‘เดอะมูน’ เอ็มลิน·ไวท์ ลืมตาขึ้นหลังจากถูกส่งตัวมายังดินแดนลึกลับอีกครั้ง
มันเห็นมิสจัสติสฝั่งตรงข้าม กำลังมองไปทางมุมโต๊ะทองแดงยาวลายโบราณและกล่าวทักทายอย่างยิ้มแย้ม
“ทิวาสวัสดิ์ค่ะ มิสเตอร์ฟูล~”
จัสติส·ออเดรย์เริ่มทักทายจากเดอะฟูล และไปจบลงตรงเดอะเวิร์ล
การเรียงลำดับทักทายเช่นนี้มิได้เป็นไปตามตำแหน่งการนั่ง แต่เรียงตาม ‘ลำดับไพ่’ ในสำรับหลักของไพ่ทาโรต์ เริ่มจากเดอะฟูล และไปสิ้นสุดยังเดอะเวิร์ล
นี่คือรายละเอียดปลีกย่อยอันเกิดจากความหลงใหลในศาสตร์เร้นลับของออเดรย์ พฤติกรรมดังกล่าวเด่นชัดขึ้นเมื่อชุมนุมทาโรต์เริ่มมีสมาชิกเป็นจำนวนมาก
หญิงสาวสูงศักดิ์ มีชาติตระกูล และมองโลกในแง่บวกอย่างมาก… เอ็มลินประเมินตัวตนของอีกฝ่ายภายในใจ พลางพยักหน้ารับการทักทายตามมารยาท
ระหว่างนั้น มุมสายตาผีดูดเลือดหนุ่มชำเลืองไปทาง ‘เดอะซัน’ ด้านข้าง พลางหวนนึกช่วงเวลาขณะศึกษาประวัติศาสตร์ของเผ่าพันธุ์ผีดูดเลือด ภายในบ้านบารอนเวย์แมนดี้เมื่อไม่กี่วันก่อน
เรายังบกพร่องด้านประวัติศาสตร์อยู่มาก นี่คือความแตกต่างระหว่างนักค้นคว้ามืออาชีพกับมือสมัครเล่น แต่หลังจากสัปดาห์นี้เป็นต้นไป ตัวข้า เอ็มลิน·ไวท์ จะกลายเป็นนักค้นคว้าประวัติศาสตร์มืออาชีพ…
บารอนเวย์แมนดี้ไม่เคยเอ่ยถึงเมืองเงินพิสุทธิ์แม้แต่ครั้งเดียว เราจึงก็มิได้ซักถามออกไปโดยตรง เพราะด้วยฐานะวีรบุรุษในเงามืดของตระกูล เราไม่ควรเปิดเผยข้อมูลส่งเดช…
นั่งฟังประวัติศาสตร์ครึ่งวัน ไปเรียนคำสอนจากโบสถ์อีกครึ่งวัน และกลับมาเล่นตุ๊กตาในตอนกลางคืน ชีวิตแบบนี้ก็ไม่เลวเหมือนกัน…
เอ็มลินปล่อยความคิดของตนล่องลอย
จนกระทั่ง มันเริ่มขมวดคิ้วเมื่อตระหนักถึงปัญหาสำคัญ
แล้วทำไมเราถึงยังต้องแวะไปยังโบสถ์ฤดูเก็บเกี่ยวทุกวัน?
ในฐานะเผ่าพันธุ์อันสูงส่ง เราต้องจัดการปัญหาของตัวเองให้เด็ดขาด เราอดทนกับสิ่งนี้มานานแล้ว! เฮ่อ… การถูกพี่น้องในตระกูลนินทาลับหลังไม่ใช่เรื่องน่าสนุกเลยสักนิด…
เดอะมูน·เอ็มลิน เริ่มผ่อนคิ้ว
เมื่อเห็นว่ามิสจัสติสจบการทักทาย ผีดูดเลือดหนุ่มเหยียดแขนออกไปและเคาะโต๊ะทองแดงอย่างแผ่วเบา พลางมองไปยังหญิงสาวฝั่งตรงข้ามและกล่าว
“วัตถุดิบตามความต้องการของคุณ”
จัสติส·ออเดรย์ยกมือขวาขึ้นเพื่อส่งภาษากายเป็นเชิงให้หยุด ก่อนจะยิ้มอย่างสง่างาม
“ไว้ค่อยคุยกันในช่วงค้าขายนะคะ ตอนนี้เป็นเวลา ‘อ่าน’ ของมิสเตอร์ฟูล”
ฟังจากน้ำเสียง มิสเตอร์แวมไพร์คงรวบรวมอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่างผลของต้นคนชราหรือเลือดของมังกรกระจกได้แล้ว…
ไม่สิ อาจทั้งสองอย่าง… ออเดรย์ เธอกำลังจะกลายเป็นนักจิตบำบัด! ผู้วิเศษลำดับกลาง!
หญิงสาวเผยยิ้มสดใส
จากนั้น เธอมองไปทางบุคคลเบื้องหลังม่านหมอกหนาทึบ
“มิสเตอร์ฟูลผู้ยิ่งใหญ่ ดิฉันรวบรวมไดอารีของจักรพรรดิโรซายล์ได้อีกสามหน้า~”
เหลืออีกแค่สี่หน้าเท่านั้น… หญิงสาวเม้มปากพลางใช้ความคิด
เมื่อเห็นมิสจัสติสทำตัวเป็นแบบอย่าง มิสเมจิกเชี่ยน·ฟอร์ส กล่าวเสริมทันที
“มิสเตอร์ฟูล ดิฉันก็มีไดอารีของจักรพรรดิโรซายล์สามหน้าเช่นกัน”
เธอเฝ้ารอชุมนุมทาโรต์มาตลอดทั้งสัปดาห์ เนื่องจากโอสถผู้ฝึกหัดขวดใหม่ซึ่งเพิ่งดื่มซ้ำเข้าไป ถูกย่อยได้เร็วกว่าความคาดหมายในตอนแรกมาก ปัญหาข้างเคียงจึงถูกขจัดอย่างสมบูรณ์เมื่อไม่กี่วันก่อน
เดอะซัน·เดอร์ริคเสริมตามทันที
“มิสเตอร์ฟูลผู้ยิ่งใหญ่ ผมทำการคัดลอกตำนานของเทพบรรพกาลบางส่วนมาแล้ว”
จากนั้น เด็กหนุ่มหันไปพูดกับแฮงแมน
“ผมทำตารางรายชื่อสัตว์ประหลาดรอบเมืองเงินพิสุทธิ์เสร็จแล้วเช่นกัน”
เป็นเด็กดี และไม่ต้องรอให้ใครเตือน…
ไคลน์ ผู้กอบโกยผลประโยชน์มากกว่าใครในวันนี้ เอนกายพิงพนักอย่างมีความสุข
ไม่ได้พัฒนาเลยสักนิด… จริงอยู่ เราอาจไม่ทราบชื่อวัตถุดิบจากสัตว์ประหลาดโดยตรง แต่นี่ถือเป็นการแพร่งพรายข้อมูลเมืองเงินพิสุทธิ์ทางอ้อม… หากปล่อยไว้ เด็กคนนี้จะกลายเป็นปัญหาต่อองค์กรในอนาคต…
โชคยังดี สิ่งนี้สามารถแก้ไขได้โดยการเพิ่มความหวาดระแวงและประสบการณ์เข้าไป…
แฮงแมน·อัลเจอร์ ส่ายหน้าอย่างจนปัญญา
ถัดมาไม่นาน ไดอารีจักรพรรดิโรซายล์และตำนานเทพบรรพกาลได้ปรากฏตรงหน้าไคลน์
ชายหนุ่มกวาดสายตาอ่านอย่างรวดเร็วหนึ่งรอบ และพบว่าสองจากหกหน้าของไดอารีคราวนี้มีเนื้อหาซ้ำกับของเดิม หนึ่งในนั้นเป็นหน้าของจัสติส ซึ่งแฮงแมนเคยนำมาให้อ่านในช่วงแรกแล้ว
เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงปัญหานี้ได้ นอกเสียจากจะสอนภาษาจีนกลางง่ายๆ ให้พวกเขาช่วยจำแนกเอกสาร…
ไคลน์ถอนหายใจสั้น พลางใช้จิตย้ายไดอารีสองแผ่นบนไปอยู่ด้านหลัง
สำหรับไดอารีอีกสี่หน้า ข้อมูลด้านในก็มิได้สลักสำคัญอะไรนัก ส่วนใหญ่เป็นช่วงเวลาซึ่งโรซายล์กำลังสูญเสียอุดมคติ เอาแต่หมกมุ่นอยู่กับความร่ำรวยและเงินทอง
เนื้อหาส่วนใหญ่ประกอบด้วยคำถามเช่น ‘วันนี้จะประดิษฐ์อะไรดี’ ‘พรุ่งนี้จะประดิษฐ์อะไรดี’ ‘สิ่งนี้จะขายได้เท่าไร’ และ ‘จะมีนักลงทุนมาสนใจบ้างไหม’
ไคลน์เกือบควบคุมอารมณ์ทางสีหน้าไม่อยู่ ชายหนุ่มต้องการจะนำแผ่นไดอารีสามหน้าฟาดใส่หน้าโรซายล์สักป้าบ
ขณะเดียวกัน จัสติส·ออเดรย์เหลือบเห็นไพ่จักรพรรดิมืดกลับมาวางอยู่ด้านหน้าเดอะฟูลในลักษณะคว่ำหน้า
ท่านให้ข้ารับใช้หยิบยืมไปสะสางภารกิจจริงด้วย! ไม่สิ ยังมีความเป็นไปได้อื่นอยู่ นี่อาจเป็นไพ่เย้ยเทพใบใหม่ ไม่จำเป็นต้องเป็นใบเดิมสักหน่อย!
ออเดรย์คาดเดาเรื่อยเปื่อย แววตาเผยความสนใจโดยไม่ปิดบัง
หลังจากอ่านไดอารีจบ ไคลน์พยายามข่มความหงุดหงิด พลางพลิกไปอ่านตำนานเทพบรรพกาลจากเดอะซันน้อยต่อ
รายละเอียดค่อนข้างหยาบ แปดเทพบรรพกาลในยุคสมัย 2 ถูกแบ่งออกเป็นสามขั้วอำนาจใหญ่ ฝ่ายแรกประกอบด้วย ราชาคนยักษ์ เออร์เมียร์ ราชาเอลฟ์ ซอนญาธริม และต้นตระกูลแวมไพร์ ลิลิธ ฝ่ายถัดมามี มังกรจินตภาพ·แอนเคอร์เวล ต้นตระกูลฟินิกซ์ เกรจารี และราชามนุษย์กลายพันธุ์ เควาสทูน
ในส่วนของราชาปีศาจ ฟาโบธี และราชาหมาป่าอสูร·เฟรเกีย ทั้งสองไม่ต้องการเข้าพวกกับใคร มีเป้าหมายเพียงล้มล้างระบอบทั้งหมด และกัดกร่อนมนุษยชาติให้พังพินาศ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ