ทำไมถึงจ้องกันด้วยสายตาแบบนั้น…
เรามีเพื่อนเป็นผีดูดเลือดไม่ได้รึไง…
ควรแก้ตัวดีไหม… ไม่สิ เป็นผีดูดเลือดแล้วมันผิดอะไร! เราคือผีดูดเลือด และภูมิใจในการเป็นผีดูดเลือด! เผ่าพันธุ์เรามีประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีชีวิตยืนยาว และเต็มไปด้วยมรดกตกทอดจากบรรพชน! ไม่มีเผ่าพันธุ์ใดทรงเกียรติเท่ากับผีดูดเลือดอีกแล้ว!
พวกเจ้าทุกคนก็มิได้วิเศษวิโสเช่นกัน! เพียงซื้อขายกันด้วยสิ่งของไม่เกินลำดับ 6!
หลังจากครุ่นคิดสักพัก เอ็มลินเชิดคางขึ้นและกล่าวอย่างมั่นใจ
“เข้าใจถูกแล้ว ข้าคือผีดูดเลือดแท้”
ไม่มีใครถามสักหน่อย… มิสเตอร์มูนคงเข้าสังคมไม่เก่ง และไม่มั่นใจในตัวเอง ส่งผลให้มีพฤติกรรมโฉ่งฉ่างไปนิด…
ออเดรย์วิเคราะห์อย่างใจเย็น
ผีดูดเลือดตัวจริง…
ฟอร์สซักถามด้วยความใครรู้
“มิสเตอร์มูน ผีดูดเลือดเลียนแบบบรรดาศักดิ์ขุนนางของมนุษย์ตามความแข็งแกร่งและอำนาจใช่ไหม ตัวอย่างเช่นดยุค ไวเคาต์ เอิร์ล และบารอน”
“ผิดแล้ว ฝ่ายลอกเลียนแบบคือพวกมนุษย์ต่างหาก!” เอ็มลินเปลี่ยนท่านั่ง “ย้อนกลับไปในสมัยอดีตกาลก่อนยุคสมัยมหาภัยพิบัติ และก่อนยุคสมัยที่สองด้วยซ้ำ ผีดูดเลือดของพวกเราได้ใช้บรรดาศักดิ์เช่นนี้มานานแล้ว
“เรียงจากผีดูดเลือดวัยเยาว์ กลุ่มนี้ยังควบคุมพลังของตัวเองได้ไม่ชำนาญ ผีดูดเลือดโตเต็มวัย เหมือนกับข้า หลังจากนั้นจะเป็นบรรดาศักดิ์ไล่ตั้งแต่บารอนไปจนถึงดยุค เหนือดยุคยังมีองค์ชายผีดูดเลือดและราชินีผีดูดเลือด ในสมัยนั้น มนุษย์ยังเป็นแค่ทาสของคนยักษ์ อยู่ภายใต้การปกครองของราชาคนยักษ์ เออร์เมียร์ แล้วจะไปมีบรรดาศักดิ์ขุนนางได้อย่างไร!”
เมื่อสิ้นเสียง เดอร์ริคด้านข้างรีบโพล่งขึ้น
“เมืองเงินพิสุทธิ์ของพวกเราไม่เคยมีเรื่องแบบนั้นถูกบันทึกไว้! ผีดูดเลือดเพิ่งถูกจำแนกอย่างละเอียดเป็นครั้งแรกหลังจากศิลาเย้ยเทพแผ่นแรกปรากฏตัวขึ้นมา แต่ก่อนหน้านั้น ผีดูดเลือดจะถูกตีกรอบไว้อย่างกว้างๆ ตามลักษณะพฤติกรรม อาจมีบางส่วนถูกเรียกตามบรรดาศักดิ์ขุนนาง พบได้ในบางตระกูลหรือในผู้ปกครองเมืองใหญ่เท่านั้น โดยลำดับชั้นสูงสุดคือต้นตระกูลผีดูดเลือด ลิลิธ แต่ในช่วงหลังเริ่มมีการจำแนกตามลำดับและชื่อของโอสถ มิใช่บรรดาศักดิ์ขุนนาง”
ได้ยินเช่นนั้น เอ็มลินเย้ยหยันกลับไป
“ประวัติศาสตร์ของผีดูดเลือดถูกเขียนผ่านอายุขัยอันยาวนาน มิใช่เรื่องแต่งเติมส่งเดชของเมืองเล็กๆ นามว่าเงินพิสุทธิ์!”
เดี๋ยวก่อน… สมาชิกในชุมนุมพูดถึงเมืองเงินพิสุทธิ์บ่อยครั้ง แต่มันอยู่ตรงไหนกันแน่? ทำไมเราถึงไม่เคยได้ยินเชื่อ…
หลังจากพ่นลมหายใจ เอ็มลินเริ่มตระหนักว่าตนมองข้ามสิ่งสำคัญบางเรื่องไป
“เมืองเงินพิสุทธิ์ของเรามิได้แต่งเรื่องขึ้นมาอย่างส่งเดช! แต่อ้างอิงจากหนังสือโบราณซึ่งถูกพิสูจน์ความถูกต้องแล้ว หรือไม่ก็เอกสารสำคัญจากซากอารยธรรมของเมืองอื่น”
เดอร์ริคเน้นย้ำ สีหน้าเผยความขุ่นเคือง
ถ้าไม่มีใครห้ามศึก เกรงว่าคงได้เถียงกันจนกระทั่งชุมนุมทาโรต์หมดเวลาแน่… แม้ว่าเดอะซันจะเป็นเด็กหนุ่มซื่อตรง จริงใจ และยึดมั่นในคุณธรรม แต่ขณะเดียวกันก็หัวรั้นและไม่ยอมคน ในทางกลับกัน มิสเตอร์มูนเองก็ยึดถือกับประวัติศาสตร์ของผีดูดเลือดมาก…
ออเดรย์ทำตัวเป็นผู้ชมอย่างสนอกสนใจ
ทันใดนั้น อัลเจอร์แทรก
“ผมทราบวิธีเพิ่มลำดับพลังให้ผีดูดเลือด”
ความสนใจของเอ็มลินหันเหทันที
“เอ่อ… มิสเตอร์แฮงแมน เจ้าต้องการแลกเปลี่ยนด้วยสิ่งใด ข้ายินดีเล่าประวัติศาสตร์ของผีดูดเลือดให้ฟังเป็นการแลกเปลี่ยน”
อัลเจอร์เผยรอยยิ้ม
“ไม่จำเป็น พวกเราทุกคนล้วนเป็นสมาชิกชุมนุมทาโรต์เหมือนกัน ข้อมูลเช่นนี้ไม่มีการคิดราคาให้เสียน้ำใจ”
มิสเตอร์แฮงแมนช่างเป็นคนดีมีน้ำใจ…
เอ็มลินเริ่มประเมินอุปนิสัยของอีกฝ่าย
“ขอบคุณสำหรับความใจกว้าง”
อัลเจอร์กล่าวหลังจากครุ่นคิดสองวินาที
“ผีดูดเลือดสามารถเลื่อนลำดับได้โดยการดื่มโอสถเช่นเดียวกับมนุษย์ แต่โอสถต้องสอดคล้องกับพลังในปัจจุบัน ทางโบสถ์หลักเคยทดลองในเรื่องนี้และพบว่า การดื่มโอสถสามารถทำให้ผีดูดเลือดพัฒนาลำดับได้เหมือนกับการประทานจากอาวุโส แต่ผมก็ไม่ทราบรายละเอียดมากนัก”
“แต่วัตถุดิบหลักโอสถเหล่านั้นมาจากการเข่นฆ่าพี่น้องของข้า!” เอ็มลินปฏิเสธเสียงแข็ง
แฮงแมนยิ้มรับ
“ไม่เสมอไปสักหน่อย ตัวอย่างเช่น ผมมีเบาะแสของตะกอนบารอนผีดูดเลือด เขาล้มป่วยกะทันหันและไม่มีเวลามอบตะกอนพลังให้กับทายาท หากคุณนำไปใช้ จะเท่ากับเป็นการอนุรักษ์ให้พลังของผีดูดเลือดยังคงอยู่กับตระกูล ดีกว่าปล่อยให้ตกอยู่ในมือมนุษย์อย่างสูญเปล่า”
ตะกอนพลังดังกล่าวเป็นสมบัติของโจรสลัดชื่อดังซึ่งอัลเจอร์ได้ฟังรายละเอียดมาอีกทอดหนึ่ง เป็นเพราะอีกฝ่ายยังไม่ทราบลำดับของวัตถุดิบ จึงไม่กล้าค้าขายอย่างส่งเดช และยังไม่มีช่างมือคนใดรับไปประเมินราคาหรือสร้างเป็นสมบัติวิเศษ
การดื่มโอสถจะทำให้พลังของผีดูดเลือดไหลเวียนอยู่ในตระกูล… สมเหตุสมผลมาก…
เอ็มลินพบว่าคำพูดของแฮงแมนไม่มีข้อบกพร่องในเชิงตรรกะ จึงซักถามอย่างสนใจ
“ราคาเท่าไร”
อัลเจอร์ยังคงยิ้ม
“ระหว่างสี่พันถึงห้าพันปอนด์ ผมไม่ทราบราคาชัดเจน ต้องสอบถามคนขายให้แน่ใจอีกครั้ง”
ในความเป็นจริง มันยังไม่เคยสอบถามราคาจากโจรสลัดชื่อดังคนนั้น แต่ขอเพียงไม่กดราคากันเกินไป บรรดาโจรสลัดก็ไม่เข้มงวดเรื่องการ ‘ปล่อยของ’ มากนัก เพราะสมบัติของพวกมันเกือบทุกชิ้นจะ ‘ไม่มีต้นทุน’
“ห้าพันปอนด์…” เอ็มลินทวนคำ
ด้วยเงินก้อนใหญ่เช่นนี้ เราสามารถนำไปซื้อตุ๊กตาตัวเด็ดซึ่งหมายตามานาน แถมยังเหลือพอจะซื้อเสื้อผ้าตกแต่งอีกหลายชุด!
ความคิดแวบแรกในหัวเอ็มลินคือการคัดค้าน แต่เมื่อใจเย็นลงและเริ่มตระหนักว่าบรรพชนผีดูดเลือดฝากความหวังไว้กับตน มันจำเป็นต้องไตร่ตรองอย่างรอบคอบเพื่อเกียรติยศของตระกูลผีดูดเลือด
อัลเจอร์ไม่กดดัน
“ผมเข้าใจหัวอก การตัดสินใจในคราวนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย จงกลับไปคิดทบทวนเมื่อมีเวลา”
“ตกลง” เอ็มลินถอนหายใจ
มิสเตอร์แฮงแมนนี่ช่าง… ออเดรย์พึมพำ ก่อนจะหันไปทางเดอะมูนและสมาชิกคนอื่น
“สุภาพบุรุษและสุภาพสตรีทั้งหลาย ท่านใดมีเบาะแสของผลต้นคนชราและโลหิตของมังกรกระจกบ้าง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ