ไคลน์ถือกระดาษจดหมายจากไอเซนการ์ดพลางพึมพำอยู่คนเดียว
ชายหนุ่มมองออกไปนอกหน้าต่าง สายฝนกำลังโปรยปรายต่อเนื่อง เสาตะเกียงริมถนนส่องแสงทรงกลดอย่างเงียบงัน
ณ ห้องรับแขก โต๊ะกาแฟถูกจัดเป็นระเบียบเรียบร้อย หนังสือพิมพ์หลายฉบับถูกวางเรียงตรงมุมอย่างเป็นสัดส่วน บรรยากาศรอบตัวไคลน์มีเพียงความเงียบงันครอบงำ
ชายหนุ่มนั่งลงบนโซฟาพร้อมกับโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย นิ่งเงียบเช่นนั้นโดยไม่ขยับตัวไปไหนเป็นเวลานาน
ผ่านไปเกือบสิบนาที ไคลน์ถอนหายใจหนักแน่นและเชื่องช้า ตามด้วยการทิ้งกระดาษจดหมายลงในถังขยะ
ชายหนุ่มบรรจงพยุงตัวลุกยืนและเดินขึ้นชั้นสองด้วยสีหน้าเหม่อลอย
ภายในถังขยะ กระดาษจดหมายจากไอเซนการ์ด·สแตนธอนกำลังลุกไหม้อย่างอ่อนโยนจนกระทั่งเหลือเพียงซากเถ้าถ่านสีดำ
…
วันจันทร์ตอนเช้า ไคลน์ยืนส่องกระจกพลางใช้นิ้วกลางกับนิ้วโป้งของมือขวา นวดคลึงหน้าผากและขมับทั้งสองข้างโดยออกแรงมากกว่าปรกติเล็กน้อย
เมื่อบีบนวดเสร็จ ชายหนุ่มเปิดก๊อกน้ำและโน้มตัวลงต่ำ สองมือวักน้ำอุณหภูมิพอเหมาะใส่ใบหน้าพร้อมกับขัดถูทำความสะอาดพอเป็นพิธี
หลังจากสร้างความสดชื่น ไคลน์เช็ดหน้าด้วยผ้าขนหนู แขวนกลับตำแหน่งเดิม และเดินลงไปยังชั้นล่างเพื่อทอดไข่ดาวสุกเกรียมสำหรับกินคู่กับขนมปังปิ้งทาเนย
ด้วยอาหารเช้าอย่างเรียบง่ายและชาดำแช่ซีกมะนาวฝาน ความอึมครึมในหัวใจไคลน์เริ่มบรรเทาลง
หลังจัดการมื้อเช้าเสร็จ ขณะกำลังนั่งไล่อ่านหนังสือพิมพ์ทุกฉบับให้ครบ เสียงกริ่งบ้านพลันดังกังวานสดใส
ใครกัน? งานใหม่? หรือคนของจิตแห่งจักรกลแวะมาแจ้งผลลัพธ์การขุดค้นสุสานตระกูลอามุนด์? ไม่น่าใช่ ไม่มีทางเสร็จเร็วขนาดนี้…
ไคลน์พึมพำพลางวางผ้าเช็ดปากและหนังสือพิมพ์ลง จึงค่อยลุกเดินไปเปิดประตู
ในวินาทีฝ่ามือสัมผัสลูกบิด นิมิตภาพของผู้มาเยือนผุดขึ้นในสมอง
สุภาพบุรุษสูงวัยแต่งกายเรียบร้อย ด้านในสุดเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวโพลนซึ่งถูกลงแป้งจนเนียนกริบ ด้านนอกเป็นเสื้อกั๊กสีฟ้าอมเทาตัวใหญ่หนา ปกปิดมิดชิดลงไปถึงช่วงท้อง
ด้านนอกสุดเป็นสูทหางยาว มีรอยจีบคมกริบและปราศจากจุดตำหนิ รองเท้าหนังหนังส่องแสงมันเงาค่อนไปทางแวววาว คล้ายกับไม่เคยใส่ลุยโคลนหรือฝนเลยสักครั้ง
สุภาพบุรุษปริศนาสวมถุงมือไหมพรมถักสีขาวละมุน จอนตรงขมับทั้งสองข้างหงอกเทา ใบหน้าปรากฏริ้วรอยเหี่ยวย่นชัดเจน ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเผยความขึงขังและไม่เป็นมิตร
ไม่รู้จัก… ไคลน์พึมพำพร้อมกับเปิดประตู
“มีอะไรให้ผมช่วยไหม” ชายหนุ่มซักถามอย่างสุภาพ
ชายชราถอดหมวกออก กดมันลงบนหน้าอกและก้มคำนับตามมารยาทพื้นฐาน
“มิสเตอร์เชอร์ล็อก·โมเรียตี้ ผมเป็นหัวหน้าพ่อบ้าน มาหาคุณเพราะเจ้านายต้องการเรียนเชิญให้ไปพบ”
“ผมรู้จักเจ้านายของคุณหรือไม่ และท่านผู้นั้นต้องการนัดพบด้วยเหตุผลใด” สมองไคลน์กำลังเต็มไปด้วยคำถาม
ทันใดนั้น หางตาพลันเหลือบไปเห็นรถม้าคันใหญ่ริมถนน ผนังด้านนอกมีสีดำสนิทและเงางามจนเด่นสะดุดตา กระจกหน้าต่างมีม่านสำหรับรูดเปิดปิด ค่อนข้างชัดเจนว่าไม่ใช่รถม้าของบุคคลธรรมดาแน่นอน
หรูหราแต่เรียบง่าย…
ไคลน์เพ่งมองและพบตราประจำตระกูลแผ่นใหญ่ด้านข้างห้องโดยสาร
กึ่งกลางตราเป็นภาพของดาบหนึ่งเล่มในสภาพปักหัวลงและมีมงกุฎสีแดงเป็นโกร่งดาบ
นี่มัน… ดาบพิพากษา…!
ตราประจำราชวงศ์ออกัสตัส!
หัวใจไคลน์พลันเต้นระรัวเมื่อได้ตระหนักถึงตัวตนแท้จริงของพ่อบ้านตรงหน้า
บางที ชายคนนี้ก็อาจเป็นผู้วิเศษทรงพลังด้วยเช่นกัน… ชายหนุ่มลองคาดเดา
พ่อบ้านสีหน้าขึงขังไม่แยแสสายตาสอดส่องของนักสืบ เพียงเผยรอยยิ้มสุภาพ
“คุณยังไม่เคยพบเจ้านายของผม แต่ในทางสามัญสำนึก คุณรู้จักท่านเป็นอย่างดี เพราะท่านคือผู้ให้เงินสนับสนุนเบาะแสขององค์กรลับเกี่ยวกับไพ่ทาโรต์ และยังเป็นผู้ให้คุณเบิกเงินค่าดำเนินการระหว่างภารกิจ”
นึกแล้วเชียว… นี่สินะ บุคคลสำคัญระดับอาณาจักรในความหมายของทาลิม… เราใช้ข้อมูลปลอมปอกลอกเขามาตลอด แถมยังเบิกเงินค่าเบี้ยเลี้ยงเพื่อนำไปจ่ายเฒ่าโคห์เลอร์… คงปฏิเสธคำเชิญไม่ได้แน่ โดยเฉพาะหลังจากการตายของทาลิม…
ไคลน์ทำหน้าครุ่นคิดสักพัก
“เจ้านายของคุณต้องการพบผมเนื่องจากคดีการเสียชีวิตของทาลิมใช่ไหม”
“ถูกต้อง เนื่องจากทาลิมเป็นสหายของท่าน ท่านจึงเสียใจและสับสนอย่างมากกับการจากไปอย่างกะทันหัน ท่านยังทราบด้วยว่าคุณอยู่ในจุดเกิดเหตุขณะทาลิมเสียชีวิต” พ่อบ้านชราอธิบายโดยไม่ปิดบัง
ผมเปล่า…
จิตใต้สำนึกไคลน์ต้องการโกหก แต่ในความเป็นจริง มันทำได้เพียงพยักหน้ารับโดยมิอาจปฏิเสธ
“ใช่ครับ ผมเห็นทาลิมตายไปต่อหน้า”
“ช่างน่าเศร้า” พ่อบ้านกล่าวจากใจจริง “คุณจะตอบรับคำเชิญจากเจ้านายผมหรือไม่”
คิดว่าปฏิเสธได้รึไงกัน… นั่นยิ่งจะทำนักสืบเชอร์ล็อกให้น่าสงสัยเข้าไปใหญ่! หรือไม่ก็ เราอาจถูกพ่อบ้านคนนี้เชือดทิ้งในพริบตา…
ไคลน์จ้องหน้าอีกฝ่าย
“ผมว่างช่วงเช้าพอดี”
“เช่นนั้นก็เชิญทางนี้ครับ มิสเตอร์โมเรียตี้” พ่อบ้านชราโน้มตัวเล็กน้อยพร้อมกับผายมือไปทางรถม้าริมถนน
เฮ่อ เราพยายามเลี่ยงการพบปะอีกฝ่ายมาตลอด แต่จนแล้วจนรอด ความตายของทาลิมทำให้เราหมดอ้าง… ขอให้การพบปะในครั้งนี้ไม่ทำให้เราต้องพัวพันกับเรื่องวุ่นวายของพวกชนชั้นสูง… เห็นทีต้องวางแผนสละตัวตนนักสืบเชอร์ล็อกเอาไว้ล่วงหน้า… ระหว่างนั้นก็ต้องเร่งมือหาเส้นผมนากาทะเลลึกกับตะกอนพลังของเงามืดหนังมนุษย์ เพราะหากได้เป็นผู้ไร้หน้าเมื่อใด ชีวิตของเราจะปลอดภัยมากกว่าเดิมอีกหลายเท่า!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ