ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ นิยาย บท 468

สรุปบท ราชันเร้นลับ 468: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ

สรุปเนื้อหา ราชันเร้นลับ 468 – ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ โดย Internet

บท ราชันเร้นลับ 468 ของ ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ ในหมวดนิยายInternet เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 468 : เดอะมูน
ราชันเร้นลับ 468 : เดอะมูน
โดย
Ink Stone_Fantasy
เอ็มลินตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ สมองกำลังขาวโพลนประหนึ่งรูปปั้นหินในท่านั่ง

ถัดมา มันได้ยินบุคคลเบื้องหลังม่านหมอกสีเทาซักถามด้วยเสียงเรียบ

“เจ้าวิงวอนถึงเราทำไม”

ในหัวเอ็มลินยังคงอื้ออึง จึงทำได้เพียงตอบกลับไปตามความจริง

“นี่เป็นวิวรณ์จากท่านบรรพชน ท่านบอกผ่านนิมิตความฝันว่า หายนะกำลังคืบคลานเข้าใกล้และพวกเราเหล่าผีดูดเลือดต้องเตรียมตัวรับมือล่วงหน้า ข้าคือกุญแจสำคัญในเหตุการณ์ดังกล่าว และภารกิจแรกคือการสวดวิงวอนถึงท่านเดอะฟูล!”

เมื่อได้ฟังเหตุผลอย่างละเอียด ไคลน์ซึ่งเกิดความสงสัยมานาน พลันหมดคำจะกล่าวไปพักใหญ่ แวมไพร์หนุ่มตรงหน้าได้อธิบายทุกความสงสัยของตนจนหมดในคราวเดียว

วิวรณ์จากบรรพชน… ไม่ใช่ว่าเทพธิดาบรรพกาลอย่างลิลิธ ร่วงหล่นไปแล้วตั้งแต่ยุคสมัยแห่งมหาภัยพิบัติหรอกหรือ และอำนาจในขอบเขตของเธอก็ถูกพระผู้สร้างต้นกำเนิดริบกลับคืนไปเช่นกัน… เรื่องนี้ไม่น่าจะผิดพลาด เพราะเมื่อแวมไพร์รุ่นหลังทดลองสวดวิงวอนถึงดวงจันทร์บรรพกาล ผลลัพธ์ส่วนมากมักเกิดความฉิบหายกับตัวเอง…

ยิ่งไปกว่านั้น มิสเตอร์ประตูยังระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ‘ไพ่เดอะมูน’ อันเป็นตัวแทนเส้นทางจันทรายังคงว่างอยู่… อาจเป็นไปได้ว่า ดวงจันทร์บรรพกาลกำลังถูกสวมรอยโดยเทพตนอื่น หรือไม่ก็ปีศาจชั่วร้ายบางตน แต่ไม่ว่าจะอย่างไหน เทพธิดาลิลิธได้สูญเสียตำแหน่งลำดับ 0 ไปแล้วอย่างแน่นอน โดยสิ่งนี้สามารถอนุมานได้ว่า ‘ตาย’ …

ไคลน์พยายามปะติดปะต่อเรื่องราว

เดิมที มันจินตนาการว่า ‘ลิลิธ’ ผู้ตอบสนองคำวิงวอนของเหล่าผีดูดเลือดในบางเรื่อง แท้จริงแล้วเป็น ‘มรดก’ จากเทพธิดาบรรพกาล อาจวัตถุจำพวกเป็น ‘เอกลักษณ์’ ของเส้นทางจันทรา ฉะนั้น การตอบสนองต่อคำวิงวอนจึงควรมีลักษณะคล้ายกับข้อความอัตโนมัติ คลุมเครือ และอยู่ในขอบเขตจำกัด

แต่เอ็มลินกลับบอกว่า ผีดูดเลือดได้รับวิวรณ์ความฝันจากเทพธิดาลิลิธโดยตรง…

มีความเป็นไปได้สองทาง หนึ่ง ลิลิธถูกสวมรอยโดยเทพบางตนซึ่งถือครองวัตถุ ‘เอกลักษณ์’ ของเส้นทางจันทรามาสักพัก ส่งผลให้เทวทูตบนเส้นทางจันทราหมดโอกาสก้าวขึ้นไปเป็นลำดับ 0 โดยปริยาย… ในกรณีนี้ เทพดังกล่าวคงไม่ได้สนใจความเป็นไปของเผ่าพันธุ์ผีดูดเลือดสักเท่าไร อาจเป็นเพียงการมอบวิวรณ์เพื่อทดสอบพลัง… ผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งคงหนีไม่พ้นเทพธิดารัตติกาล เพราะท่านถือครองสมญานาม ‘สตรีสีชาด’ …

แต่พระองค์คือลำดับ 0 บนเส้นทางของ ‘ไพ่เดอะสตาร์’ ไม่ใช่หรือ แล้วเหตุใดถึงปรารถนาอำนาจของ ‘ไพ่เดอะมูน’ ..

หรือแค่ต้องการขัดขวางศัตรู…

อีกหนึ่งความเป็นไปได้คือ เทพธิดาบรรพกาล ลิลิธ ยังไม่ร่วงหล่นโดยสมบูรณ์ จนกว่าจะมีลำดับ 0 คนใหม่ของเส้นทางจันทราปรากฏตัว ท่านสามารถใช้เอกลักษณ์และวิธีการพิเศษในการประคองชีวิตให้อยู่รอด จากนั้นก็รอวันคืนชีพเมื่อโอกาสเหมาะสมมาถึง ประเด็นนี้สอดคล้องกับคำอธิบายของไพ่จักรพรรดิมืด…

บางที การช่วงชิงสมญานาม ‘สตรีสีชาด’ ของเทพธิดารัตติกาล ก็อาจทำไปเพื่อขัดขวางมิให้ลิลิธคืนชีพ…

เมื่อประเมินจากข้อมูลในมือ ลิลิธอาจจงใจเผยวิวรณ์วันสิ้นโลกเพราะวางแผนคืนชีพไว้แล้ว โดยกุญแจสำคัญของแผนดังกล่าวก็คือเดอะฟูล… ถ้านี่คือเรื่องจริง การวิงวอนของเอ็มลินจะมีค่าเท่ากับ ‘จดหมายเชิญพันธมิตร’ ทางอ้อม… แต่เราเป็นเพียงผู้วิเศษลำดับ 6 แล้วจะเอาอะไรไปช่วยเหลือเทพธิดาบรรพกาลหมื่นปีผู้ยังรอดชีวิตมาถึงทุกวันนี้…

ให้เอ็มลินเข้าร่วมชุมนุมทาโรต์? ผีดูดเลือดคือเผ่าพันธุ์อายุยืนยาว มีตัวตนมาตั้งแต่ยุคสมัยที่สอง และยังทราบความลับน่าสนใจในหลายประเด็น… แต่ถ้าทำแบบนั้น เราก็ต้องแบกรับความเสี่ยงพอสมควร… อา… ทุกครั้งก่อนดึงเอ็มลินเข้าร่วมชุมนุม เราต้องทำนายยืนยันให้แน่ใจว่าปลอดภัย…

ถ้าจำไม่ผิด เราเคยได้ยินคำทำนายคล้ายคลึงกันมาแล้วในหนังสือ ‘ประสบการณ์โลกวิญญาณ’ จากมิสเมจิกเชี่ยน แสงเหลืองกล่าวไว้ว่า คำสาปของตระกูลอับราฮัมจะถูกลบล้างโดยผู้ฝึกหัดซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากบุคคลลึกลับ ฟังดูคล้ายคลึงกับสภาพแวดล้อมปัจจุบันของมิสเมจิกเชี่ยน… เธอคือผู้ฝึกหัด และเพิ่งได้รับความช่วยเหลือจากเรา เดอะฟูล…

ชักน่าสนใจว่า เหล่าตัวตนระดับสูงซึ่งสามารถตระหนักถึงสิ้นโลก จะเห็นเดอะฟูลเป็นทางออกของฝ่ายตนทุกคนเลยหรือไม่…

ไคลน์ครุ่นคิดหลายสิ่ง แต่สีหน้าแววตาภายนอกมิได้แปรเปลี่ยน

มันเอนกายพิงเก้าอี้อย่างสบายใจ มุมปากยกโค้งเผยรอยยิ้มอ่อนโยน

“บรรพชนของเจ้า บอกให้เจ้าสวดวิงวอนถึงเราด้วยเหตุผลอันใด”

น้ำเสียงสุขุมและใสกังวานได้ดึงเอ็มลินกลับจากภวังค์ตื่นกลัว แวมไพร์หนุ่มส่ายหน้าอย่างเชื่องช้าประหนังยังไม่ได้สติดี

“ไม่ทราบขอรับ…”

ขณะเดียวกัน ไคลน์สังเกตเห็นสัญลักษณ์รูปดาวหลังเก้าอี้เอ็มลินเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง กลายเป็นสัญลักษณ์ของจันทราสีเลือด

นึกแล้วเชียว ผู้วิเศษเส้นทางเดียวกับลิลิธ ย่อมมีพลังอยู่ในขอบเขต ‘จันทรา’ …

ไคลน์หัวเราะในลำคอ

“ในยุคสมัยอันเต็มไปด้วยเทพจารีตทั้งเจ็ด รวมถึงยังมีตัวตนลึกลับอีกมากมาย เหตุใดบรรพชนของเจ้าถึงมองว่าเราคือกุญแจสำคัญในการฝ่าฟันหายนะเล่า?”

ท่าทีของอ่อนโยนของเดอะฟูลทำให้เอ็มลินเริ่มใจเย็นลง หลังจากมันเคยกระวนกระวายจนทำตัวไม่ถูก เมื่อตระหนักว่าจิตของตน ถูกบุคคลทรงพลังดึงเข้ามาในห้วงมิติเหนือสายหมอกลึกลับตามใจชอบ

ท่านคือเดอะฟูล… ท่านไม่เกรี้ยวกราด…

เพราะเราคือตัวแทนของท่านบรรพชน?

คิดไว้ไม่มีผิด ตัวข้า เอ็มลิน·ไวท์ คือบุคคลพิเศษของโลก! ท่านบรรพชนเจาะจงให้เรารับการตอบสนองของเดอะฟูล!

ด้วยความคิดเช่นนี้ เอ็มลินตัดสินใจเล่าทุกสิ่งออกไปอย่างเถรตรง

“ท่านเดอะฟูลผู้ยิ่งใหญ่ วิวรณ์ของท่านบรรพชนระบุว่า ตัวข้า เอ็มลิน·ไวท์ คือกุญแจสำคัญในการนำพาเผ่าพันธุ์ผีดูดเลือด ฝ่าฟันอุปสรรคและหายนะร้ายแรงในอนาคต และจุดเริ่มต้นคือการสวดวิงวอนถึงท่าน”

ความนัยไว้แฝงไว้ก็คือ : กุญแจสำคัญของเรื่องราวคือตัวข้า มิใช่ท่าน!

หมอนี่คงป่วยเป็นโรคม.2 อ่อนๆ …

ก็ไม่น่าแปลกใจสักเท่าไร อุปนิสัยส่วนตัวก็เป็นพวกโอหังและคิดว่าตัวเองคือศูนย์กลางของโลกมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว…

ไคลน์เหน็บแนมติดตลกพลางทอดแทรกวลีดังจากโลกเก่า

ชายหนุ่มยังคงพูดคุยอย่างอารมณ์ดี

“คำถามเดิม ทำไมถึงเป็นเรา มิใช่หนึ่งในเจ็ดเทพจารีตหรือตัวตนลึกลับอื่นๆ”

“…ข้าไม่ทราบขอรับ” เอ็มลินส่ายหน้าหนักแน่น

ไคลน์ครุ่นคิดสักพัก

“ว่ากันตามตรง เราพอจะเข้าใจเจตนาของบรรพชนเจ้าอยู่บ้าง เธอหวังให้เราช่วยพัฒนาเจ้าจนแข็งแกร่ง กลายเป็นกำลังสำคัญและช่วยเหลือผีดูดเลือดให้รอดพ้นจากหายนะเลวร้ายในอนาคต”

“พัฒนา…?” เอ็มลินทำหน้างุนงง “ท่านคงทราบดีอยู่แล้ว เผ่าพันธุ์ผีดูดเลือดของพวกเราไม่สามารถพัฒนาตัวเองได้ ความแข็งแกร่งจะเพิ่มขึ้นได้จากพิธีกรรมพิเศษ หรือไม่ก็มรดกจากเหล่าอาวุโสเท่านั้น”

นั่นสินะ เพื่อให้เป็นไปตามกฎความถาวรของพลังพิเศษ แม้แต่แวมไพร์เองก็ต้องดื่มโอสถเพื่อเลื่อนลำดับ… หรือก็คือ อาจมีข้อยกเว้นในกรณี ขอเพียงไม่ขัดต่อสามกฎหลักแห่งโลกผู้วิเศษก็พอ… ไคลน์ยิ้ม

“ความรู้ของเจ้า คือโซ่ตรวนพันธนาการเจ้ามิให้ออกไปเห็นโลกกว้าง แน่นอน ผลลัพธ์มิได้ขึ้นอยู่กับเรา แต่เป็นตัวเจ้าของ เราช่วยได้เพียงสนับสนุน”

ชายหนุ่มจงใจเว้นวรรค

“เจ้าจะคว้าโอกาสนี้ไว้หรือไม่”

เอ็มลินลุกยืนและคำนับโดยไม่ลังเล

“ทุกวันนี้ เราอนุญาตให้คนกลุ่มหนึ่งจัดการชุมนุมลับขึ้นรอบโต๊ะทองแดง เจ้าปรารถนาจะเข้าร่วมชุมนุมดังกล่าวเพื่อค้นหาวิธีพัฒนาตัวเอง และเป็นผีดูดเลือดทรงพลังหรือไม่”

“แน่นอนขอรับ!” เอ็มลินไม่ลังเล

ไคลน์พยักหน้าพึงพอใจ

“ยังมีคำขอร้องอื่นอีกไหม”

แวมไพร์หนุ่มพลันยินดีปรีดา มันรีบบอกความต้องการโดยเร็ว

“เรียนท่านเดอะฟูลผู้ยิ่งใหญ่ ข้าประสงค์จะให้ท่านช่วยขจัดการชี้นำทางใจภายในดวงวิญญาณ สิ่งนี้เกิดจากฝีมือของบิชอปจากโบสถ์พระแม่ธร—”

“เรารู้อยู่แล้ว” ไคลน์พูดแทรกเสียงเย็นชา

ท่านทราบ…? สมกับเป็นตัวตนลึกลับ…!

เอ็มลินก้มศีรษะต่ำ

ไคลน์ ‘หึ’ ในลำคอ

“เราช่วยเจ้าได้ แต่ต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยน”

เมื่ออยู่เหนือห้วงมิติสายหมอกเทา เนตรวิญญาณไคลน์จะถูกเสริมประสิทธิภาพขึ้นจากเดิมหลายเท่า ชายหนุ่มตรวจพบออร่าสีเข้มซึ่งน่าจะเป็นการชี้นำทางใจ แต่ออร่าดังกล่าวกำลังอ่อนแอและใกล้สลายตัวเต็มที

เดิมที ไคลน์มีแผนจะรักษาด้วยพิธีกรรมพิเศษตามหนังสือแห่งความลับ แต่เมื่อประเมินสถานการณ์อีกครั้ง มันเชื่อว่า ลำพังพิธีกรรมพันธสัญญาลับและเทวทูตไพ่จักรพรรดิมืดคงเพียงพอในการรักษาเอ็มลิน

แลกเปลี่ยน…?

หลังจากนั่งครุ่นคิดสักพัก เอ็มลินไม่พบว่าตนมีสิ่งใดจะไปแลกเปลี่ยนกับตัวตนทรงพลังอย่างเดอะฟูล

เห็นเช่นนั้น ไคลน์ฉวยโอกาส

“เราสนใจประวัติศาสตร์ผีดูดเลือดของพวกเจ้า จะใช้สิ่งนั้นแลกเปลี่ยนก็ไม่ขัดข้อง”

ประวัติศาสตร์ผีดูดเลือด…?

หลังจากไตร่ตรอง เอ็มลินยินยอม

“จงคิดเตรียมไว้ล่วงหน้า ว่าจะเล่าเรื่องใดให้เราฟังเป็นอันดับแรก… แต่ก่อนอื่น เจ้าต้องเลือกโค้ดเนมของตัวเองจากสิ่งนี้”

ไคลน์เสกไพ่ทาโรต์สำหรับใหญ่ซึ่งยังไม่ถูกสมาชิกคนอื่นเลือก ไว้บนผิวโต๊ะทองแดงยาว

เอ็มลินก้มหน้าตรวจสอบสักพัก

“เดอะมูน ข้าเลือกไพ่เดอะมูน!”

……………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ