สืบเนื่องมาจาก การทำงานอย่างหนักจนได้รับกำไรก้อนโตสำหรับมัน กลับเทียบไม่ได้เลยกับเศษเสี้ยวเงินค่าขนมของใครบางคน
เราได้ค่านายหน้าจากเดอะเวิร์ลเป็นเงินหกร้อยเจ็ดสิบห้าปอนด์ และในความเป็นจริง ต้นทุนของช่างฝีมือก็มีราคาเพียงหกร้อยปอนด์เท่านั้น เราจึงทำกำไรได้มากถึงหนึ่งพันเจ็ดสิบห้าปอนด์ในการแลกเปลี่ยนครั้งเดียว…
แต่ว่ากันตามตรง เรายังขูดรีดจากเดอะเวิร์ลได้อีกเล็กน้อย ด้วยการโกหกว่าขายตะกอนพลังไปทั้งสิ้นสี่พันปอนด์ และเป็นค่าช่างฝีมืออีกหนึ่งพันห้าร้อยปอนด์ แต่อีกฝ่ายมิใช่บุคคลธรรมดา สามารถรวบรวมตะกอนพลังและสูตรโอสถมาขายได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงยังเข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์สำคัญบ่อยครั้ง การผิดใจกับเขาเพียงเพราะเงินไม่กี่ร้อยปอนด์จึงไม่ใช่เรื่องฉลาด… แฮงแมนรำพันด้วยอารมณ์เสียดายเล็กน้อย
ขณะเดอะฟูลกำลังยินดีปรีดาเมื่อตนใกล้จะได้รับเงิน 3,825 ปอนด์ เดอะซัน·เดอร์ริค มองไปทางหญิงสาวฝั่งตรงข้ามและกล่าวอย่างสุภาพ
“มิสเมจิกเชี่ยน ถุงกระเพาะอาหารของผู้กลืนวิญญาณของคุณพร้อมจัดส่งแล้ว”
“เยี่ยม!” ฟอร์สถอนหายใจด้วยสีหน้าผ่อนคลาย “ทางนี้ก็พร้อมจ่ายเงินสามร้อยปอนด์ให้มิสเตอร์แฮงแมนทันทีเช่นกัน”
แฮงแมน·อัลเจอร์ เผยสีหน้าตื่นเต้น มันรีบหันไปทางเดอะฟูลมุมโต๊ะทองแดงยาว พร้อมกับขออนุญาตเขียนสูตรโอสถลงบนกระดาษ
ไม่กี่วินาทีถัดมา มัน ‘เขียน’ สูตรโอสถ ‘ข้ารับใช้สุริยัน’ ลงบนกระดาษหนังสีน้ำตาลเบื้องหน้าจนเสร็จ
วัตถุดิบหลัก :
– หงอนไก่รุ่นอรุณตัวผู้
– ผลของต้นพันธะวิญญาณส่องแสง
วัตถุดิบเสริม :
– เลือดไก่รุ่งอรุณตัวผู้หนึ่งร้อยมิลลิลิตร
– น้ำมันสกัดสุริยันสิบหยด
– ผงส้มมือสีทองแปดกรัม
– ก้อนลาวาแข็งตัวห้ากรัม
จริงอยู่ ไคลน์อาจไม่มีเจตนาแอบมองสูตรผลิตโอสถ แต่รายละเอียดบนแผ่นกระดาษได้ประทับลงในสมองอย่างมิอาจลบเลือน
แม้จะได้เห็นแค่ครั้งเดียวแบบผ่านๆ ตา แต่ถ้าชายหนุ่มใช้พลังทำนายฝันเพื่อเรียกคืนความทรงจำตัวเอง มันก็จะเข้าถึงสูตรโอสถข้ารับใช้สุริยันได้ตลอดเวลา
ชายหนุ่มแอบถอนหายใจ
การได้เป็นเจ้าของแพลตฟอร์มมันดีแบบนี้นี่เอง…
หลังจากนั้น เดอะซัน·เดอร์ริค คลี่ม้วนกระดาษออกมาอ่านด้วยสีหน้าเบิกบาน
ถัดมา มันเขียนรายชื่อของสัตว์ประหลาดรอบเมืองเงินพิสุทธิ์อย่างละเอียดให้แฮงแมนอ่าน อีกฝ่ายจะได้เลือกวัตถุดิบวิเศษสำหรับชดเชยส่วนต่างการแลกเปลี่ยน
แฮงแมน·อัลเจอร์เพ่งมองอย่างตั้งใจ พลางพิจารณาสภาพการณ์ของเมืองเงินพิสุทธิ์ภายในสมอง ก่อนจะเลือกวัตถุดิบวิเศษสามชนิดซึ่งมั่นใจว่ามีคนรอซื้อแน่นอน
เราจะปล่อยพวกมันออกภายในสองวัน เมื่อนำไปรวมกับเงินสามร้อยปอนด์จากมิสเมจิกเชี่ยน และเงินหนึ่งพันเจ็ดสิบห้าปอนด์จากการขายสมบัติวิเศษ เราก็จะมีเงินสดเพียงพอสำหรับซื้อดวงตาอินทรีทะเลตามังกรพอดี…
อัลเจอร์เริ่มอ่อนเพลียจากการคำนวณ ก่อนจะหันหน้าไปทางฟอร์สและกล่าว
“ลำดับ 7 : ข้ารับใช้สุริยัน มิสเมจิกเชี่ยน คุณเตรียมติดต่อขอซื้อดวงตาของอินทรีทะเลตามังกรได้เลย”
ว่ากันตามตรง แฮงแมน·อัลเจอร์มีเงินสดพกติดตัวในปัจจุบันไม่ถึงสิบสองปอนด์ด้วยซ้ำ แม้แต่เงินค่าช่างฝีมือก็ยังหยิบยืมคนอื่นมาจ่ายไปก่อน อย่างไรก็ตาม หลังจากเสร็จสิ้นธุรกิจในคราวนี้ เงินสดของมันจะเพิ่มพูนเป็น 2,375 ปอนด์ในคราวเดียว เพียงพอสำหรับใช้จ่ายสองพันปอนด์เพื่อซื่อวัตถุดิบหลักโอสถของตน
เมจิกเชี่ยน·ฟอร์ส พลันนึกถึงการเสียท่าให้แฮงแมนเมื่อสัปดาห์ก่อน จึงตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเจือความขุ่นเคือง
“ตกลง”
สำหรับเธอ กำไรสุดท้ายจะถูกกำหนดจากอาจารย์ของตน โดเรียน·เกรย์ อีกทอดหนึ่ง ส่วนอีกฝ่ายจะใจดีมอบให้เท่าไรนั้น ก็สุดแท้แต่โชคชะตาจะนำพา
ในช่วงหลังของการค้าขาย ไคลน์บังคับเดอะเวิร์ลให้ประกาศหาซื้อเศษเสี้ยวของวิญญาณอาฆาตโบราณ และดวงตาการ์กอยล์หกปีกอีกครั้ง
ในส่วนของตะกอนพลังเมอร์ล็อก ไคลน์มิได้ประกาศขายในชุมนุมทาโรต์หรือตามหาช่างฝีมือสำหรับสร้างเป็นสมบัติวิเศษ เพราะมันคิดจะใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางในการเข้าแวดวงผู้วิเศษทางทะเลให้เกอร์มัน·สแปร์โรว์
หลังจากชุมนุมทาโรต์วันนี้จบลง โอสถ ‘นักจิตบำบัด’ ของมิสจัสติสก็จะพร้อมปรุงดื่มทันที และโอสถ ‘นักตุกติก’ ของมิสเมจิกเชี่ยนก็คงไม่ต่างกัน… เดอะซันน้อยก็ได้สูตรโอสถ ‘ข้ารับใช้สุริยัน’ ไปแล้ว โอกาสในการเลื่อนเป็นลำดับ 7 ค่อนข้างสดใส และเหลืออีกเพียงไม่กี่ก้าว ก็จะมีสิทธิ์อ่านเอกสารเพื่อหาวิธีลบจิตกัดกร่อนออกจากตะกอนพลังให้เรา…
มิสเตอร์แฮงแมนกำลังจะได้รับหนึ่งในวัตถุดิบหลักของโอสถ ‘ผู้รับใช้วายุ’ ของตน หมายความว่า เขาจะเหลืออุปสรรคสำคัญอีกแค่จุดเดียวในการพัฒนาไปเป็นลำดับ 6…
หมายความว่า จะเหลือเพียงเอ็มลิน ผู้ยังไม่มีทีท่าว่าจะพัฒนาลำดับของตัวเองได้ในอนาคตอันใกล้…
เดอะฟูล·ไคลน์ มองไปรอบๆ พลางยิ้ม
“เชิญแลกเปลี่ยนข้อมูล”
ใจจริง จัสติส·ออเดรย์ต้องการเปิดประเด็นเล่าเรื่องใกล้ตัวตามนิสัยปรกติ แต่หลังจากไตร่ตรองสักพัก หญิงสาวกลับพบว่า ตนไม่มีอะไรจะแบ่งปันในสัปดาห์นี้
นอกเหนือจากการเข้าร่วมงานเลี้ยงปีใหม่หนแล้วหนเล่า และเข้าเรียนวิชาจิตวิทยาอีกสองสามคาบ ชีวิตประจำวันของเราก็ไม่มีอะไรเลยสักนิด… จริงอยู่ อาจมีเรื่องเกี่ยวกับแคว้นเชสเตอร์ตะวันออกให้เล่าบ้าง แต่นั่นคงไม่จำเป็นสักเท่าไร…
หญิงสาวนั่งเม้มปากอย่างเงียบงัน
เมจิกเชี่ยน·ฟอร์สกำลังอยู่ในภาวะสันหลังยาวเนื่องจากเทศกาลหยุดปีใหม่ หัวสมองของจึงว่างเปล่า และกล่าวด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดเล็กน้อย
“กรุงเบ็คลันด์ยังคงตกอยู่ในสถานการณ์คุมเข้ม หากไม่ใช่ผู้วิเศษทางการ ก็ไม่ควรเพ่นพ่านหรือทำตัวเป็นจุดสนใจในเวลานี้”
อย่างนั้นหรือ…
เดอะมูน·เอ็มลินขมวดคิ้วจนแทบจะชนกัน
แวมไพร์ผู้เคยชินกับชีวิตประจำวันแบบเดิมๆ มาตลอดอย่างมัน ออกอาการหงุดหงิดเล็กน้อยเมื่อทราบว่า ชุมนุมลับเกือบทั้งหมดรอบตัวจะหยุดพักกิจกรรมชั่วคราว
แฮงแมนครุ่นคิดเล็กน้อย และหันไปกล่าวกับเดอะซัน
“อย่าได้ประมาทเด็ดขาด ก่อนประกอบพิธีกรรมสังเวย คุณควรยืนยันให้แน่ใจเสียก่อนว่า หัวหน้าทีมสำรวจคราวก่อนไม่ได้อยู่ในเมืองเงินพิสุทธิ์ หรืออย่างน้อยก็ต้องยุ่งวุ่นวายอยู่กับเรื่องอื่น”
“มิสเตอร์แฮงแมน คุณกำลังสงสัยว่า ท่านประมุขสามารถตระหนักถึงความผิดปรกติของวังวนกระแสเวลาได้?” เดอะซัน·เดอร์ริคซักถามด้วยสีหน้าตกใจ
แฮงแมนตอบขึงขัง
“ยังตัดความน่าจะเป็นนั้นออกไปไม่ได้ ผมยืนยันอะไรมากไม่ได้ เพราะไม่มีข้อมูลของเมืองเงินพิสุทธิ์สักเท่าไร”
เมื่อพูดจบ มันหุบยิ้มและทำหน้าจริงจัง
เดอะซัน·เดอร์ริคกล่าวด้วยท่าทางกระอักกระอ่วน
“ผมเองก็ไม่ทราบเช่นกัน…”
ชิ! แฮงแมน·อัลเจอร์ถอนหายใจผิดหวัง
“แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไหน การระมัดระวังตัวจะช่วยให้มนุษย์มีชีวิตยืนยาวกว่าเดิม”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ