ไคลน์ก้าวถอยหลัง ยืนไตร่ตรองสถานการณ์เบื้องต้น
ทางด้านไอร์แลนด์ เป็นเพราะไม่มีภาพเหมือนไว้คอยเปรียบเทียบ รวมถึงการที่ศพถูกเผาจนไหม้เกรียม มันย่อมไม่ทราบว่านี่คือหนึ่งในคณะนักผจญภัยของเลติเซีย·โดเรล่า จึงทำเพียงยืนสำรวจเหตุการณ์สักพัก
จนกระทั่งเสียงหัวเราะอันน่าขนลุกผ่านไปสองสามระลอก ไอร์แลนด์ตัดสินใจชี้ไปยังร่างของเจ้าหน้าที่สามสี่คนซึ่งกำลังนอนแผ่นบนพื้นไม่ห่างจากตัวบ้านมากนัก พลางพึมพำด้วยน้ำเสียงลุ่มลึก
“ต้องลากพวกเขาออกมาก่อน รอให้หน่วยสนับสนุนมาถึง จากนั้นค่อยคิดเรื่องโจมตี หรือบางที…”
มันชะงักคำ พลางเงยหน้ามองเรือบินสีน้ำเงินเข้มกำลังลอยเข้ามาใกล้
ไอร์แลนด์ไม่กล่าวสิ่งใดเพิ่ม และมิได้สั่งให้ไคลน์กับเดนิสกระทำสิ่งใด เพียงก้มหน้าวิ่งไปทางคนของกองทัพที่กำลังนอนสั่นระริกด้วยใบหน้าม่วงคล้ำ
กึก. กึก. กึก.
ยิ่งเข้าใกล้ ย่างก้าวก็ยิ่งอ่อนแรง จนกระทั่งร่างกายของไอร์แลนด์แข็งทื่อ ทุกก้าวเป็นไปอย่างยากลำบาก
ไอร์แลนด์เคยเป็นสรั่งเรือของกองเรือหลวงอยู่หลายปี ย่อมมีประสบการณ์เสี่ยงชีวิตโชกโชน จึงคิดเร็วทำเร็ว รีบชะงักฝีเท้าและก้าวถอยหลังอย่างเชื่องช้าแต่มั่นคง
ยิ่งถอยห่างออกมา จังหวะการก้าวก็เริ่มกลับมามีเรี่ยวแรง แต่ยังคงแก้ไขอาการสั่นเทาไม่ได้ โดยบริเวณขอบคิ้วและจอนมีเกล็ดน้ำแข็งปกคลุมเจือจาง
หนาวฉับพลันจนผิดธรรมชาติ…
เป็นความเย็นระดับภัยพิบัติ…
เมื่อเห็นสภาพของไอร์แลนด์ ไคลน์ยืนวิเคราะห์อันตรายภายในขอบเขต พลางถอนหายใจเงียบงัน :
น่าเสียดาย เข็มกลัดสุริยันจะไม่สร้างความร้อนเชิงกายภาพ เป็นได้เพียงอุปกรณ์ดัดแปลงความรู้สึก ถึงจะช่วยแก้ปัญหาทางจิตใจได้ชะงัก แต่ถ้าต้องเผชิญอุณหภูมิเย็นจัดของจริง คงไม่แคล้วยืนตัวแข็งทื่อภายในสามถึงสี่วินาที…
ชายหนุ่มหันไปมองไอร์แลนด์ ผู้กำลังยืนปากสั่นและกรามกระทบเสียงดัง กัปตันโมราขาวพยายามพะงาบปากราวกับต้องการกล่าวบางสิ่ง แต่กลับไม่สามารถเปล่งเสียง
เห็นดังนั้น ไคลน์หันไปจ้องเดนิสด้านข้าง
ชายหนุ่มวางไม้ค้ำลง เปล่งเสียงเคร่งขรึม
“ไฟ”
ไฟ? เดนิสผงะเล็กน้อย แต่ไม่นานก็ทราบเจตนาของเกอร์มัน·สแปร์โรว์
มันย่อมเห็นความล้มเหลวของไอร์แลนด์ขณะพยายามการเข้าไปช่วยพวกพ้อง!
เดนิสสร้างก้อนเพลิงขึ้นบนมือขวา ขว้างไปยังจุดไม่ห่างจากคนของกองทัพที่กำลังนอนแผ่บนพื้นมากนัก
ก้อนเปลวเพลิงพุ่งแหวกอากาศเป็นระยะทางเกือบยี่สิบเมตร ตกลงบนพื้น แต่ไม่เกิดระเบิดเสียงดังสนั่น เพียงสร้างประกายไฟลอยสูงขึ้นไปในอากาศ
เมื่อเจอกับอุณหภูมิเย็นจัด เสาเปลวเพลิงสีแดงฉานส่งเสียง ‘ฉ่า’ พร้อมกับหดตัวลงอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้น เสาเพลิงขยายออกอีกครั้ง ราวกับกำลังดิ้นรนเฮือกสุดท้าย
ไคลน์ในโค้ทขนสัตว์สีดำสนิทกระโจนออกจากเสาเพลิงดังกล่าว ฝ่าเท้าสัมผัสพื้นในจุดใกล้กับเจ้าหน้าที่กองทัพ
มันโน้มตัวลงและเหยียดแขนตรง ใช้ฝ่ามือคว้าเครื่องแบบของผู้ประสบภัยแน่นกระชับ
ถัดมา ชายหนุ่มถ่ายน้ำหนักลงไปบนฝ่าเท้า บิดเอวกลับมาด้านหลัง และระเบิดพลังแขนในชั่วพริบตา
เจ้าหน้าที่ถูกโยนลอยไปในอากาศ บินไกลราวสิบเมตรก่อนจะตกลงพื้นอย่างนุ่มนวล รอดพ้นจากอิทธิพลของพลังน้ำแข็ง
เมื่อจัดการเสร็จ ไคลน์ชิงดีดนิ้วก่อนที่ความเย็นจะกัดกร่อนร่างกาย เผาก้านไม้ขีดในกระเป๋าเสื้อซึ่งพกติดตัวไว้ตลอดเวลา
เพลิงสีแดงพรั่งพรูออกจากร่างกายชายหนุ่มคล้ายกระแสน้ำหลาก เพียงไม่นานก็ลุกโชนจนท่วมร่าง
เมื่อเพลิงดับมอด ร่างไคลน์ได้หายลับไปจากสายตาของทุกคน
เสาเพลิงสว่างขึ้นอีกครั้งในจุดถัดไป สิ่งนี้เป็นพลังของเดนิส โดยไคลน์จะปรากฏตัวออกมากระทำแบบเดิม และหนีด้วยก้านไม้ขีดไฟเช่นเดิม วิธีนี้สามารถช่วยเหลือคนของกองทัพได้มากมาย
เพียงไม่กี่อึดใจถัดมา ไคลน์นำเจ้าหน้าที่คนสุดท้ายออกจากเขตอันตราย
ไอร์แลนด์เผยสีหน้าโล่งใจสุดขีด พร้อมกับยกนิ้วหัวแม่โป้งให้ :
“ผมทั้งยินดีและเป็นเกียรติอย่างมาก ที่วันนี้ตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากคุณ”
พูดได้ดี…แต่อย่าลืมขึ้นค่าจ้างก็แล้วกัน…
ไคลน์พยักหน้ารับอย่างสุภาพ หมุนตัวครึ่งวงกลม มองเข้าไปในหน้าต่างที่เปิดอยู่ของบ้านหลังเกิดเหตุ พลางยืนฟังเสียงหัวเราะอันน่าขนลุกและพิสดารดังเป็นระยะ
มุมปากเดนิสกำลังสั่นระริก มันส่งเสียงตำหนิไอร์แลนด์ภายในใจ
ไม่เห็นผลงานของฉันเลยรึไง!
ถึงบอลเพลิงของฉันจะเป็นเหมือนกับไฟประกอบฉากมายากล แต่มันก็มีความสำคัญมากในแผนการ!
หมอนี่มีฉายาว่าไอร์แลนด์ผู้เที่ยงธรรม แต่ความจริงแล้วกลับไม่เที่ยงธรรมเลยสักนิด!
ขณะเพลิงพิโรธกำลังพึมพำ ท้องฟ้าด้านบนเริ่มมืดครึ้มเล็กน้อย เนื่องจากเรือบินกำลังลอยสูงเหนือศีรษะคนทั้งสาม
“รีบอพยพชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงออกไปให้หมด!” เสียงคำสั่งจากเรือบินดังกังวานลงถึงด้านล่าง
หลังจากไอร์แลนด์และหน่วยสนับสนุนชุดหลังที่เพิ่งมาถึงช่วยกันอพยพชาวเมืองออกไปจากเขตอันตราย เรือบินเริ่มลดระดับความสูงลง พลางปรับองศาการเล็งของ ‘ปืนใหญ่’
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
ปืนใหญ่กระหน่ำยิงประหนึ่งพายุบุแคม เป้าหมายคือบ้านหลังที่มีเสียงหัวเราะอันน่าขนลุกดังอย่างต่อเนื่อง
ได้ยินเสียงระเบิดโครมคราม ได้เห็นอำนาจทำลายล้างของปืนใหญ่ ไคลน์ก้มหยิบไม้ค้ำด้วยสีหน้าขื่นขม
นี่คือยุทธการ ‘ระดมยิง’ ที่มันปรารถนามาตลอด! ครั้งหนึ่งเคยเสนอให้เหยี่ยวราตรีเมืองทิงเก็นยิงถล่มบ้านทริสซี่ และในวินาทีนี้ มันกำลังประจักษ์แสนยานุภาพสุดตระการตาที่ตนถวิลหามานาน
ท่ามกลางเสียงปืนหูดับตับไหม้ ไอร์แลนด์และเจ้าหน้าที่คนอื่นต่างกระจายตัวล้อมบ้านหลังต้องสงสัยไว้ทุกทิศ เตรียมรับมือกลุ่มคนหรือสัตว์ประหลาดด้านใน
บ้านหลังดังกล่าวพังพินาศย่อยยับ ควันดำลอยสูงขึ้นจากซากปรักหักพังซึ่งเหลือเพียงเศษไม้และอิฐแดง ขณะเดียวกัน พลังน้ำแข็งลึกลับได้อันตรธานหายไปโดยสมบูรณ์
ทันใดนั้น สายฟ้าเส้นใหญ่พลันสว่างวาบจากมุมสูง ผ่าลงใจกลางเรือบินอย่างหนักหน่วงแม่นยำ
ไคลน์ขมวดคิ้ว ยืนมองเรือบินที่ยังคงสงบนิ่งราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น แต่โสตประสาทได้ยินเสียงความผิดปรกติของเครื่องยนต์ไอน้ำอย่างเจือจาง
สัตว์ประหลาดสีน้ำเงินบนท้องฟ้าเริ่มเสียการทรงตัว ควันดำลอยออกมาไม่มากไม่น้อย ตัวเครื่องเริ่มร่อนลงหาจุดจอดฉุกเฉินในบริเวณใกล้เคียง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ