เมื่อจัสติส ออเดรย์ ตระหนักถึงความผิดปรกติของเดอะเฮอร์มิท หญิงสาวเกิดความสับสนเล็กน้อย
ในมุมมองของออเดรย์ ท่าทีดังกล่าวนับว่าผิดปรกติมาก เพราะเรื่องเล่าของแฮงแมนไม่มีส่วนใดเกี่ยวข้องกับเฮอร์มิทหรือมิสเตอร์ฟูล เป็นเพียงเรื่องเกี่ยวกับเทพสมุทรกำมะลอ คาเวทูว่า ที่ดูเหมือนจะร่วงหล่นไปแล้ว แต่กลับยังมอบวิวรณ์ให้สาวกได้อยู่ ฉะนั้น ไม่มีเหตุผลใดที่เดอะเฮอร์มิทต้องหันไปจ้องมิสเตอร์ฟูล
การร่วงหล่นของคาเวทูว่า… สาวกเทพสมุทรยังคงได้รับวิวรณ์อย่างต่อเนื่อง… มาดามเฮอร์มิทหันไปมองมิสเตอร์ฟูล…
หรือว่า…!
ดวงตาออเดรย์พลันลุกวาว หญิงสาวผุดข้อสันนิษฐานขึ้นมาหนึ่งเรื่อง
มิสเตอร์ฟูลคือผู้มอบวิวรณ์แก่สาวกเทพสมุทรแทนคาเวทูว่า…?
แล้วมาดามเฮอร์มิททราบเรื่องนี้ได้ยังไง?
เมื่อสมองเริ่มประมวลผล จัสติส·ออเดรย์พลันบิดร่างกายครึ่งรอบ หันไปมองเดอะฟูลที่กำลังนั่งผ่อนคลายบนเก้าอี้ตำแหน่งประธาน
ขณะเดียวกัน แฮงแมน·อัลเจอร์ก็กำลังประหลาดใจแกมตะลึง เมื่อเห็นอากัปกิริยาเกินความคาดหมายของเดอะเฮอร์มิท
เราเพียงต้องทดสอบปฏิกิริยาของเธอด้วยข่าวการตายของเลติเซีย สมาชิกนิกายมอสส์ แล้วทำไมอีกฝ่ายถึงหันไปมองมิสเตอร์ฟูล…
หรือหล่อนจะทราบว่า มิสเตอร์ฟูลคือเทพสมุทรตนปัจจุบัน… ท่าทีตอบสนองเมื่อครู่คงตีความเป็นอย่างอื่นไม่ได้อีกแล้ว!
หมายความว่า ก่อนที่มาดามเฮอร์มิทจะถูกดึงเข้าร่วมชุมนุมทาโรต์ เธอเคยคิดต่อกับมิสเตอร์ฟูล หรือไม่ก็แอบทำงานให้ท่านมาตลอด…?
ยิ่งครุ่นคิด อัลเจอร์ก็ยิ่งหวาดระแวงเฮอร์มิท
มันหันไปมองเดอะฟูลตามสัญชาตญาณ
ขณะเดียวกัน เมื่อทั้งแฮงแมน เดอะเฮอร์มิท และจัสติส ต่างหันไปมองเดอะฟูล แม้จะไม่ได้พร้อมเพรียงกัน แต่พฤติกรรมดังกล่าวก็มากพอจะทำให้ฟอร์สเอะใจถึงความไม่ปรกติ
พวกเขามองมิสเตอร์ฟูลทำไม… การตายของคาเวทูว่าเกี่ยวข้องอะไรกับท่านด้วยหรือ…
ทั้งเอ็มลินและฟอร์สต่างก็มีไหวพริบดี จึงพอจะคาดเดาสมมติฐานได้เบื้องต้น จึงพากันหันไปมองที่นั่งตำแหน่งประธาน
เดอะซัน·เดอร์ริคย่อมไม่ทราบว่าคาเวทูว่าเป็นใคร และไม่แน่ใจว่า การส่งวิวรณ์หลังจากตายไปแล้วมีความพิเศษอย่างไร แต่เมื่อเห็นทุกคนหันไปมอง มันจึงทำตาม
เดอะเวิร์ลหันช้ากว่าใครเพื่อน คล้ายกับกำลังครุ่นคิดในเรื่องสำคัญ
ไคลน์ เดอะฟูล ชำเลืองไปทางแฮงแมนเล็กน้อย ส่งผลให้อัลเจอร์เกิดอาการประหวั่นกะทันหัน แต่เพียงไม่นานก็กวาดสายตามองไปรอบห้อง
มาถึงจุดนี้ ไคลน์พอจะเดาได้ เฮอร์มิทกำลังคิดว่าตนคือผู้มอบวิวรณ์ให้เหล่าสาวกเทพสมุทร
ฉะนั้น ปัญหาในปัจจุบันก็คือ ตนควรตอบสนองต่อเรื่องนี้อย่างไร
จะให้ทำเป็นว่า
‘ก็แค่เรื่องเล็กน้อย ไม่มีค่าให้พูดถึง แต่ในเมื่อพวกเจ้าสงสัย เราก็จะอธิบายให้ฟัง…’
หรือ
‘ในฐานะเทพ เราไม่มีหน้าที่ตอบข้อสงสัยของพวกเจ้าทุกเรื่อง ไม่จำเป็นต้องปฏิเสธหรือยอมรับ…’
ไคลน์นั่งไตร่ตรองอุปนิสัยของเดอะฟูลสักพัก
ก่อนจะตัดสินใจได้
ทางเลือกของมันคือ ไม่ยอมรับ ไม่ปฏิเสธ ขณะเดียวกันต้องมอบคำตอบสุดกำกวม เพื่อให้คนที่ยังไม่เข้าใจ สับสนหนักยิ่งกว่าเก่า และเพื่อให้คนที่กำลังสงสัย ได้ขจัดความคาใจในประเด็นก่อนหน้า แต่ต้องสับสนยิ่งขึ้นกับประเด็นใหม่ที่กำกวมกว่าเดิม ด้วยวิธีนี้ ภาพลักษณ์มิสเตอร์ฟูลจะไม่ถูกทำลาย และไม่มีใครสามารถคาดเดาเจตนาที่แท้จริงถูก
หากทำสำเร็จ เดอะฟูลจะกลายเป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่และยากหยั่งถึงมากขึ้น
หลังจากครุ่นคิดสักพัก ไคลน์เอนหลัง เปล่งหัวเราะในลำคอ
“คาเวทูว่ากลายเป็นครึ่งเทพเพราะได้รับมรดกจากโคฮีเน็มแห่งภัยธรรมชาติ”
ดูเหมือนมิสเตอร์ฟูลจะเกี่ยวข้องกับเทพสมุทรจริง… แต่เราก็ยังไม่เข้าใจอะไรอยู่ดีว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง และเบื้องหลังมีความลับอย่างไร…
เมจิกเชี่ยน·ฟอร์ส ทำได้เพียงขมวดคิ้วพลางปะติดปะต่อเรื่องราว
คิดไว้แล้วเชียว… มิสเตอร์ฟูลยืนยันเป็นนัยด้วยตัวเอง แถมยังกรุณาบอกความลับเพิ่ม…
คทาครึ่งเทพด้ามนั้นเกิดจากตะกอนพลังของคาเวทูว่า หรือเป็นมรดกจากภัยธรรมชาติ…
หรือทั้งสองอย่าง? แล้วโคฮีเน็มเป็นใครกัน… ชื่อคล้ายชาวเอลฟ์… แฮงแมนเล่าว่า เลติเซียเข้าไปสำรวจโบราณสถานเอลฟ์ หรือที่นั่นจะเคยเป็นถิ่นพำนักของเอลฟ์ลำดับสูง…
แล้วมิสเตอร์ฟูลครอบครองคทาได้อย่างไร เป็นฝีมือของแฮงแมน… หรือคนอื่น? ไม่น่าใช่แฮงแมน เพราะหากเป็นเขา คงไม่หยิบเรื่องนี้ขึ้นมาพูดเอง…
เหตุใดมิสเตอร์ฟูลถึงต้องสวมรอยเป็นเทพสมุทร นี่คือส่วนหนึ่งของขั้นตอนฟื้นคืนพลัง หรือท่านต้องการมีอำนาจบนโลกความจริง?
ยิ่งเฮอร์มิท·แคทลียาครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเพียงใด เธอก็ยิ่งพบว่ามิสเตอร์ฟูลคือตัวตนที่ลึกลับเกินว่าจะหยั่งถึงด้วยจินตนาการ คล้ายเงามืดที่ถูกปกคลุมด้วยสายหมอก หลังจากมองทะลุหมอกเข้าไป แทนที่จะได้พบความจริง กลับต้องเผชิญความน่ากลัวและหวาดหวั่นแทน
นี่คงเป็นศึกระหว่างเทพกระมัง…
แคทลียาถอนหายใจเงียบงัน ห้วงอารมณ์กำลังหนักอึ้ง
เราเดาไม่ผิด!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ