นของฉัน…เรื่องนั้นจะไม่น่ากังวลเลยสักนิด…
ไคลน์แสร้งยิ้มชืด
“ใช่ครับ”
ขณะชายหนุ่มมอบคำตอบ ไอเซนการ์ดผลักประตูบ้านเข้าไป กลิ่นเหม็นเน่าลอยโชยออกมาทันใด
“กลิ่นการเน่าเปื่อย…” ไอเซนการ์ดคาดเดาความสัญชาตญาณ
ไอคานส์ส่งเสียงเรียกสมาชิกทีม
“คาร์ลเซ่น! พบอะไรบ้างไหม?”
ผู้วิเศษ คาร์ลเซ่น สวมแว่นตาหนาเตอะ กำลังทำสีหน้าซับซ้อน
“ศพ… ศพเต็มไปหมดเลยครับ… ใต้ซีเมนต์ห้องใต้ดิน ระหว่างกำแพงซีเมนต์หนา ใต้ลานหญ้า พวกเราขุดพบศพแล้วศพเล่าอย่างต่อเนื่อง ศพเก่าสุดคงตายมานานกว่าสิบปีแล้ว และศพใหม่สุดยังมีลมหายใจจนกระทั่งสองสามวันก่อน บ้างเหลือแต่ซากกระดูก บ้างเน่าเปื่อยไปแล้วบางส่วน… ท่านอาวุโส บ้านหลังนี้ไม่ต่างอะไรกับโรงเชือดมนุษย์!”
ขณะคาร์ลเซ่นกำลังเล่า จิตแห่งจักรกลและตำรวจซึ่งถูกคัดเลือกมาอย่างดี ทยอยขนศพออกมาวางเรียงรายด้านหน้า
หลายศพมีชิ้นส่วนกระจัดกระจาย บนพื้นจึงเต็มไปด้วยลิ้น นิ้ว กระเพาะอาหาร ลูกตา และอีกมาก บางศพแห้งกรังเหลือเพียงกระดูก
“ดูเหมือนว่า คดีคนหายเกือบส่วนใหญ่ในเบ็คลันด์จะถูกสะสางก็คราวนี้” ไอเซนการ์ดบิดจมูกพร้อมกับถอนหายใจ
เมื่อไคลน์เห็นลำไส้เล็กถูกลากไปตามพื้นจนเกิดคราบของเหลว มันรีบเบือนหน้าหนีพลางสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัว
คาร์ลเซ่นส่งเสียงพึมพำอีกครั้ง
“เจสันจ่ายค่าแรงให้คนรับใช้สูงมาก แถมยังมอบวันหยุดยาวมากกว่านายจ้างรายอื่น คนรับใช้ในละแวกใกล้เคียงจึงพากันอิจฉาคนรับใช้ของหลังนี้… พ่อครัวของเจสันรับปากกับลูกชายไว้ว่า ครอบครัวจะเดินทางไปชมคณะละครสัตว์ในช่วงสุดสัปดาห์…”
“ปีศาจตัวจริง…” คาสลาน่ากัดฟันกรอด
ไคลน์ข่มอารมณ์พร้อมกับมองไปรอบบ้าน
“ทำไมเครื่องเรือนถึงมีสภาพธรรมดานัก? เป็นถึงนายธนาคาร อาจไม่ใช่ธนาคารใหญ่ก็จริง แต่เจสันก็ควรมีภาชนะลายครามไว้คอยรับแขกไม่ใช่หรือ รวมถึงเป็นภาพวาดสีน้ำมัน นาฬิกาแหวนผนังหรูหรา และเครื่องเรือนวัสดุผ้าไหม ทำไมถึงไม่มีแม้แต่ชิ้นเดียว? …ถึงเครื่องเรือนจำพวกไม้จะถูกประกอบจากวัสดุค่อนข้างดีก็เถอะ”
คาร์ลเซ่นชำเลืองไอคานศ์ รอจนกระทั่งอีกฝ่ายพยักหน้าอนุญาต จึงหันกลับมาเล่า
“ค่อนข้างแน่ชัดว่าเจสันวางแผนแก้แค้นไว้นานแล้ว มันทยอยขายสมบัติมูลค่าสูงแต่ไม่เตะตาออกไปทีละนิดโดยไม่มีใครสังเกตเห็น ขณะเดียวกันก็เทขายหุ้นทั้งหมดให้ธนาคารบาร์วาร์ตอย่างลับๆ หลังจากฆ่าคนรับใช้ในบ้าน มันเริ่มเปลี่ยนทรัพย์สินเป็นเงินอย่างรวดเร็ว เร่งขายภาพวาดสีน้ำมันราคาแพงและสมบัติชนิดอื่น ราวกับมั่นใจมากว่าจะถูกพวกเราตามสืบจนพบตัว ทุกการกระทำจึงไม่ปรากฏความลังเลแม้แต่น้อย ทุกสิ่งถูกจัดการอย่างเด็ดขาดและฉับไว แทบไม่หลงเหลือเบาะแสในบ้าน ก่อนจะลงมือแก้แค้นพวกคุณ มันเหลือเพียงบ้านหลังนี้ เครื่องเรือนเก่า และตัวตน… ไม่มีใครทราบว่ามันขนย้ายเงินสดก้อนโตด้วยวิธีใด และยังมีอัญมณีราคาแพงอีกมากซึ่งทางเราไม่พบประวัติการขายทอดตลาด”
หลังจากได้ยินคำอธิบายคาร์ลเซ่น ไคลน์นึกออกเพียงสามคำในหัว :
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ