ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ นิยาย บท 544

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 544 : ผู้เชี่ยวชาญ
ราชันเร้นลับ 544 : ผู้เชี่ยวชาญ
โดย
Ink Stone_Fantasy
ขณะไคลน์กำลังยืนจัดระเบียบความคิดในสมอง ไอร์แลนด์เดินเข้ามาใกล้ เผยรอยยิ้มอ่อนโยนและกล่าว

“ทางเราพบเป้าหมายแล้ว การสืบสวนจึงไม่จำเป็นอีกต่อไป พวกคุณช่วยกลับโรงแรมไปก่อน ค่าจ้างจะถูกจ่ายให้ในอีกสองวัน แต่สำหรับวันนี้ ขอแนะนำให้อยู่แต่ในที่พัก”

ไคลน์ยังคงรักษามาดขรึมของนักผจญภัยบ้าดีเดือด เพียงพยักหน้ารับ ไม่กล่าวคำใด

ระหว่างทางกลับ เดนิสเต็มไปด้วยคำถามและความสงสัยมากมาย แต่เนื่องจากมีคนของกองทัพอย่างไอร์แลนด์เดินประกบไม่ห่าง จึงทำได้เพียงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา เป็นการคาดเดาว่าจะมีโจรสลัดชื่อดังคนใดถูกจับตัวบ้างในวันนี้

สำหรับเดนิส หากไม่ใช่สมาชิกฝันทองคำ โจรสลัดทุกคนบนโลกล้วนมิใช่พวกพ้อง ไม่มีความจำเป็นต้องเห็นอกเห็นใจ

หลังจากกลับถึงห้อง เมื่อเห็นไอร์แลนด์กลับไป เพลิงพิโรธปิดประตูและพึมพำ

“หนังสือแห่งภัยธรรมชาติ… โบราณสถานเอลฟ์… มีประเด็นน่าสนใจเต็มไปหมด ว่าแต่ทำไมเอลฟ์ถึงกลายเป็นปีศาจไปได้? แค่ขโมยหนังสือออกมา พลิกหน้าอ่าน ผู้หญิงคนนั้นก็เสียสติและคลุ้มคลั่งเลยหรือ?”

หมอนี่วาดฝันเอลฟ์ไว้แบบไหน? เป็นมิตรกับธรรมชาติ อาศัยบนภูเขา ทำอาหารเก่ง และรักสัตว์? จากข้อมูลของเดอะซันน้อย เหล่าเทพบรรพกาลทั้งแปดก่อนยุคสมัยมหาภัยพิบัติล้วนเป็นพวกป่าเถื่อน เกรี้ยวกราด และชั่วร้าย ไม่เว้นแม้แต่ราชาเอลฟ์ ซอนญาธริม ดังนั้น ไม่ว่าจะสาวกหรือข้าราชบริพารของราชาเอลฟ์ พวกมันย่อมไม่ใช่สิ่งมีชีวิตอ่อนโยน อาจเลวร้ายยิ่งกว่าพวกชุมนุมแสงเหนือเสียอีก… เผ่าพันธุ์วิเศษที่เอาตัวรอดจากยุคมืดมาได้ ไม่มีทางมี ‘จิตใจงดงาม’ แน่…

ไคลน์ตอบในใจ

แน่นอน มันมิได้มองข้ามความเป็นไปได้ที่เผ่าพันธุ์ทั้งหมดจะเริ่มพัฒนาศีลธรรมหลังจากเทพบรรพกาลอย่างมังกร คนยักษ์ เอลฟ์ และผีดูดเลือดทยอยร่วงหล่นตกตาม พฤติกรรมของสัตว์วิเศษกลุ่มนี้อาจดีขึ้นถึงขั้นอยู่ในระดับปรกติของมนุษย์ อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวคงเกิดขึ้นกับสิ่งมีชีวิตลำดับต่ำเท่านั้น ไม่รวมเหล่าครึ่งเทพ พวกมันไม่มีทางลดความชั่วร้ายลงแน่ โดยเอลฟ์ลำดับสูงผู้เป็นเจ้าของ ‘หนังสือแห่งภัยธรรมชาติ’ ก็คงไม่ต่างกัน

ขณะสมองโลดแล่น ไคลน์ฉุกคิดบางสิ่งกะทันหัน

เดนิสอ่านภาษาเอลฟ์ออก!

มันสามารถอ่านข้อความบนหน้าปกหนังสัตว์ของหนังสือแห่งภัยธรรมชาติ!

ระดับการศึกษาของลูกน้องพลเรือโทธารน้ำแข็งสูงจนน่าเหลือเชื่อ ไม่เพียงเชี่ยวชาญภาษาฟุซัคโบราณ แต่ยังรวมถึงภาษาเอลฟ์ซึ่งใช้ในการกระตุ้นพลังธรรมชาติ…

บางที ภาษาคนยักษ์และเฮอร์มิสโบราณอาจถูกบรรจุลงในคาบเรียนของฝันทองคำด้วยเช่นกัน… ช่างเป็นกลุ่มโจรสลัดที่เต็มไปด้วยความฝันและความรู้ แต่ว่า มาดามกัปตัน คุณเคร่งครัดวิชาการเกินไปรึเปล่า เดนิสถึงได้บกพร่องด้านอื่นมากขนาดนี้…

แต่หล่อนทำถูกต้องแล้ว สำหรับนักล่าสมบัติ สิ่งสำคัญเหนืออื่นใดคือการอ่านภาษาโบราณออก…

ไคลน์เมินคำถามของเดนิส เพียงมองออกไปนอกหน้าต่างเงียบงัน

ท้องฟ้ายังคงหม่นหมอง คล้ายกับพร้อมสาดเทสายฝนลงมาตลอดเวลา บรรยากาศอึมครึมเช่นนี้ย่อมทำให้ผู้คนรู้สึกอึดอัด

ชายหนุ่มพยักหน้ากับตัวเอง

“เลติเซียถูกพบตัวแล้ว ความลับของโบราณสถานเอลฟ์ถูกเปิดเผย โบสถ์วายุสลาตันและกองทัพคงอาศัยมรดกชิ้นดังกล่าวเชื่อมต่อกับรังของคาเวทูว่าแน่ จากนั้นก็ตามหาตัวเทพสมุทรผู้ทวีความบ้าคลั่งขึ้นทุกขณะ หรือไม่ก็ใช้มรดกดังกล่าวเร่งความเร็วในการร่วงหล่น หากเหตุการณ์ดำเนินไปในลักษณะนี้ สาวกเดนตายของเทพสมุทรก็จะสังเวยชีวิตตัวเองเหมือนในความฝันของเรา แต่คนอื่นจะยังปลอดภัย…”

เดิมที ไคลน์มีแผนจะสืบหารังของเทพสมุทร·คาเวทูว่าผ่านโลกวิญญาณ ถ้าทำสำเร็จก่อนโบสถ์วายุสลาตันหรือกองทัพ มันจะรีบแทรกซึมเข้าไปขโมยสมบัติภายในรัง อย่างไรก็ตาม แผนการยังไม่ทันเริ่ม ก็พังลงไม่เป็นท่าเนื่องจากอีกฝ่ายถือครองหนังสือแห่งภัยธรรมชาติไว้ในมือ

เฮ่อ… คงต้องยอมปล่อยไป เราไม่มีความหวังมาตั้งแต่แรกแล้ว… ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าในรังของมีอะไรซ่อนอยู่ การที่เรื่องราวจบลงอย่างสงบสุขก็นับว่าดีมากแล้ว…

ไคลน์เบือนหน้ากลับ พยายามข่มใจด้วยสีหน้าเจือความเสียดาย

ตลอดทั้งวัน ชายหนุ่มและเดนิสทำตามคำแนะนำของไอร์แลนด์เคร่งครัด ไม่ออกไปข้างนอกโรงแรมแม้แต่ก้าวเดียว

ภายในบายัม เสียงระเบิดและเสียงปืนยังคงดังขึ้นเป็นระยะ จนกระทั่งความมืดมิดคืบคลานเข้าปกคลุมอย่างสมบูรณ์

เช้าวันถัดมา ไคลน์ตื่นขึ้นตามปรกติ และพบว่าเมฆสีดำบนท้องฟ้าเลือนหายไปครึ่งหนึ่งอย่างผิดวิสัย บรรยากาศด้านบนยังคงมืดครึ้ม

สิ่งนี้คือเครื่องพิสูจน์ว่า การเผชิญหน้าระหว่างอาร์ชบิชอปแห่งโบสถ์วายุสลาตัน อาวุโสใหญ่ของทูตพิพากษา แยนน์·ค็อตแมน และเทพสมุทร·คาเวทูว่า ยังคงดำเนินต่อไปโดยไม่มีฝ่ายใดเพลี่ยงพล้ำไปก่อน

ไคลน์รู้สึกปวดแปลบท้องน้อย จึงเตรียมหยิบหนังสือพิมพ์เข้าไปอ่านในห้องน้ำ

แต่หลังจากหันไปเห็นเดนิสกำลังนอนแผ่หลาบนเก้าอี้เอนหลัง มือข้างหนึ่งถือขนมปังข้าวโอ๊ต ส่วนอีกข้างถือหนังสือพิมพ์อย่างสบายใจ ชายหนุ่มเปลี่ยนแผนทันที

การอ่านหนังสือพิมพ์ในห้องน้ำไม่ใช่สิ่งที่เกอร์มัน·สแปร์โรว์พึงกระทำ!

ถึงจะน่าเบื่อไปบ้าง แต่เราต้องรักษาภาพลักษณ์ของตัวละคร… สิ่งนี้ยังช่วยให้เราพบความแตกต่างระหว่างอุปนิสัยแท้จริงและตัวละครสมมติ…

ไคลน์สรุปเข้าข้างตัวเอง พลางเดินเข้าห้องน้ำโดยไม่หยิบสิ่งใดติดมือ

ถอดกางเกงลง นั่งบนฝาชักโครก สายตาจ้องกำแพงสีขาวตรงหน้าเขม็ง ราวกับมันจะมีตัวอักษรปรากฏขึ้นมาให้อ่าน

ทันใดนั้น สัมผัสวิญญาณของชายหนุ่มถูกกระตุ้นฉับพลัน

ไคลน์รีบกระทบกรามสองหนเพื่อเปิดใช้งานเนตรวิญญาณ

กระดูกสีขาวสองท่อนใหญ่โผล่ขึ้นตรงหน้าในระยะประชิด เป็นท่อนขาสองข้างของผู้ส่งสารร่างยักษ์

ศีรษะของอีกฝ่ายสูงเลยเพดานด้านบน แต่ไคลน์ยังคงมองเห็นดวงตาเพลิงทมิฬผ่านเพดานอย่างเลือนราง

ผู้ส่งสารก้มศีรษะต่ำ มองลงมายังไคลน์ที่กำลังนั่งบนฝาชักโครง

ชายหนุ่มเงยหน้ามองกลับ ไม่มีใครเคลื่อนไหวนานหลายวินาที จนกระทั่งไคลน์เริ่มเกิดคำถาม :

เราควรทำตัวเหมือนผู้หญิง รีบแหกปากโวยวายเสียงดังและปกปิดของสงวนด้านล่าง หรือควรเผชิญหน้าอย่างเปิดเผยโดยปราศจากความหวาดกลัว?

โดยไม่ปล่อยให้ไคลน์ตัดสินใจ ผู้ส่งสารโครงกระดูกทำการโยนจดหมายใส่ตักชายหนุ่ม ก่อนจะสลายตัวกลายเป็นน้ำพุกระดูก จมลงใต้พื้นห้องน้ำและหายไปอย่างสมบูรณ์

ไคลน์รีบคว้าจดหมายของมิสเตอร์อะซิกอย่างตกใจ ด้วยเกรงว่าจะหล่นลงไปเปียก ชายหนุ่มหมดคำพูดและไม่กระดุกกระดิกร่างกายอยู่นาน

ผู้ส่งสารตัวใหม่นับวันยิ่งเสียมารยาท! ไม่เห็นรึไงว่าเรากำลังเข้าห้องน้ำ! อย่างน้อยก็ควรเคาะประตูบ้าง หรือไม่ก็สอดจดหมายเข้ามาทางช่องว่างใต้ประตู!

ไคลน์โวยวายแกมตลกขบขัน

แต่เมื่อลองคิดดูให้ดี การจะให้สัตว์ประหลาดส่วนสูงสี่เมตร สอดจดหมายทางช่องว่างใต้ประตูนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย อีกฝ่ายแทบจะต้องอยู่ในท่าหมอบคลาน

แค่คิดก็ตลกแล้ว… ฮะฮะ… คราวหน้าที่เขียนจดหมาย เราจะระบุท้ายกระดาษให้มิสเตอร์อะซิกช่วยอบรมสั่งสอนผู้ส่งสารเสียบ้าง! อย่างน้อยก็ต้องมีมารยาทกว่านี้สักนิด…

ไคลน์คลี่กระดาษจดหมายอ่านคำตอบ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ