ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ นิยาย บท 476

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 476 : ฟางข้าว
ราชันเร้นลับ 476 : ฟางข้าว
โดย
Ink Stone_Fantasy
ณ จุดการหายตัวไปของอินซ์·แซงวีลล์ ความมืดมิดเข้มข้นเข้าปกคลุมกะทันหัน

ท่ามกลางห้วงมิติสีดำ เสียงสวดภาวนาอันไพเราะกำลังลอยดังแว่ว บรรยากาศปลอดโปร่งและล่องลอยคงอยู่เช่นนั้นอยู่เป็นเวลานาน

แม้กระทั่งท่อนแขนจำนวนมากซึ่งพยายามกวัดแกว่งอย่างส่งเดชจากด้านล่าง ก็ยังลดความบ้าคลั่งลงจากตอนแรกหลายระดับ ประหนึ่งดวงวิญญาณพวกมันถูกส่งไปสู่สุคติ

จนกระทั่ง ภายใต้ความดำมืด บุคคลผู้หนึ่งย่างกรายออกจากจุดใจกลาง ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากอินซ์·แซงวิลล์ ผู้เพิ่งถูกกระชากเข้าไปในโลกวิญญาณมาเมื่อครู่

เทียบกับในตอนแรก อินซ์·แซงวิลล์สูญเสียหมวกใบเล็ก เสื้อผ้าบริเวณไหล่ซ้ายขาดรุ่งริ่งไม่เหลือเค้าเดิม ผิวหนังฉีกขาดเป็นแผลยาวหลายจุด น้ำหนองสีเหลืองข้นผุดออกมาเป็นทางยาวง

ดวงตามิได้เฉยเมยเหมือนกับตอนแรก แต่กำลังอัดแน่นด้วยความเจ็บปวด ประหนึ่งเพิ่งผ่านการทรมานมาอย่างโหดร้าย

ปากกาขนนก 0-08 ยังคงเขียนต่อไป

“ใครบางคนอาจเสียดาย ใครบางคนอาจยินดีปรีดา อินซ์·แซงวิลล์ตัดสินใจใช้สายสะดือของเทพมารซึ่งได้รับมาจากทารกในครรภ์เมกูสเพื่อเอาตัวรอด สมบัติวิเศษนี้มีออร่าของพระผู้สร้างแท้จริงบรรจุอยู่เจือจาง ช่วยให้อินซ์·แซงวิลล์หนีรอดจากพันธนาการของตัวตนลึกลับซึ่งบังเอิญผ่านมา แต่ถึงอินซ์·แซงวิลล์จะกลับมายังโลกจริงสำเร็จ เขาก็ต้องสูญเสียสมบัติวิเศษแสนมีค่าชั้นดังกล่าวไป ไม่เพียงเท่านั้น เขายังได้รับความเคียดแค้นจากทายาทเทพมาร เนื่องจากทำให้ตนไม่สามารถคืนชีพกลับมาได้อีกครั้ง เหตุการณ์ข้างต้นทำให้พลังของอินซ์·แซงวิลล์ลดลงเหมือนกับป้ายราคาเสื้อผ้าในช่วงเปลี่ยนฤดูกาล… ถูกต้อง ลดแลกแจกแถมมากถึงห้าสิบห้าเปอร์เซ็นต์ พลังในปัจจุบันของเขาเหลือเท่ากับตัวเลขดังกล่าวพอดิบพอดี”

บนถนนลึกเข้าไปในเขตตะวันออก

เฒ่าโคห์เลอร์รีบร้อนเดินกลับห้องเช่าพร้อมถุงกระดาษบรรจุแฮมในมือ

มันมองไปรอบตัวอย่างหวาดระแวง วิตกกังวลว่าจะถูก ‘หมาป่า’ รอบ ๆ กระโจนเข้าขย้ำและขโมยของขวัญปีใหญ่ของตนไป

มันเคยเห็นหมาป่าตัวจริงมาแล้วในแถบชนบท แต่ด้วยเหตุผลบางประการ มันกลับรู้สึกแบบเดียวกันภายในกรุงเบ็คลันด์

…ก็ยังแพงอยู่ดี ถึงเราจะหารกับคนอื่นเพื่อซื้อมันมาแบ่งกันก็ตาม…

แต่ปริมาณเท่านี้ก็เพียงพอสำหรับวันหยุดยาวในช่วงปีใหม่ เราสามารถฝานกินได้มื้อละสองชิ้น… หรือว่าสาม… ไม่สิ… ต้องห้าชิ้น! นอกจากนั้น เรายังสามารถฝานส่วนเกินเพื่อนำไปต้มกับมันฝรั่งได้ แค่นี้ก็อร่อยเหาะโดยไม่ต้องใส่เกลือ…

ด้วยความคิดดังกล่าว เฒ่าโคห์เลอร์จ้องมองแฮมในถุงกระดาษ ส่วนไขมันสีขาวแทรกตามเนื้อสีแดง ได้ทำให้ลูกกระเดือกของมันขยับขึ้นลงโดยไม่รู้ตัว

ขณะย่างกรายไปตามถนน โคห์เลอร์เริ่มตระหนักว่าหมอกควันรอบตัวหนาแน่นขึ้นอย่างผิดธรรมชาติ หอนาฬิกาของวิหารซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกล เริ่มถูกบดบังด้วยหมวกควันสีเหล็กดำผสมเหลืองซีด ทัศนวิสัยเริ่มย่ำแย่สถานหนัก ถึงขั้นมองผู้คนรอบตัวไม่ถึงสิบเมตรเห็นเพียงเงาลาง

ขณะกำลังเลื่อนฝ่ามือขึ้นมาปิดจมูก โคห์เลอร์รู้สึกราวกับตนถูกตัดขาดจากโลกภายนอกทีละนิด

“ทำไมหมอกวันนี้ถึงมีกลิ่นแย่นัก” มันพึมพำพร้อมกับเร่งฝีเท้า

หนึ่งก้าว. สองก้าว. สามก้าว.

โคห์เลอร์รู้สึกร้อนศีรษะกะทันหัน ลำคอเกิดอาการแสบทรวงราวกับกำลังลุกไหม้

หน้าอกแน่น หลอดลมตีบตัน จนกระทั่งเริ่มหายใจได้ยากลำบาก

เราป่วย…? บ้าจริง! อุตส่าห์คาดหวังปีใหม่แสนสุขเอาไว้ แต่กลับต้องใช้เงินเก็บไปกับค่ารักษาตัวในโรงพยาบาล… ไม่สิ บางที การได้นอนสักตื่นอาจทำให้ไข้หายไปเอง ใช่แล้ว ผ้าห่มผืนหนาต้องช่วยบรรเทาได้แน่!

โคห์เลอร์พึมพำกับตัวเองเงียบงัน หน้าผากชายชราเริ่มร้อนขึ้นทุกขณะ สมองออกอาการล่องลอยและคิดไม่ปะติดปะต่อ

แฮ่ก. แฮ่ก. แฮ่ก.

มันได้ยินเสียงลมหายใจติดขัดของตัวเองอย่างแจ่มชัด ท่อนแขนปราศจากเรี่ยวแรงจนถุงกระดาษใส่แฮมร่วงหล่นลงบนพื้น

ตามสัญชาตญาณ โคห์เลอร์รีบโน้มตัวก้มเก็บ แต่มันกลับเสียหลักล้มลงไปแทน

ชายชรานอนกอดถุงแฮมไว้ในอ้อมแขน

ในวินาทีนี้ โคห์เลอร์ตระหนักว่าอ้วกกำลังดันขึ้นมาจนถึงลำคอ มันฝืนเกร็งข่มเอาไว้จนของเหลวเริ่มไหลย้อนกลับลงไป แต่ผลลัพธ์กลับยิ่งทำให้หายใจหอบด้วยสีหน้าอ่อนเพลีย

ตุ้บ!

โคห์เลอร์มองผ่านสายตาอันพร่ามัวของตนและพบว่า ถัดไปไม่กี่ก้าวด้านหน้า ชายคนหนึ่งทิ้งตัวล้มลงพร้อมกับหายใจหอบอย่างหมดสภาพ อายุอานามไม่ต่างจากตนมากนัก

ราวห้าสิบ จอนตรงขมับสีขาวหงอก

โคห์เลอร์เริ่มตระหนักว่าตนกำลังจะตาย

มันหวนนึกถึงภรรยาและลูกชาย ผู้เคยเป็นเหมือนกับมันในตอนนี้ ต้องเสียชีวิตไปด้วยโรคระบาดร้ายแรงอย่างกะทันหัน

มันหวนนึกถึงช่วงเวลาขณะรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล คนไข้เตียงใกล้กัน ตกเย็นยังพูดคุยกันอย่างอารมณ์ดีสลับหัวเราะเฮฮา แต่เช้าวันถัดมากลับถูกส่งเข้าห้องดับจิต

มันหวนนึกถึงเพื่อนซึ่งมีโอกาสได้รู้จักกันขณะยังเป็นคนเร่ร่อน หลายต่อหลายคนหายตัวไปหลายวันในช่วงฤดูหนาว ก่อนจะถูกพบตัวอีกครั้งในสภาพแข็งทื่อตามจุดต่าง ๆ ของเมือง ไม่ว่าจะเป็นบริเวณใต้สะพานหรือซากอาคารร้าง คนเหล่านั้นคิดว่ากำบังหนึ่งแผ่นจะช่วยให้ตนรอดพ้นจากความหนาวเย็นไปได้ แต่ความจริงแล้วไม่ และยังมีเพื่อนบางส่วนเสียชีวิตไปเพราะรีบกินอาหารเกินไป

มันหวนนึกถึงสมัยตนยังเป็นคนงานฝีมือดี โคห์เลอร์เคยมีเพื่อนร่วมงานเสียชีวิตอย่างกะทันหันบ่อยครั้ง ไม่ว่าจะตายเพราะปวดหัวเฉียบพลัน ตายเพราะพลัดตกลงไปในบ่อหลอมเหล็กร้อนระอุ ตายเพราะความเจ็บปวด ตายเพราะโรคภัย และบางคนฟุบหลับไปในโรงงานและไม่ตื่นขึ้นอีกเลย

มันหวนนึกถึงขี้เมาในผับ ซึ่งตนเคยเลี้ยงเหล้าเพื่อแลกกับการให้อีกฝ่ายเปิดเผยข้อมูลความลับ

“คนอ่อนแออย่างพวกเราเปรียบดังฟางข้าวแห้ง ล้มลงเพียงเพราะเพียงสายลมบางเบาพัดผ่าน หรืออาจไม่ต้องมีลมช่วย ฟางข้าวก็สามารถล้มลงได้เองอย่างง่ายดาย”

สายลมกำลังพัดมา…

โคห์เลอร์พึมพำ

มือข้างหนึ่งยังคงกอดถุงกระดาษใส่แฮมแน่นถนัด อีกข้างล้วงแจ็คเก็ตตัวเก่าเพื่อควานหาซากบุหรี่ยับยู่ยี่ซึ่งมันเก็บไว้ดูต่างหน้า

โคห์เลอร์ไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมร่างกายค่อนข้างแข็งแรงของตนถึงป่วยไข้อย่างกะทันหันขึ้นมาได้ หมอกเช่นนี้มิใช่เพิ่งเคยเกิดขึ้นในเบ็คลันด์สักหน่อย

มันไม่เข้าใจว่า ทำไมชีวิตอันกำลังจะไปได้สวยของตน ต้องล้มป่วยและกลับไปเป็นคนน่าสมเพชอีกครั้ง มันเพิ่งได้รับค่าจ้างล่วงหน้าก้อนโตมาจากนักสืบโมเรียตี้ เงินดังกล่าวถูกนำไปใช้ซื้อแฮมชุ่มฉ่ำเพื่อเตรียมฉลองปีใหม่ โดยยังไม่มีโอกาสได้ลิ้มรสแม้แต่คำเดียว

เฒ่าโคห์เลอร์ล้วงบุหรี่ยับย่นออกจากกระเป๋า แต่มันไม่เหลือเรี่ยวแรงสำหรับกระทำสิ่งใดต่อ ท่อนแขนสองข้างพาดไปบนพื้นอย่างไร้การควบคุม

พละกำลังเฮือกสุดท้ายถูกใช้ไปกับการเปล่งถ้อยคำอันคับแค้นในใจ แต่ด้วยร่างกายแสนอ่อนแอ มันจึงไม่สามารถแข็งใจกล่าวให้จบประโยค

เสียงเล็ดลอดออกไปเพียงครึ่งคำ

เป็นคำถามซึ่งต้องการคำตอบ

“ทำไม…”

ณ บ้านพักหลังหนึ่งสุดขอบเขตตะวันออก

ไลฟ์แขวนผ้าชิ้นสุดท้ายและรอให้แห้ง

สายตาหญิงสาวมองขึ้นไปยังท้องฟ้าหม่นหมองด้านนอก ไลฟ์ไม่สามารถระบุเวลาได้เลย เนื่องจากเมฆหมอกหนาทึบผิดปรกติเกินไปจนมองไม่เห็นแสงแดด

“แต่ไม่ว่าจะกี่โมง พวกเราก็ซักผ้าเสร็จเร็วกว่าปรกติค่อนข้างมาก…” สีหน้าไลฟ์อึมครึมขณะกล่าว

สำหรับเธอ การเสร็จงานเร็วไม่ใช่เรื่องดี เพราะจะหมายความว่า วันนี้มีงานเข้าไม่มาก ส่งผลให้ไม่มีเงินเพียงพอสำหรับจุนเจือครอบครัว

ไลฟ์สูดลมหายใจยาว เธอหันหลังกลับและมองไปยังบุตรสาวคนโต เฟรย่า ผู้กำลังล้างมือพลางจ้องสมุดคำศัพท์ในห้องนอนตัวเอง

“ใกล้ปีใหม่แล้ว ลูกค้าส่วนใหญ่มักอำลาเบ็คลันด์และใช้เวลาหยุดยาวในเมืองอื่น แม่จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้ จำเป็นต้องหางานใหม่มาเสริม”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ