ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ นิยาย บท 425

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 425 : เบื้องล่างกุหลาบ
ราชันเร้นลับ 425 : เบื้องล่างกุหลาบ
โดย
Ink Stone_Fantasy
ใต้หน้าต่างชั้นสอง เรือนกระจกสีเขียวกำลังส่องสะท้อนแสงแดดอ่อนจากท้องฟ้าด้านบน กุหลาบแดงจึงยิ่งโดดเด่นท่ามกลางบรรยากาศสลัวจากหมอกทึบ

ณ ห้องนอนใหญ่ คล้ายกับดยุคนีแกนหวนระลึกถึงความทรงจำในสมัยเด็ก เมื่อครั้งขณะติดตามบิดาและอาวุโสของตระกูลออกสำรวจดินแดน ฝึกหมาล่าเนื้อ และล่าสัตว์ป่าเป็นกิจกรรมยามว่าง

จนกระทั่งนีแกนถึงจุดสุดยอดในความใคร่ บรรยากาศรอบตัวพลันเงียบสงบจนผิดวิสัย

ทันใดนั้น สมองของมันเริ่มอื้ออึงมึนงง ความรู้สึก ‘สุขสม’ สุดขีดเข้าครอบงำทีละนิดในลักษณะระเบิดต่อกันเป็นทอดๆ อย่างไม่มีจุดสิ้นสุด เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยปราศจากขีดจำกัด

สะโพกดยุคนีแกนยังคงขยับซอยไม่พัก ดวงตาเริ่มล่องลอยราวกับสติของมันขาวโพลนไปชั่วขณะ

หัวใจพาลัส·นีแกนกำลังเต้นระรัวอย่างผิดธรรมชาติ ประหนึ่งหม้อต้มน้ำเดือดปะทุจากแรงดันเกินขีดจำกัด พร้อมระเบิดในทุกวินาที

หากมันเป็นเพียงคนธรรมดา หรือผู้วิเศษระดับต่ำซึ่งมีร่างกายอ่อนแอ นีแกนคงประสบอาการหัวใจวายฉับพลัน หรือไม่ก็อาการเส้นเลือดในสมองแตกไปนานแล้ว

อย่างไรก็ตาม มันสามารถเอาตัวรอดมาได้อย่างฉิวเฉียด มีเพียงอาการดวงตาเหม่อลอย ฟองน้ำลายผุดจากมุมปาก ก่อนจะล้มเซไปทางร่างภรรยาลับบนเตียง

ทางด้านผู้รับใช้วายุและเลขาส่วนตัวดยุคซึ่งแยกกันเฝ้าห้องติดห้องนอนจากคนละฝั่ง พวกมันต่างสัมผัสถึงความผิดปรกติรอบตัวพาลัส·นีแกนได้ทันที เป็นกลิ่นอายของกระแสพลังวิญญาณอันไม่สอดคล้อง

ฝ่ายแรกห่อหุ้มร่างกายตัวเองด้วยสายลมเกรี้ยวกราด พุ่งทะลุกำแพงห้องนอนหลักจนเกิดรูโหว่ขนาดใหญ่

ฝ่ายเลขาผมทองรีบมุ่งหน้าไปยังห้องใต้หลังคาซึ่งเป็นต้นตอของความผิดปรกติทันที

ตลอดทาง มันไม่ต้องออกแรงหลบหลีก แต่สิ่งกิ่งขวางทั้งหมดล้วนเป็นใจ ช่วยขยับหลบให้อย่างน่าอัศจรรย์ราวกับมีชีวิตชีวา

ขณะฝ่าเท้าเหยียบลงบนขั้นบันไดไม้ แผ่นไม้ช่วยงอตัวเพื่อส่งให้เลขาขึ้นไปถึงข้างบนได้รวดเร็ว

ภายในระยะเวลาแสนสั้นเพียงสามถึงสี่วินาที บุรุษมาดสง่างาม ใบหน้าหล่อเหลา เส้นผมสีทอง แต่หัวเถิกล้าน ได้ส่งตัวเองขึ้นมาถึงห้องใต้หลังคาและเผชิญหน้ากับใครบางคนบนเก้าอี้สภาพเก่าโทรม

ร่างดังกล่าวคล้ายกับถูกปกคลุมด้วยของเหลวเหนียวข้นสีดำสนิท เพียงจ้องมองก็มอบความรู้สึกคล้ายกับมวลอารมณ์ด้านลบทุกชนิดบนโลกกำลังรวมอยู่ในบุคคลเดียว

หากใครจิตใจไม่เข้มแข็ง อาจสติแตกจนถึงขั้นนำเชือกมาแขวนคอตายในทันที

อีกหนึ่งอารมณ์ซึ่งเกิดขึ้นพร้อมกันคือความกระหาย กระหายไม่เว้นแม้แต่กับเผ่าพันธุ์หรือเพศเดียวกัน กระหายจะกิน กระหายจะร่วมเพศอย่างปราศจากสุดสิ้นสุด

นี่คืออำนาจอันน่าสะพรึงของปีศาจ!

สีหน้าแววตาของเลขารูปร่างผอมบางยังคงไม่เปลี่ยน ไม่แม้แต่จะโจมตีเข้าไป เพียงใช้มือปิดประตูไม้ด้านหลังอย่างใจเย็น

ตึง!

ประตูไม้ของห้องใต้หลังคาปิดสนิท

ทันใดนั้น บรรยากาศรอบห้องเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน คล้ายกับห้วงมิติภายในถูกผนึกโดยสมบูรณ์ และจะไม่มีใครได้ออกไปจนกว่าจะออกแรงทำลายผนึกดังกล่าว

ในวินาทีนี้ การ ‘ปิดประตูเพื่อผนึกห้อง’ ได้เปลี่ยนใหม่กลายเป็นการ ‘ปิดประตูเพื่อตัดขาดมิติด้านในออกจากโลกภายนอก’

ผู้ปลดปล่อยแรงกระหายเริ่มเป็นฝ่ายเคลื่อนไหว ร่างกายของมันขยายขนาดพร้อมกับการงอกเงยของปีกค้างคาวสีดำขนาดใหญ่จากแผ่นหลัง เปลวเพลิงสีฟ้าจำนวนมากกำลังลุกโชนจากความว่างเปล่ารอบตัว

เพียงพริบตา เปลวเพลิงวูบวาบพลันควบแน่นกลายเป็นลูกบอลไฟเจือกลิ่นกำมะถันเข้มข้น ต่อด้วยการกระหน่ำยิงใส่เลขามาดสง่างามทีละนัดสองนัด

โดยไม่รีรอ เลขารีบเหยียดมือซ้ายซึ่งสวมถุงมือสีขาวออกไปข้างหน้า กำหมัดแน่น และบิดข้อมือในลักษณะครึ่งวงกลม

บึ้ม! บึ้ม! บึ้ม!

ช่างน่าประหลาด ลูกบอลไฟกลับมิได้พุ่งตรงไปข้างหน้าตามวิถีตามธรรมชาติ พวกมันพุ่งกระจายไปคนละทิศทางอย่างบ้าคลั่งสับสน ลักษณะคล้ายกับทฤษฎีของนักพฤกษศาสตร์ซึ่งกล่าวถึงการวิถีเคลื่อนตัวแบบสุ่มของอนุภาคขนาดเล็ก

ลูกบอลไฟกระจัดกระจายอย่างโกลาหล บางส่วนกระแทกผนัง บางส่วนกระแทกเพดาน บางส่วนตกลงด้านหน้าเลขาท่าทางอ่อนแอ และบางส่วนกระเด็นไปทางตัวผู้ปลดปล่อยแรงกระหายเสียเอง

ห้องใต้หลังคาพลันตกอยู่ในสภาพพินาศย่อยยับ ร่องรอยความเสียหายและคราบไหม้เกรียมปรากฏทุกซอกมุมโดยไม่เว้น ตัวอาคารบ้านพักโยกคลอนแผ่วเบาสองถึงสามหน

อย่างไรก็ตาม พลังพิเศษซึ่งกำลัง ‘ผนึก’ ห้องใต้หลังคาเอาไว้ หรือพูดให้ถูกคือ ‘กฎ’ ซึ่งบังคับให้เกิดผลในลักษณะดังกล่าว ยังคงไม่ถูกทำลายไป

ผนังรอบห้อง บานประตูไม้เก่าโทรม รวมถึงหลังคาขึ้นสนิม ทั้งหมดปรากฏร่องรอยการ ‘เกือบ’ ถูกทำลายอย่างชัดเจน เพียงแต่สภาพโครงสร้างยังสามารถก่อตัวเป็นรูปทรงเดิมได้อย่างน่าอัศจรรย์

ผู้ปลดปล่อยแรงกระหายมิได้ออกอาการหงุดหงิดเมื่อการโจมตีแรกล้มเหลว รวมถึงไม่ตื่นตระหนกในเรื่อง—ตนไม่สามารถกระตุ้นให้เป้าหมายเกิดความบ้าคลั่งได้

ขณะภาพของเลขาผมทองกำลังสะท้อนบนกระจกตา ผู้ปลดปล่อยแรงกระหายยังคงแสดงสีหน้าสุขุมเยือกเย็นเช่นเคย ดวงตาสีน้ำตาลของเพียงลุกโชนคล้ายลาวาเดือด

ทันใดนั้น ผู้ปลดปล่อยแรงกระหายแผดเสียงคำรามเป็นภาษาปีศาจ อัดแน่นด้วยความชั่วร้ายและกัดกร่อนจิตใจรุนแรง :

“ตาย!”

แทบจะในเวลาเดียวกัน ดวงตาใต้แว่นตากรอบทองของเลขาหนุ่มหล่อเริ่มสั่นเทา มันรีบคลายกำปั้นมือซ้ายพร้อมกับเล็งฝ่ามือไปทางผู้ปลดปล่อยแรงกระหาย

เพียงพริบตา ร่างของเลขาพลันมีร่างของอีกหนึ่งบุคคลซ้อนทับในลักษณะภาพมายา ราวกับเปลี่ยนให้ตัวเองกลายเป็นบุคคลสองบุคลิก โดยร่างหนึ่งยังคงเป็นเลขารูปร่างผอมเพรียวมาดสง่างามคนเดิม ส่วนอีกร่างคือของเหลวเหนียวข้นสีดำสนิท

ทั้งสองร่างสลับกันปรากฏตัวเป็นระยะ

“ตาย!” เมื่อร่างของเลขากลายเป็นของเหลวสีดำ มันเปล่งถ้อยคำปีศาจกลับไปในลักษณะเดียวกับอีกฝ่าย ตามด้วยการเสียหลักเซถอยหลังกลับมาเล็กน้อย

เมื่อสิ้นเสียง ร่างแยกสีดำพลันเลือนหาย ใบหน้าของเลขาผมทองเริ่มมีคราบสนิมสีแดงปกคลุมบางส่วน ราวกับมันคือมนุษย์โลหะผู้อาศัยในสภาพแวดล้อมเปียกชื้นเป็นเวลานาน

แค่ก! แค่ก! แค่ก!

เลขาหนุ่มหล่อไอแห้งเสียงดัง ก่อนจะอาเจียนก้อนเลือดข้นสีสนิมออกมาคำใหญ่

เพียงพริบตา คราบสนิมบนใบหน้าเริ่มหลุดลอกออกเป็นแผ่น

แค่ก! แค่ก! แค่ก!

ผู้ปลดปล่อยแรงกระหายเริ่มอาเจียนด้วยอาการเดียวกัน และออกมาเป็นก้อนเลือดข้นสีสนิมเหมือนกันทุกประการ ทว่า ของเหลวสีดำแฝงอารมณ์ด้านลบซึ่งปกคลุมรอบตัวมันเริ่มลดจำนวนลง

คล้ายกับภาษากัดกร่อนของปีศาจได้ถูกบรรเทาลงครึ่งหนึ่งและสะท้อนกลับหาตัวผู้ปลดปล่อยแรงกระหายเสียเอง!

ณ ห้องนอนใหญ่

ผู้รับใช้วายุรีบพุ่งเข้าไปพยุงดยุคนีแกนพร้อมกับใช้เท้าถีบภรรยาลับกระเด็นไปกระแทกผนังห้อง ภายในใจกำลังระแวงว่าเธออาจเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด

เหตุผลให้ผู้รับใช้วายุไม่ขึ้นไปช่วยเลขา เพราะงานหลักของมันคือการดูแลความปลอดภัยของดยุคนีแกน แถมสถานการณ์ก็ยังไม่แน่ชัดว่าจะมีผู้โจมตีรายอื่นอีกหรือไม่

มาถึงตรงนี้ พาลัส·นีแกนเริ่มได้สติ ด้วยร่างกายแข็งแกร่งกว่ามนุษย์ทั่วไป มันรอดจากแรงกระตุ้นอันเข้มข้นได้อย่างฉิวเฉียด อย่างไรก็ตาม แขนขายังคงปราศจากเรี่ยวแรง สมองขาวโพลน สติเลือนรางและไม่คมชัด ไม่สามารถเค้นพลังพิเศษออกมาใช้งานได้ คงเป็นเช่นนี้ไปอีกหลายนาที

นีแกนทำท่าทางเป็นเชิงบอกให้ผู้รับใช้วายุปลดสร้อยหอยสังข์จากลำคอ พร้อมกับเลื่อนขึ้นมาจ่อริมฝีปากของตน

พาลัส·นีแกนสูดลมหายใจยาว ตามด้วยการออกแรงเป่าสังข์สลักลวดลายพิเศษ

ซ่า!

เสียงของคลื่นทะเลดังขึ้น คล้ายกับมีคลื่นล่องหนพุ่งไปยังทิศทางของมหาวิหารวายุศักดิ์สิทธิ์

“ด้วยความเร็วของเจ้าคุณท่าน อีกไม่นานก็คงมาถึงแล้ว” ผู้รับใช้วายุรีบกล่าวเพื่อให้พาลัส·นีแกนคลายความกังวล ก่อนจะทำการแบกดยุคคนสำคัญของอาณาจักรขึ้นหลังและกระโดดลงไปยังชั้นล่างผ่านทางหน้าต่าง

ณ ด้านล่าง นีแกนกับผู้รับใช้วายุได้พบกับองครักษ์กลุ่มหนึ่ง พวกมันทั้งหมดล้วนเป็นผู้วิเศษลำดับต่ำ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ