อัลเจอร์มึนงงหลายวินาที ก่อนจะตระหนักถึงความนัยแฝงจากมิสจัสติส
ความคิดของมันกำลังเปิดกว้าง คล้ายกับได้สัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่
สรุปโดยสั้น ตะกอนพลังซึ่งเดอะเวิร์ลฝากเราขายได้ถูกจองเรียบร้อย โดยปลายทางคือการนำไปแปรรูปเป็นสมบัติวิเศษ…
หมายความว่า งานของเราจะสะดวกขึ้นและทำกำไรง่ายขึ้นมาก จากแต่เดิม เราต้องขายตะกอนพลังด้วยการตระเวนหาว่า มีช่างฝีมือคนใดต้องการซื้อตะกอนพลังไปทำเป็นสมบัติวิเศษบ้าง แต่ปัจจุบัน เราเพียงต้องตระเวนหาช่างฝีมือเพื่อ ‘จ้างทำ’ สมบัติวิเศษ จึงค่อยนำผลลัพธ์ไปขายต่อให้มิสจัสติส…
งานของเรามีแค่การเสียเวลาหาช่างฝีมือและออกค่าใช้จ่ายในการสร้าง เท่านี้ก็สามารถทำกำไรมหาศาล… แต่แน่นอน ฝ่ายเราต้องแบกรับความเสี่ยงเกี่ยวกับช่างฝีมือเอง…
ท่ามกลางชุดความคิดมากมาย อัลเจอร์คำนวณหาผลดีผลเสียของข้อเสนอจนกระทั่งได้ข้อสรุปสุดท้าย
“ตกลง ให้ผมจัดการเอง” มันหันไปจ้องจัสติสด้วยสายตาราวกับกำลังเพ่งมองแท่งทองอันเจิดจ้า
หลังจากเข้าร่วมโบสถ์วายุสลาตันและล่องทะเลมานานหลายปี อัลเจอร์ไม่เคยพบใครเหมือนกับเธอมาก่อน
จริงอยู่ บนเกาะอาณานิคมอาจมีพ่อค้ามั่งคั่งเดินทางไปแสวงหาโอกาสจำนวนไม่น้อย แต่ก็ไม่มีใครใช้จ่ายเงินทองต่างน้ำเท่าจัสติส
สภาพคล่องทางการเงินของเธอดีขึ้นถึงขั้นนี้แล้วหรือ?
ด้านไคลน์ก็กำลังประหลาดใจไม่ต่าง
ชั่วขณะหนึ่ง มันเกิดความคิดจะทวงเงินสองพันปอนด์ให้ข้ารับใช้เดอะฟูลขึ้นมา แต่หลังจากใจเย็นลงและตั้งสติ ชายหนุ่มยังไม่ลืมว่าเดอะฟูลอนุญาตให้เธอชำระเงินคืนในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม หากกลับกลอกอาจทำให้เสียภาพพจน์
อย่างน้อย เราก็กำลังจะทำเงินได้จากตะกอนพลังของผู้ไร้หน้า เร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับว่าแฮงแมนติดต่อช่างฝีมือเมื่อไร และอีกฝ่ายมีความเร็วในการผลิตเป็นอย่างไร… น่าเสียดาย ถ้ารู้เช่นนี้แต่แรก เราคงขายตะกอนพลังให้เธอโดยตรง จากนั้นค่อยให้เธอไปว่าจ้างแฮงแมนเอาเอง…
ไคลน์เริ่มลังเลว่า ตนควรถอนคำพูดกับแฮงแมนและนำตะกอนพลังไปขายให้จัสติสโดยตรงดีหรือไม่
แต่สุดท้ายก็เลือกจะรักษามารยาทไว้
เมื่อการเจรจาได้ข้อสรุป อัลเจอร์หายใจทั่วท้องอย่างผ่อนคลาย เนื่องจากสภาพคล่องทางการเงินของมันกำลังฟื้นตัวทีละนิด
หลังจากครุ่นคิดสักพัก มันซักถามต่อ
“สุภาพบุรุษและสุภาพสตรีทั้งหลาย มีใครในหมู่พวกคุณ ทราบวิธีทำให้ทุกคนบนเรือหลับสนิทพร้อมกันหรือไม่”
เหตุผลให้อัลเจอร์ยังไม่เดินทางไปยังเกาะนอกอาณานิคมเพื่อล่าเหยี่ยวเงาฟ้า เพราะมันยังไม่พบวิธีแอบออกจากโทสะสีครามอย่างลับๆ ขณะมีลูกเรือและกะลาสีกว่าสิบชีวิตจากโบสถ์วายุสลาตันร่วมโดยสารมาด้วย
วิธีทำให้ทุกคนบนเรือหลับ?
ความคิดแวบแรกในหัวไคลน์คือการใช้ขวดพิษชีวภาพ แต่ผลลัพธ์จะอยู่นอกเหนือการควบคุมโดยสิ้นเชิง จึงเกรงว่าอาจไม่ใช่วิธีถูกต้องนัก
ถัดมา ชายหนุ่มหวนนึกถึงพลัง ‘ฝันร้าย’ ภายในยุบพองหิวโหย การดึงเหยื่อให้ตกอยู่ในภวังค์หลับลึกถือเป็นจุดเด่นของเส้นทางดังกล่าว
แต่ปัญหาคือ ต่อให้เป็นลำดับ 7 ฝันร้ายตัวจริง ก็ยังไม่สามารถทำให้ผู้โดยสารจำนวนมากตกอยู่ในภวังค์หลับลึกพร้อมกันได้ หากจะให้เข้าเงื่อนไขของแฮงแมน บางทีอาจต้องใช้เส้นทางเดียวกันในลำดับ 5 หรือไม่ก็ต้องเป็นครึ่งเทพขึ้นไป…
ไคลน์กลืนคำตอบลงคอและมิได้บังคับให้เดอะเวิร์ลกล่าวสิ่งใด
ขณะเดียวกัน ออเดรย์ ฟอร์ส และเดอร์ริค ต่างก็ส่ายหน้าพร้อมกันเป็นเชิง ‘ไม่’
เอ็มลินทำหน้านึก
“ข้าสามารถถามให้ได้ เพราะบางที พวกเราผีดูดเลือดอาจมีสมบัติวิเศษประเภทดังกล่าวเหลืออยู่ภายในตระกูล”
เขาพูดว่า ‘พวกเราผีดูดเลือด’ บ่อยครั้ง… ในอนาคต เราสามารถกุมจุดอ่อนของเขาได้จากการใช้คำในลักษณะนี้…
อัลเจอร์พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
“คงต้องรบกวนคุณแล้ว”
เมื่อเห็นว่าการแลกเปลี่ยนใกล้จบลง ไคลน์บังคับเดอะเวิร์ลกล่าวความต้องการสุดท้าย
“ทุกคน รบกวนช่วยจับตามองพลังวิญญาณตกค้างของวิญญาณอาฆาตโบราณ และดวงตาการ์กอยล์หกปีกให้ผมด้วย”
นอกเหนือจากวัตถุดิบหลัก ไคลน์สามารถหาวัตถุดิบรองได้เองโดยไม่ต้องพึ่งพาชุมนุมทาโรต์
“ตกลง” เดอร์ริคตอบสนองเป็นคนแรก จากนั้นก็เสริมด้วยสีหน้าเจือความสำนึกผิด
“มิสเตอร์เวิร์ล ในส่วนของวิธีขจัดการกัดกร่อนทางจิตออกจากตะกอนพลังปนเปื้อน ผมยังต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะมีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลดังกล่าว ตอนนี้กำลังเร่งพัฒนาตัวเองให้เป็นลำดับ 7 อย่างสุดความสามารถแล้ว”
เมื่อกล่าวจบ เด็กหนุ่มหันไปมองด้านข้าง
“มิสเตอร์แฮงแมน ไว้ให้ผมเดินทางกลับถึงเมืองเงินพิสุทธิ์ก่อน แล้วจะรีบจดรายชื่อของสัตว์ประหลาดโดยรอบให้ทันที”
เดอร์ริคไล่ทบทวนหนี้ตกค้างของตนโดยไม่ปล่อยให้ตกหล่นใครไป คล้ายกับสิ่งเหล่านี้คอยตามหลอกหลอนจนมันนอนไม่หลับมาตลอดหลายวัน
“ไม่มีปัญหา” เดอะเวิร์ลตอบเสียงเรียบ
ทางด้านไคลน์เองก็ไม่รีบร้อน ยังอีกนานกว่าจะย่อยโอสถผู้ไร้หน้าสมบูรณ์ ไม่สิ ยังหากฎและเทคนิคสวมบทบาทไม่ได้ด้วยซ้ำ
กระบวนการย่อยเพิ่งเริ่มต้นขึ้น จึงยังเหลือเวลาอีกหลายเดือนกว่าจะใช้วัตถุดิบหลักของโอสถนักเชิดหุ่น
ดังนั้น แผนออกทะเลของชายหนุ่มจึงไม่ใช่การเดินทางตรงดิ่งไปยังหมู่เกาะการ์กัสทันที ตรงกันข้าม ไคลน์จะทำตัวเป็นนักผจญภัย และท่องเที่ยวสลับทำงานตามหมู่เกาะอาณานิคมต่างๆ พลางหาโอกาสปลอมตัวเป็นคนอื่นเพื่อย่อยโอสถผู้ไร้หน้าอย่างต่อเนื่อง
ระหว่างการเดินทาง มันจะรวบรวมข้อมูลของนางเงือกอย่างละเอียดอีกครั้ง สืบเนื่องมาจาก โบสถ์รัตติกาลได้ครอบครองและเลี้ยงดูนางเงือกไว้เป็นอย่างดี ชายหนุ่มจึงเริ่มระแวงว่าทางโบสถ์อาจวางกับดักบางชนิดไว้หลอกล่อผู้ไร้หน้าแถวหมู่เกาะการ์กัส
ในอีกความหมายหนึ่ง ไคลน์เตรียมใช้เวลาสองถึงสามเดือนถัดจากนี้เพื่อท่องเที่ยวไปรอบทะเลโซเนียอย่างไม่รีบร้อน นานพอจะให้เดอะซันรวบรวมวัตถุดิบหลักโอสถเพื่อเลื่อนเป็นลำดับ 7 ‘ข้ารับใช้สุริยัน’ และมีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลระดับสูง
เมื่อช่วงเวลาค้าขายจบลง ชุมนุมทาโรต์ย่างเข้าสู่ช่วงเวลาแลกเปลี่ยนข้อมูลอิสระ
ออเดรย์ไม่ทำให้แฮงแมนผิดหวัง เธอลุกยืนและโค้งคำนับไปทางมุมโต๊ะทองแดงยาว
“ท่านเดอะฟูลผู้ยิ่งใหญ่ ดิฉันอยากทราบความจริงเบื้องหลังโศกนาฏกรรมมหาหมอกควันแห่งเบ็คลันด์ ความจริงมีเพียงแค่ นิกายชั่วร้ายต้องการปลุกให้แม่มดบรรพกาลลืมตาตื่นขึ้น รวมถึงต้องการให้พระผู้สร้างแท้จริงลงมาจุติเท่านั้นหรือคะ? แล้วทำไมองค์ชายเอ็ดซัคถึงยอมร่วมมือ …จากกฎการแลกเปลี่ยนอันเท่าเทียม ท่านต้องการสิ่งใดเป็นการแลกเปลี่ยนกับข้อมูลในคราวนี้หรือคะ”
ถ้าเรารู้ ปัญญาก็คงถูกแก้ไขไปนานแล้ว…
นักต้มตุ๋นไคลน์ผ่อนคลายอิริยาบถเล็กน้อย ตามด้วยการหัวเราะในลำคอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ