ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ นิยาย บท 488

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 488 : ค่าครองชีพ
ราชันเร้นลับ 488 : ค่าครองชีพ
โดย
Ink Stone_Fantasy
จองสมบัติวิเศษล่วงหน้า?

อัลเจอร์มึนงงหลายวินาที ก่อนจะตระหนักถึงความนัยแฝงจากมิสจัสติส

ความคิดของมันกำลังเปิดกว้าง คล้ายกับได้สัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่

สรุปโดยสั้น ตะกอนพลังซึ่งเดอะเวิร์ลฝากเราขายได้ถูกจองเรียบร้อย โดยปลายทางคือการนำไปแปรรูปเป็นสมบัติวิเศษ…

หมายความว่า งานของเราจะสะดวกขึ้นและทำกำไรง่ายขึ้นมาก จากแต่เดิม เราต้องขายตะกอนพลังด้วยการตระเวนหาว่า มีช่างฝีมือคนใดต้องการซื้อตะกอนพลังไปทำเป็นสมบัติวิเศษบ้าง แต่ปัจจุบัน เราเพียงต้องตระเวนหาช่างฝีมือเพื่อ ‘จ้างทำ’ สมบัติวิเศษ จึงค่อยนำผลลัพธ์ไปขายต่อให้มิสจัสติส…

งานของเรามีแค่การเสียเวลาหาช่างฝีมือและออกค่าใช้จ่ายในการสร้าง เท่านี้ก็สามารถทำกำไรมหาศาล… แต่แน่นอน ฝ่ายเราต้องแบกรับความเสี่ยงเกี่ยวกับช่างฝีมือเอง…

ท่ามกลางชุดความคิดมากมาย อัลเจอร์คำนวณหาผลดีผลเสียของข้อเสนอจนกระทั่งได้ข้อสรุปสุดท้าย

“ตกลง ให้ผมจัดการเอง” มันหันไปจ้องจัสติสด้วยสายตาราวกับกำลังเพ่งมองแท่งทองอันเจิดจ้า

หลังจากเข้าร่วมโบสถ์วายุสลาตันและล่องทะเลมานานหลายปี อัลเจอร์ไม่เคยพบใครเหมือนกับเธอมาก่อน

จริงอยู่ บนเกาะอาณานิคมอาจมีพ่อค้ามั่งคั่งเดินทางไปแสวงหาโอกาสจำนวนไม่น้อย แต่ก็ไม่มีใครใช้จ่ายเงินทองต่างน้ำเท่าจัสติส

สภาพคล่องทางการเงินของเธอดีขึ้นถึงขั้นนี้แล้วหรือ?

ด้านไคลน์ก็กำลังประหลาดใจไม่ต่าง

ชั่วขณะหนึ่ง มันเกิดความคิดจะทวงเงินสองพันปอนด์ให้ข้ารับใช้เดอะฟูลขึ้นมา แต่หลังจากใจเย็นลงและตั้งสติ ชายหนุ่มยังไม่ลืมว่าเดอะฟูลอนุญาตให้เธอชำระเงินคืนในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม หากกลับกลอกอาจทำให้เสียภาพพจน์

อย่างน้อย เราก็กำลังจะทำเงินได้จากตะกอนพลังของผู้ไร้หน้า เร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับว่าแฮงแมนติดต่อช่างฝีมือเมื่อไร และอีกฝ่ายมีความเร็วในการผลิตเป็นอย่างไร… น่าเสียดาย ถ้ารู้เช่นนี้แต่แรก เราคงขายตะกอนพลังให้เธอโดยตรง จากนั้นค่อยให้เธอไปว่าจ้างแฮงแมนเอาเอง…

ไคลน์เริ่มลังเลว่า ตนควรถอนคำพูดกับแฮงแมนและนำตะกอนพลังไปขายให้จัสติสโดยตรงดีหรือไม่

แต่สุดท้ายก็เลือกจะรักษามารยาทไว้

เมื่อการเจรจาได้ข้อสรุป อัลเจอร์หายใจทั่วท้องอย่างผ่อนคลาย เนื่องจากสภาพคล่องทางการเงินของมันกำลังฟื้นตัวทีละนิด

หลังจากครุ่นคิดสักพัก มันซักถามต่อ

“สุภาพบุรุษและสุภาพสตรีทั้งหลาย มีใครในหมู่พวกคุณ ทราบวิธีทำให้ทุกคนบนเรือหลับสนิทพร้อมกันหรือไม่”

เหตุผลให้อัลเจอร์ยังไม่เดินทางไปยังเกาะนอกอาณานิคมเพื่อล่าเหยี่ยวเงาฟ้า เพราะมันยังไม่พบวิธีแอบออกจากโทสะสีครามอย่างลับๆ ขณะมีลูกเรือและกะลาสีกว่าสิบชีวิตจากโบสถ์วายุสลาตันร่วมโดยสารมาด้วย

วิธีทำให้ทุกคนบนเรือหลับ?

ความคิดแวบแรกในหัวไคลน์คือการใช้ขวดพิษชีวภาพ แต่ผลลัพธ์จะอยู่นอกเหนือการควบคุมโดยสิ้นเชิง จึงเกรงว่าอาจไม่ใช่วิธีถูกต้องนัก

ถัดมา ชายหนุ่มหวนนึกถึงพลัง ‘ฝันร้าย’ ภายในยุบพองหิวโหย การดึงเหยื่อให้ตกอยู่ในภวังค์หลับลึกถือเป็นจุดเด่นของเส้นทางดังกล่าว

แต่ปัญหาคือ ต่อให้เป็นลำดับ 7 ฝันร้ายตัวจริง ก็ยังไม่สามารถทำให้ผู้โดยสารจำนวนมากตกอยู่ในภวังค์หลับลึกพร้อมกันได้ หากจะให้เข้าเงื่อนไขของแฮงแมน บางทีอาจต้องใช้เส้นทางเดียวกันในลำดับ 5 หรือไม่ก็ต้องเป็นครึ่งเทพขึ้นไป…

ไคลน์กลืนคำตอบลงคอและมิได้บังคับให้เดอะเวิร์ลกล่าวสิ่งใด

ขณะเดียวกัน ออเดรย์ ฟอร์ส และเดอร์ริค ต่างก็ส่ายหน้าพร้อมกันเป็นเชิง ‘ไม่’

เอ็มลินทำหน้านึก

“ข้าสามารถถามให้ได้ เพราะบางที พวกเราผีดูดเลือดอาจมีสมบัติวิเศษประเภทดังกล่าวเหลืออยู่ภายในตระกูล”

เขาพูดว่า ‘พวกเราผีดูดเลือด’ บ่อยครั้ง… ในอนาคต เราสามารถกุมจุดอ่อนของเขาได้จากการใช้คำในลักษณะนี้…

อัลเจอร์พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม

“คงต้องรบกวนคุณแล้ว”

เมื่อเห็นว่าการแลกเปลี่ยนใกล้จบลง ไคลน์บังคับเดอะเวิร์ลกล่าวความต้องการสุดท้าย

“ทุกคน รบกวนช่วยจับตามองพลังวิญญาณตกค้างของวิญญาณอาฆาตโบราณ และดวงตาการ์กอยล์หกปีกให้ผมด้วย”

นอกเหนือจากวัตถุดิบหลัก ไคลน์สามารถหาวัตถุดิบรองได้เองโดยไม่ต้องพึ่งพาชุมนุมทาโรต์

“ตกลง” เดอร์ริคตอบสนองเป็นคนแรก จากนั้นก็เสริมด้วยสีหน้าเจือความสำนึกผิด

“มิสเตอร์เวิร์ล ในส่วนของวิธีขจัดการกัดกร่อนทางจิตออกจากตะกอนพลังปนเปื้อน ผมยังต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะมีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลดังกล่าว ตอนนี้กำลังเร่งพัฒนาตัวเองให้เป็นลำดับ 7 อย่างสุดความสามารถแล้ว”

เมื่อกล่าวจบ เด็กหนุ่มหันไปมองด้านข้าง

“มิสเตอร์แฮงแมน ไว้ให้ผมเดินทางกลับถึงเมืองเงินพิสุทธิ์ก่อน แล้วจะรีบจดรายชื่อของสัตว์ประหลาดโดยรอบให้ทันที”

เดอร์ริคไล่ทบทวนหนี้ตกค้างของตนโดยไม่ปล่อยให้ตกหล่นใครไป คล้ายกับสิ่งเหล่านี้คอยตามหลอกหลอนจนมันนอนไม่หลับมาตลอดหลายวัน

“ไม่มีปัญหา” เดอะเวิร์ลตอบเสียงเรียบ

ทางด้านไคลน์เองก็ไม่รีบร้อน ยังอีกนานกว่าจะย่อยโอสถผู้ไร้หน้าสมบูรณ์ ไม่สิ ยังหากฎและเทคนิคสวมบทบาทไม่ได้ด้วยซ้ำ

กระบวนการย่อยเพิ่งเริ่มต้นขึ้น จึงยังเหลือเวลาอีกหลายเดือนกว่าจะใช้วัตถุดิบหลักของโอสถนักเชิดหุ่น

ดังนั้น แผนออกทะเลของชายหนุ่มจึงไม่ใช่การเดินทางตรงดิ่งไปยังหมู่เกาะการ์กัสทันที ตรงกันข้าม ไคลน์จะทำตัวเป็นนักผจญภัย และท่องเที่ยวสลับทำงานตามหมู่เกาะอาณานิคมต่างๆ พลางหาโอกาสปลอมตัวเป็นคนอื่นเพื่อย่อยโอสถผู้ไร้หน้าอย่างต่อเนื่อง

ระหว่างการเดินทาง มันจะรวบรวมข้อมูลของนางเงือกอย่างละเอียดอีกครั้ง สืบเนื่องมาจาก โบสถ์รัตติกาลได้ครอบครองและเลี้ยงดูนางเงือกไว้เป็นอย่างดี ชายหนุ่มจึงเริ่มระแวงว่าทางโบสถ์อาจวางกับดักบางชนิดไว้หลอกล่อผู้ไร้หน้าแถวหมู่เกาะการ์กัส

ในอีกความหมายหนึ่ง ไคลน์เตรียมใช้เวลาสองถึงสามเดือนถัดจากนี้เพื่อท่องเที่ยวไปรอบทะเลโซเนียอย่างไม่รีบร้อน นานพอจะให้เดอะซันรวบรวมวัตถุดิบหลักโอสถเพื่อเลื่อนเป็นลำดับ 7 ‘ข้ารับใช้สุริยัน’ และมีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลระดับสูง

เมื่อช่วงเวลาค้าขายจบลง ชุมนุมทาโรต์ย่างเข้าสู่ช่วงเวลาแลกเปลี่ยนข้อมูลอิสระ

ออเดรย์ไม่ทำให้แฮงแมนผิดหวัง เธอลุกยืนและโค้งคำนับไปทางมุมโต๊ะทองแดงยาว

“ท่านเดอะฟูลผู้ยิ่งใหญ่ ดิฉันอยากทราบความจริงเบื้องหลังโศกนาฏกรรมมหาหมอกควันแห่งเบ็คลันด์ ความจริงมีเพียงแค่ นิกายชั่วร้ายต้องการปลุกให้แม่มดบรรพกาลลืมตาตื่นขึ้น รวมถึงต้องการให้พระผู้สร้างแท้จริงลงมาจุติเท่านั้นหรือคะ? แล้วทำไมองค์ชายเอ็ดซัคถึงยอมร่วมมือ …จากกฎการแลกเปลี่ยนอันเท่าเทียม ท่านต้องการสิ่งใดเป็นการแลกเปลี่ยนกับข้อมูลในคราวนี้หรือคะ”

ถ้าเรารู้ ปัญญาก็คงถูกแก้ไขไปนานแล้ว…

นักต้มตุ๋นไคลน์ผ่อนคลายอิริยาบถเล็กน้อย ตามด้วยการหัวเราะในลำคอ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ