เพื่อนชนชั้นสูงของเขาดันไปมีความรักต้องห้ามกับสามัญชนจนถึงขั้นหวังแต่งงาน แต่เนื่องจากสถานะทางสังคม การแต่งงานจึงไม่มีวันเกิดขึ้นได้ ทาลิมเป็นเดือดเป็นร้อนกับเรื่องนี้มาก จนถึงขั้นเปรยออกมาว่า อยากจ้างมือปืนสักคนมาฆ่าทิ้ง แต่สุดท้ายกลับลงเอยด้วยการ ทาลิมเป็นฝ่ายเกลี้ยกล่อมจนฝ่ายหญิงยอมจากไปเอง
หรือตัวเอกของเรื่องดังกล่าวจะเป็นองค์ชายเอ็ดซัค·ออกัสตัส? ทุกปัจจัยสอดคล้องกันอย่างลงตัว ในฐานะองค์ชาย การสมรสกับสามัญชนไม่ต่างอะไรกับเป็นกบฏแผ่นดิน นับตั้งแต่อาณาจักรโลเอ็นก่อตั้ง ยังไม่เคยมีทายาทสืบสายเลือดคนใดสมรสกับสามัญชนมาก่อน อย่างน้อยก็ต้องบุตรสาวขุนนางบรรดาศักดิ์สูง… จากบทสนทนาเมื่อครู่ องค์ชายเอ็ดซัคพาตัวสตรีสามัญชนคนนั้นกลับมายังคฤหาสน์อีกครั้ง แถมยังกักบริเวณเพื่อเป็นการทำโทษ? นี่คือความรักจริงหรือ…
ทันใดนั้น เรื่องราวระหว่างองค์ชายบ้าอำนาจและดอกไม้สีขาวแสนบอบบางพลันผุดขึ้นในหัวไคลน์
ชายหนุ่มมองไปยังวิวทิวทัศน์สุดลูกหูลูกตารอบตัว พยายามดื่มด่ำไปกับบรรยากาศอันงดงามของช่วงกลางฤดูหนาว
“ทุกทีจะไม่ใช่แบบนี้ หากย่างเข้าฤดูใบไม้ผลิและหญ้าเขียวเริ่มงอกเงยเมื่อไร ลานกว้างแห่งนี้จะกลายเป็นสุดยอดสนามกอล์ฟ” องค์ชายเอ็ดซัคส่งสาวใช้กลับไป พลางอธิบายชายหนุ่มด้วยมือข้างถือแส้ม้า
“กอล์ฟ?” ไคลน์ทวนคำ ก่อนจะทราบคำตอบด้วยตัวเองในไม่กี่อึดใจถัดมา
เอ็ดซัดส่งสัญญาณมือบอกให้เหล่าองครักษ์ออกไปได้ จึงเหลือเพียงไคลน์และพ่อบ้านชราคอยเดินตามติด
องค์ชายสามแห่งโลเอ็นเดินนำท่ามกลางทุ่งกว้างเหี่ยวเฉาพลางเริ่มอธิบาย
“ถูกต้อง กอล์ฟ กีฬาสำหรับชนชั้นสูงอย่างแท้จริง แม้แต่เจ้าของนิตยสารหรือหนังสือพิมพ์ก็แทบไม่มีโอกาสได้สัมผัส ถึงเราจะไม่ชอบหน้าโรซายล์นัก แต่ก็ต้องยอมรับว่าจินตนาการสุดบรรเจิดของหมอนั่นทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้นมาก เชอร์ล็อก ถ้าเจ้าสามารถค้นหาความลับการตายของทาลิมได้ คฤหาสน์แห่งนี้พร้อมต้อนรับเจ้าเสมอ”
เป็นโรซายล์จริงด้วย… ไคลน์หายใจเข้า
เมื่อเห็นอีกฝ่ายยังเงียบ องค์ชายเอ็ดซัคจึงเล่าต่อ
“ถึงโรซายล์จะมีมุมน่าศึกษามากมาย แต่เราไม่ชอบวิธีปฏิบัติต่อสตรีของมัน เข้าใจว่าเป็นธรรมเนียมของขุนนางอินทิส แต่เรารับไม่ได้และรู้สึกขยะแขยงอย่างมาก พวกมันมักมากในกามและเสพติดความหรูหราเกินไป”
เอ็ดซัคจ้องลำธารพร้อมกับกล่าวด้วยถ้อยคำปรัชญาเกินอายุ
“เก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ของประชากรโลกไม่ได้อัจฉริยะทุกด้านเหมือนกับโรซายล์ ดังนั้น แก่นสำคัญของชีวิตคือการตามหาความถนัดและสิ่งรักของตัวเองให้พบ จากนั้นก็ทุ่มเททั้งหมดไปกับมันโดยห้ามหันหลังหรือย่อท้อต่ออุปสรรคเด็ดขาด”
เมื่อพูดจบ เอ็ดซัคกล่าวต่อด้วยเสียงล่องลอยพร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง
“แต่ไหนแต่ไร เราเคยคิดว่าตัวเองตกหลุมรักบุตรสาวของเอิร์ลฮอลล์มาตลอด เธอผู้นั้นมีรูปโฉมสมบูรณ์แบบ กิริยามารยาทไร้จุดตำหนิ เป็นบุตรีแห่งตระกูลขุนนางสูงศักดิ์ ทรัพย์สมบัติมั่งคั่งเพียบพร้อม และมีบิดาเป็นผู้ทรงอิทธิพลของอาณาจักร เธอผู้นั้นคู่ควรกับองค์ชายทุกคนโดยไม่มีข้อโต้แย้ง แต่ปัจจุบันเราเริ่มตระหนักแล้วว่า ความรักอันแท้จริงต้องเปลี่ยนให้โลกทั้งใบกลายเป็นสีชมพู ต้องคิดถึงเธอคนนั้นทั้งวันไม่เว้นแม้กระทั่งยามฝัน เป็นสายสัมพันธ์ทางวิญญาณชนิดพิเศษ ต้องเจอกับตัวเท่านั้นจึงจะเข้าใจ ฮะฮะ! เรามิได้หมายความว่ามิสฮอลล์บกพร่องด้านใด เพียงแต่เราไม่ได้เกิดความรู้สึกรักหรือชอบเธออีกแล้ว”
องค์ชาย วิธีการพูด โทนเสียง สีหน้าท่าทางของคุณ ทำไมถึงได้เหมือนกับทาลิมขณะก่อนตายนัก… ได้โปรดอย่าล้มลงและหัวใจวายตรงนี้ เพราะถ้าไม่อย่างนั้น ถึงผมจะกระโดดแม่น้ำทัสซอคเพื่อพิสูจน์มลทินก็คงไม่มีใครเชื่อ… ยิ่งไปกว่านั้น การได้ยินถ้อยคำเมื่อครู่ยิ่งทำให้เราถอนตัวจากเรื่องนี้ยากขึ้น… คิดจะบังคับให้เราลงเรือลำเดียวกันสินะ…
ไคลน์เริ่มเกิดความกลัวอย่างไม่มีเหตุผล
ชายหนุ่มกระแอมและรีบเปลี่ยนหัวข้อ
“องค์ชาย บุคคลระดับท่านย่อมมีบริวารมากมาย และหลายคนคงเต็มใจสืบหาสาเหตุการตายของทาลิม เช่นนั้นแล้ว กระหม่อมจึงไม่เข้าใจว่าทำไมองค์ชายถึงต้องเจาะลงเลือกนักสืบเอกชนปลายแถวด้วย”
เอ็ดซัคส่ายหัว
“ในฐานะองค์ชาย เรามีพลังอำนาจมากพอๆ กับการขาดอิสรภาพ รอบตัวเรามีสายตาจับต้องนับไม่ถ้วน คงให้บริวารออกไปทำงานลับไม่ได้หรอก ในทางกลับกัน เจ้าคือยอดนักสืบผู้ปราดเปรื่อง สนิทสนมกับทาลิม และยังเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ขณะเขาเสียชีวิต ไม่มีใครเหมาะสมไปกว่าเจ้าแล้วจริงไหม ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดอันตราย อย่างน้อยเราก็รับประกันความปลอดภัยให้เจ้าได้”
องค์ชาย คำสัญญาเช่นนี้เปราะบางพอๆ กับกระดาษเช็ดก้น… ไคลน์รำพัน
หลังจากได้ฟังองค์ชายเล่าความลับออกมามากมาย ไคลน์ตระหนักได้ว่า หากตอบปฏิเสธอย่างแข็งกร้าว ตนคงไม่ได้กลับออกจากคฤหาสน์กุหลาบแดงแห่งนี้แน่ ชายหนุ่มถอนหายใจสั้นหนึ่งครั้งและกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ว่ากันตามตรง กระหม่อมเองก็โกรธแค้นและสงสัยในปริศนาการตายของทาลิมไม่น้อยไปกว่าองค์ชาย เพียงแต่โลกความจริงอันโหดร้ายทำให้กระหม่อมต้องยับยั้งตัวเอง”
ได้ยินเช่นนั้น เอ็ดซัคเผยรอยยิ้ม
“เจ้าต้องการให้เราช่วยเรื่องใด”
“เส้นผมของทาลิม ถ้าเป็นเศษเนื้อหรือเลือดได้ยิ่งดี รวมถึงของใช้ในชีวิตประจำวัน” ไคลน์แจกแจงรายละเอียด
“ตกลง สิ่งเหล่านั้นจะถูกส่งไปยังบ้านของเจ้าในอีกไม่กี่วันข้างหน้า” เอ็ดซัคไม่ขัดข้อง เพียงซักถามเพิ่มเติมด้วยสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย “แค่นี้เองหรือ?”
ไคลน์ไม่มัวอ้อมค้อม
“ต้องรอกระหม่อมสอบสวนเบื้องต้นเสียก่อน จึงค่อยเริ่มกำหนดแนวทางการสืบสวนในภายหลัง แล้วก็อีกหนึ่งเรื่อง กระหม่อมต้องการวิธีลับในการติดต่อกับองค์ชาย การให้นักสืบเอกชนเดินทางเข้าออกคฤหาสน์หลวงคงไม่ใช่เรื่องดีนัก”
เอ็ดซัคพยักหน้ารับทันทีประหนึ่งเตรียมคำตอบไว้นานแล้ว
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง เราให้ใครบางคนเช่าบ้านหลังติดกับเจ้าไว้แล้ว อาคารหมายเลข 13 ถนนมินส์ หากเจ้าต้องการติดต่อเรา ให้เขียนรายละเอียดรวมถึงวันเวลานัดหมายไว้ในกระดาษและหยอดลงกล่องจดหมายของบ้านข้างเคียง ในส่วนของรางวัล เจ้าคงทราบอยู่แล้วว่าเราไม่ใช่คนตระหนี่ ถึงการสืบสวนจะคว้าน้ำเหลว แต่เราจะตอบแทนตามปริมาณการลงแรงพยายาม และถ้าประสบความสำเร็จ ขอสัญญาว่าเจ้าจะได้รับเงินก้อนโตชนิดสบายไปทั้งชีวิต เพียงพอสำหรับเกษียณจากงานได้ทันที”
อุปนิสัยขององค์ชายสามช่างเด็ดเดี่ยวและตรงไปตรงมา… เงินเกษียณคงประมาณสามพันปอนด์กระมัง…
ไคลน์ถอนหายใจ
“เข้าใจแล้วครับ ขอให้ดวงวิญญาณของทาลิมสถิตอยู่ในดินแดนแห่งพายุสายฟ้าของพระองค์ท่านตลอดไป” ชายหนุ่มโค้งคำนับ
เอ็ดซัคพยักหน้ารับและสั่งพ่อบ้านชรา
“ส่งนักสืบโมเรียตี้กลับถนนมินส์”
องค์ชาย งานเลี้ยงอาหารกลางวันมือหรูหราของผมอยู่ไหน? คุณกำลังให้นักสืบคนหนึ่งออกไปเสี่ยงตาย แต่ไม่คิดแสดงน้ำใจสักหน่อยหรีอ… ช่างเถอะ องค์ชายคงมีกิจกรรม ‘อย่างว่า’ ต้องทำในช่วงสายกระมัง…
ไคลน์เหน็บแนมในใจ
ชายหนุ่มเดินตามพ่อบ้านชราออกมาทางประตูหน้าและรับปืนกับซองรักแร้คืน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ