สายลมรุนแรงพัดมาจากร่างบิชอปมิลเลอร์จนชุดคลุมสีน้ำเงินเข้มของมันพัดกระพือ
แกร่ก! แกร่ก! เปรี้ยะ!
กิ่งไม้ในบริเวณใกล้เคียงเริ่มแตกหักและร่วงกราวลงพื้น บางส่วนปลิวกระจัดกระจายลอยไปในอากาศ
ร่างกายดอนน่าลอยสูงขึ้นจากพื้นอย่างมิอาจขัดขืน ก่อนจะกระเด็นไปด้านหลังราวสองสามเมตรและตกกระแทกพื้นด้วยสีหน้าเจ็บปวด
ไม่ใช่แค่เธอ แต่เซซิล แดนตัน ดิเมอดอร์ แฮร์ริส และอีกหลายคน ต่างมีอันต้องลอยไปในอากาศก่อนจะตกกระแทกพื้นระเนระนาด
เหลือเพียงคลีฟส์ ทีก และเออร์ดี้มิได้ลอยขึ้นไป อาจจะด้วยเพราะร่างกายแข็งแรงหรือไม่ก็มีน้ำหนักตัวมาก อย่างไรก็ตาม ทุกคนมีอันต้องเสียหลักล้มกลิ้งสองสามตลบ
ไอร์แลนด์ ผู้ยืนใกล้กับบิชอปมิลเลอร์มากกว่าใคร พยายามตีลังกาถอยหลังเพื่อลดแรงกระแทกและหลีกเลี่ยงการปะทะ
ไคลน์กับเดนิสมิได้ขัดขืนต่อต้าน ปล่อยร่างกายให้ลอยขึ้นตามแรงลม แต่ยังคงรักษาสมดุลไว้ได้อย่างดีเยี่ยม
เมื่อพายุเกรี้ยวกราดหยุดชะงัก ท่ามกลางสายหมอกกระจัดกระจาย เงารางจำนวนหกร่างปรากฏขึ้นรอบตัวมิลเลอร์ ทั้งหมดสวมผ้าคลุมสีดำและปราศจากศีรษะ เผยให้เห็นส่วนลำคอชุ่มเลือดโดยมีสายลมหมุนวนโอบล้อมรอบตัว
แฮ่ก! แฮ่ก!
พวกมันส่งเพียงครางคล้ายกับสัตว์ร้ายเตรียมกระโจนโจมตี
ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!
ใบมีดลม คมและบาง ถูกรัวยิงใส่ในจุดซึ่งไคลน์เคยยืนอยู่
กึก! กึก! กึก!
ถือโคมตะเกียงด้วยมือข้างหนึ่ง มิลเลอร์ในเสื้อคลุมน้ำเงินยกมือขึ้นสองข้าง
ร่างหัวขาดทั้งหกพลันย่ำเท้าปรี่ใส่ไคลน์และไอร์แลนด์จนพื้นดินสั่นสะเทือน
ลำพังสัตว์ประหลาดไร้หัวตัวเดียวยังยาก แต่นี่กลับมาพร้อมกันถึงหก… แถมยังมีบิชอปวิปริตอีกหนึ่ง!
เมื่อเห็นฉากตรงหน้าเต็มสองตา เดนิสพลันเย็นวาบไปถึงกระดูกสันหลัง
ทันใดนั้น วัตถุบางชนิด สีทองแดง พุ่งผ่านหน้าเดนิสจนเกิดเป็นเส้นแสง ก่อนจะลอยไปตกลงในจุดห่างไกล
กริ๊ง! กริ๊ง! กริ๊ง!
นกหวีดทองแดงของอะซิกกระทบพื้นและกระเด้งไปอีกสองสามตลบ
ด้วยเสียงครางในลำคอหนึ่งหน ศพหัวขาดทั้งหกต่างกรูไปรุมทึ้งนกหวีดทองแดงโดยมิได้นัดหมาย ส่งผลให้บิชอปมิลเลอร์ยืนโดดเด่นอยู่ตามลำพัง
ไคลน์ฉวยโอกาสล้วงมือซ้ายเข้าไปหยิบเข็มกลัดสุริยันในเสื้อโค้ทและโยนไปทางกัปตันไอร์แลนด์ซึ่งยืนไม่ห่าง
ปิดท้ายด้วยการตะโกนสั้นกระชับ
“ถ่ายพลังวิญญาณเข้าไปห้าวินาที. น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์.”
จากนั้น ชายหนุ่มไม่แยแสชะตากรรมของหมวกทรงกึ่งสูงบนศีรษะตน เพียงวิ่งซิกแซกซ้ายขวาตรงเข้าหาบิชอปมิลเลอร์อย่างคล่องแคล่ว
ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!
ใบมีดสายลมถูกกระหน่ำยิงเพื่อหยุดยั้งการกระทำของไคลน์
พื้นดินในจุดดังกล่าวแตกร้าวและถูกทำลายจนไม่เหลือเค้าเดิม ไคลน์อาศัยความคล่องตัวของตัวตลกโยกหลบด้วยหลากหลายลูกเล่น ไม่ว่าจะใช้มือยันพื้นเพื่อเบรกจังหวะ หรือการม้วนตัวกลิ้งอันเป็นสิ่งถนัด ส่งผลให้การระดมยิงรอบแรกของบิชอปมิลเลอร์กลายเป็นหมัน
มิลเลอร์ยกแขนสองข้าง ดวงตาสีแดงของมันทวีความสว่างเข้มข้น
ฟุฟุฟุฟุฟุฟุฟุบ!
คมมีดอากาศถูกรัวยิงในจังหวะถี่ยิบยิ่งกว่าปืนกลสมัยใหม่ ไคลน์พยายามหลบหลีกเต็มกลืน แต่ก็ทำสำเร็จเพียงครึ่งเดียว ส่งผลให้ร่างกายถูกเฉือนเข้าอย่างจังจนแปรสภาพกลายเป็นเศษกระดาษฉีกขาดโปรยปราย
ชายหนุ่มโผล่ออกจากอีกฝั่ง ยังคงพุ่งปรี่ใส่บิชอปมิลเลอร์เพื่อลดระยะห่าง พยายามหาทางเข้าถึงขอบเขตการโจมตีให้ได้
…
เมื่อไอร์แลนด์จับเข็มกลัดสุริยัน มันรู้สึกถึงไอความร้อนแสนอบอ้าว และต้องการถอดเสื้อกระโดดลงไปแช่ในบ่อน้ำแข็งทันที
หลังจากนึกทบทวนคำพูดทิ้งท้ายของเกอร์มัน·สแปร์โรว์ ไอร์แลนด์ล้วงหยิบเหยือกดีบุกทรงสี่เหลี่ยมแบนออกมาจากเสื้อโค้ท หมุนคลายเกลียวฝาออก และเท ‘แลงติร้อนแรง’ ทิ้งลงพื้นทั้งหมด กลิ่นเหล้าเข้มข้นโชยหึ่งเตะจมูกคนรอบข้างถ้วนหน้า
เดนิส·เพลิงพิโรธมองไปรอบตัวและเริ่มเข้าใจสถานการณ์
มันคุกเข่าลงหนึ่งข้าง มุมปากฉีกยิ้มกว้าง พร้อมกับนำฝ่ามือทั้งสองนาบกับพื้น
อสรพิษเพลิงสีแดงสองตัวผุดขึ้นจากพื้นดินถัดไปจากด้านหน้าเดนิส ก่อนจะพุ่งไปทางนกหวีดทองแดงอะซิกและก่อตัวเป็นกำแพงไฟสี่ทิศรายล้อม
ในตอนแรก มันคิดจะขว้างลูกไฟไปทางบิชอปมิลเลอร์ เพื่อให้เกอร์มัน·สแปร์โรว์กระโจนเข้าถึงตัวอีกฝ่ายได้เร็วขึ้น แต่หลังจากไตร่ตรองจนถี่ถ้วน มันเปลี่ยนใจไปจัดการกับศพไร้หัวทั้งหกก่อน เกอร์มัน·สแปร์โรว์จะได้แสดงพลังแท้จริงโดยไม่ถูกรบกวน
คลีฟส์ เซซิล ทีก และแฮร์ริส ต่างรีบพยุงตัวลุกยืนและเก็บปืนของตนกลับมาถือ ทุกคนยืนล้อมดอนน่า เออร์ดี้ ดิเมอดอร์ และอีกหลายคนไว้ตรงกลาง คอยปกป้องจากภัยอันตรายอันคาดไม่ถึงในอนาคต
ประสบการณ์ได้สอนพวกมันว่า หากไม่เคยถูกฝึกมาก่อน และไม่ได้รับคำขอร้องให้ช่วย ห้ามยื่นมือเข้าไปสอดระหว่างการต่อสู้ของผู้วิเศษโดยเด็ดขาด!
ฉ่า! ฉ่า! ฉ่า!
ศพไร้หัวทั้งหกไม่แยแสกำแพงไฟรอบนกหวีดทองแดง คิดเพียงจะแย่งชิงวัตถุดังกล่าวมาเป็นของตนราวกับสุนัขหิวโหย
ภาพตรงหน้าทำให้ไอร์แลนด์มีสมาธิกับการถ่ายพลังวิญญาณลงในเข็มกลัดสุริยันได้โดยไม่ต้องพะวงหลัง บรรจงหยดน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ลงในเหยือกแบนของตนอย่างใจเย็น
เมื่อเดนิสเห็นฝูงศพหัวขาดไม่เปลี่ยนเป้าหมายจากนกหวีด มันยิ้มกรุ้มกริ่มพลางง้างมือขวาไปด้านหลังและเสกหอกเพลิงทรงยาวสีขาวโพลนลุกโชติช่วง
เดนิสก้าวเท้าซ้ายไปข้างหน้าครึ่งจังหวะ บิดเอวส่งแรง และขว้างหอกเพลิงออกไปอย่างสุดแรง คมหอกแหวกอากาศเสียบหนึ่งในศพไร้หัวและปักเหยื่อลงกับพื้นดิน
บึ้ม!
เพลิงสีขาวสว่างวาบพร้อมกับระเบิดลอยสูงขึ้นฟ้า ศพหัวขาดร่างหนึ่งไหม้เกรียมไปครึ่งตัวในพริบตา ส่วนร่างอื่นๆ รอบข้างได้ผุดควันสีเขียวเข้มออกมาเจือจาง
เมื่อพบว่าการโจมตีได้ผล เดนิสตั้งใจจะทำซ้ำในสิ่งเดิม แต่ทันใดนั้น มันเริ่มสัมผัสถึงความหิวโหยอันน่าสยดสยอง กำลังแผ่ฟุ้งคละคลุ้งเต็มบรรยากาศรอบตัว
ในวินาทีนี้ มันรู้สึกราวกับตนกำลังยืนอยู่ขอบผาเหนือหุบเหวลึกไร้ก้นบึ้ง โดยอีกก้าวเดียวก็จะพลัดตกลงไป
เดนิสทราบทันที เกอร์มัน·สแปร์โรว์ได้ปลดปล่อยความบ้าคลั่งในร่างกายออกมาอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว
หลังจากสิ้นเปลืองกระดาษคนตัวแทนครบจำนวนสามครั้ง ไคลน์เข้าสู่ระยะปรารถนาของตนสำเร็จ
คล้ายกับหิวกระหายเป็นเวลานาน ถุงมือข้างซ้ายเริ่มยุบพองอย่างเกรี้ยวกราดพร้อมกับผุดเกล็ดสีทองดำปกคลุมหลังมือ
รูม่านตาไคลน์กลายเป็นวงรีตั้งฉาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ