ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ นิยาย บท 584

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 584 : รับเคราะห์
ราชันเร้นลับ 584 : รับเคราะห์
โดย
Ink Stone_Fantasy
หลังจากวางนกหวีดทองแดงลง ไคลน์ทำการเปิดเนตรวิญญาณ

ชายหนุ่มมองเห็นกระดูกสีขาวผุดขึ้นจากพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรงและขาดความน่าเกรงขาม แท่งกระดูกบรรจงก่อตัวเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่

ถ้าฉากการปรากฏตัวของผู้ส่งสารครั้งก่อน ๆ เป็นราวกับน้ำพุสวรรค์ในเทพนิยาย ฉากปรากฏตัวเมื่อครู่จะเป็นได้เพียงการเปิดก๊อกน้ำกลับด้าน

ไคลน์ยกมุมปากเล็กน้อย แสร้งทำเป็นไม่สังเกตเห็นความผิดปรกติ

ไม่กี่วินาทีถัดมา ผู้ส่งสารกระดูกขาวปรากฏกายอย่างสมบูรณ์ ด้วยส่วนสูงเกือบสี่เมตร ศีรษะจึงเลยทะลุเพดาน เบ้าตามีเพลิงทมิฬลุกโชนเงียบงัน

หลังจากพับจดหมายที่เพิ่งเขียนเสร็จ ไคลน์ยื่นแขนไปหาฝ่ามือของอีกฝ่าย

ภายในจดหมาย ชายหนุ่มเขียนอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างจิมมี่·เน็ค พ่อค้ามั่งคั่ง กับเอกสารโบราณที่ถูกค้นพบจากอนุสาวรีย์บรรจุศพของราชวงศ์ไบลัมแห่งทวีปใต้ รวมไปถึงความเชื่อมโยงกับพลเรือโทวายุ·คีลิงเกอร์ และพลเรือโทโรคภัย·เทรซี่ นอกจากนั้น ไคลน์ยังอธิบายว่าตนลอบเข้าไปในเรือเทรซี่สำเร็จ โดยแม้ภารกิจลอบสังหารจะล้มเหลว แต่ก็ได้ทิ้งวัตถุประจำตัวสำเร็จทำนายระบุพิกัดในภายหลัง

แน่นอน ไคลน์มิได้อธิบายว่าตนแทรกซึมเข้าไปด้วยวิธีใด ส่วนใหญ่เป็นการพรรณนาถึงพลังพิเศษของเทรซี่ รวมถึงวิธีการต่อสู้

หลังจากเห็นผู้ส่งสารใช้กำปั้นขนาดมหึมาที่สามารถส่งคนลอยไปในอากาศ จับคว้าจดหมายฉบับเล็กจากมือเล็กๆ ของมนุษย์เพศชายโตเต็มวัยไปถือ ไคลน์กระแอมในลำคอ :

“ฉันมีผู้ส่งสารประจำตัวแล้ว”

ได้ยินเช่นนั้น เพลิงทมิฬในเบ้าตาพลันไหววูบสองหนจนสามารถสังเกตเห็น ตามด้วยการแตกตัวกระจัดกระจายกลายเป็นน้ำตกโครงกระดูกแสนสง่างาม ไหลทะลุผ่านพื้นไม้ลงไปด้านล่าง

ไม่ต้องคอยพะวงว่าจะกลายเป็นผู้ส่งสารของฉันแล้วสินะ… เกลียดฉันมากขนาดนั้นเชียว? อา… ผู้ส่งสารเหล่านี้คงมาจากโลกแห่งความตาย และอาจรับใช้ทายาทเทพมรณามาทุกรุ่น… พวกนายชอบอยู่กับคนเก่งมากกว่า… ฉันเข้าใจ!

ขณะไคลน์กำลังจะเดินออกไปเช็กเอาต์โรงแรม จมูกเกิดคันขึ้นมากะทันหัน

ฮัดเช่ย! ฮัด…ชิ่ว! แค่ก! แค่ก!

น้ำมูกใสไหลย้อยมาพร้อมกับอาการไอจาม หน้าผากร้อนผ่าวราวกับถูกแผดเผา

ซวยฉิบ… เชื้อโรคของเทรซี่ที่ตกค้างอยู่ในร่างกายเรา ได้ทำปฏิกิริยากับสภาพอากาศหนาวเย็นสิบองศาเซลเซียสจนเกิดเป็นอาการป่วย…

ไคลน์ใช้ทิชชูหยาบสั่งน้ำมูกพลางไตร่ตรองว่า ตนควรประกอบพิธีกรรมอัญเชิญตัวเองหรือไม่ เพราะการนำร่างวิญญาณเข้าไปอยู่ในห้วงมิติเหนือสายหมอก อาจส่งผลให้ร่างเนื้อบนโลกฟื้นฟูตัวเองด้วยความเร็วสูงกว่าปรกติ

แต่หลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ไคลน์มองว่าวิธีดังกล่าวคงไม่ได้ผลด้วยสาเหตุสองประการ หนึ่ง อาการป่วยในร่างเนื้อน่าจะส่งผลไปถึงร่างวิญญาณด้วย เพราะร่างทั้งสองชนิดมีความสัมพันธ์ค่อนข้างลึกซึ้ง สอง หากปล่อยร่างเนื้อไว้โดยไม่คอยดูแล อาการคงมีแต่จะแย่ลง

ชักมึนหัวแฮะ…

ไคลน์จับหน้าผากพลางวางแผนกลับไปยังโรงแรมวายุครามเพื่อพบเดนิส จากนั้นค่อยประเมินอาการว่า ตนควรกินยาจากคลินิก หรือถึงกับต้องไปโรงพยาบาล

เมืองเงินพิสุทธิ์ บ้านตระกูลเบเกอร์

เมื่อเดอร์ริคได้รับผลของต้นพันธะวิญญาณส่องแสงจากเฮอร์มิท วัตถุดิบโอสถข้ารับใช้สุริยันจึงครบถ้วนสมบูรณ์

เด็กหนุ่มรีบปรุงโอสถโดยไม่รีรอ ได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นของเหลวสีทองอร่ามที่มีอุณหภูมิค่อนข้างสูง โดยขณะดื่มเข้าไป เดอร์ริครู้สึกราวกับลำคอของตนถูกแผดเผา

ดวงตาเด็กหนุ่มเริ่มส่องแสง ยิ่งผ่านไปนานก็ยิ่งเจิดจ้าประหนึ่งดวงอาทิตย์ย่อส่วนสองดวง

ผิวกายถูกฉาบด้วยแสงสว่างสุกใส มาพร้อมอักขระเวทมนตร์สีดำเด่นชัด

ในเวลาเดียวกัน เส้นผมของเด็กหนุ่มเริ่มงอกยาวจากปรกติ ดูคล้ายกับขนนกที่ห้อมล้มประดับตกแต่งเปลวเพลิงสีทอง

เดอร์ริคทราบล่วงหน้าว่า การดื่มโอสถลำดับ 7 จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในลักษณะดังกล่าว จึงปราศจากอาการตื่นตกใจ เพียงกัดฟันกรอด หวนนึกถึงความเจ็บปวดขณะลงมือสังหารบิดามารดาบังเกิดเกล้า หวนนึกถึงแสงแห่งความหวังที่มิสเตอร์ฟูลประทานให้ อาศัยอารมณ์อันเข้มข้นช่วยเอาชนะภาวะสุ่มเสี่ยงต่อการคลุ้มคลั่ง

ผ่านไปสักพัก ความผิดปรกติทั้งหมดกลับคืนสู่ความปรกติ แต่ออร่ารอบตัวเด็กหนุ่มเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างชัดเจน คล้ายกับดวงอาทิตย์อันอบอุ่นที่คอยมอบแสงสว่างไปยังรอบตัว

เดอร์ริคสัมผัสได้ว่าสมรรถภาพร่างกายดีขึ้น สามารถต้านทานเชื้อโรคและสิ่งแวดล้อมไม่ปรกติอีกหลายรูปแบบ

แต่นั่นยังไม่ใช่สาระสำคัญ เดอร์ริคกำลังสนใจเวทมนตร์ใหม่ที่พรั่งพรูเข้ามาในหัว

ประกอบไปด้วย ‘เพลิงแสงศักดิ์สิทธิ์’ ‘ต้านทานความกลัว’ ‘คำสาบานศักดิ์สิทธิ์’ ‘ฟาดฟันชำระล้าง’ ‘ออร่าสุริยัน’ ‘ทำน้ำมนต์’ และอีกมาก

เดอร์ริคเดินวนเวียนในห้องอย่างมีความสุขพลางรู้สึกว่า เวทมนตร์ชนิดใหม่ของตน เหมาะแก่การเผชิญหน้าสัตว์ประหลาดชั่วร้ายในความมืดเป็นอย่างมาก

เด็กหนุ่มไม่คิดปิดเป็นความลับ รีบเดินทางไปยังหอคอยคู่เพื่อลงทะเบียนข้อมูลเกี่ยวกับการเลื่อนลำดับของตน

ณ ที่นั่น หากผ่านการทดสอบเบื้องต้น มันจะมีคุณสมบัติเพียงพอสำหรับการเป็นหัวหน้าหน่วยลาดตระเวนทันที และมีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลของเมืองเงินพิสุทธิ์มากกว่าเดิม

มิสเตอร์เวิร์ลต้องการทราบวิธีลบจิตกัดกร่อนออกจากตะกอนพลัง…

หลังจากตอบคำถามกับเจ้าหน้าที่พอประมาณ เดอร์ริคอดไม่ได้ที่จะนึกถึงคำมั่นสัญญาซึ่งตนคิดค้างมานาน

มันมักหงุดหงิดใจทุกครั้งที่ตระหนักว่าตนยังติดค้างผู้อื่นอยู่ พาลให้รู้สึกแย่อยู่ร่ำไป แต่ในปัจจุบัน เมื่อเห็นโอกาสสะสางเรื่องดังกล่าวให้เสร็จสิ้น จิตใจเด็กหนุ่มจึงเริ่มเบิกบาน

ณ ผับใบไม้หอม ‘นักเจรจา’ มีซอร์·คิง กำลังถือแก้วไวน์แดงพลางนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ‘ชายฉกรรจ์’ โอซิล

มีซอร์ยกขาไขว่ห้างพร้อมกับตั้งคำถาม

“พอจะรู้รายละเอียดไหม”

มันได้รับมอบหมายจากพลเรือโทโรคภัยให้กลับมายังบายัม เพื่อสืบส่วนหาความจริงเบื้องหลังการค้นพบเอลเลนผมแดง แต่ก่อนอื่น มีซอร์เลือกนัดพบชายฉกรรจ์·โอซิลเป็นอันดับแรก เนื่องจากชายคนนี้คือผู้แจกจ่ายภารกิจตามหาเบาะแสในชุมนุมลับ แน่นอน มีซอร์ทราบดีว่าตนไม่สามารถไปถามกับกลุ่มต่อต้านโดยตรงได้ ด้วยเกรงว่าอีกฝ่ายอาจสมรู้ร่วมคิดกับเอลเลนผมแดงตัวปลอม เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น การนัดพบกับกลุ่มต่อต้าน ก็จะไม่ต่างอะไรกับการประเคนเงินค่าหัวตัวเองให้กับอีกฝ่าย

โอซิลดึงเก้าอี้ออกมานั่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ