หลังจากรอคอยตลอดช่วงกลางวันโดยไม่มีความคืบหน้าของเงินค่าหัว ไคลน์ตัดสินใจออกไปหาออส·เคนท์โดยตรง และยืนยันว่าอีกฝ่ายเริ่มดำเนินการแล้ว แต่เงินค่าหัวจะถูกจ่ายอย่างเร็วในวันพรุ่งนี้ตอนเช้า
ชายหนุ่มปลอมตัวเพื่อเข้าร่วมชุมนุมลับของผับปลากระโทงต่อทันที แต่น่าเสียดายที่ไม่มีวัตถุดิบโอสถของนักเชิดหุ่นขาย รวมไปถึงสมบัติวิเศษที่เน้นหนักด้านพลังโจมตี
หลังจากเปลี่ยนกลับเป็นหน้าปรกติ ไคลน์กดหมวกต่ำ พยายามเดินแหวกฝูงชนอย่างโฉ่งฉ่าง ออกจากผับในช่วงเวลาวุ่นวาย
ระหว่างนั้น ทุกสายตาที่หันมาจ้องมีอันต้องผงะด้วยดวงตาเบิกกว้าง หยุดทุกการกระทำนานไม่ต่ำกว่าสามวินาที คล้ายกับฉุกคิดถึงใครบางคนได้อย่างกะทันหัน
แทบทุกคนจะเบือนหน้าหนีโดยพลัน สองเท้าก้าวถอยหลังออกห่างจากไคลน์ เกิดเป็นภาพคล้ายกับทะเลแหวก
คนเหล่านี้คงได้ทราบความแข็งแกร่งและใบหน้าของเกอร์มัน·สแปร์โรว์จากหนังสือพิมพ์และข่าวลือ… ไม่น่าแปลกใจสำหรับสถานที่ซึ่งมีนักผจญภัยรวมตัวหนาแน่น..
ทุกคนคงทราบแล้วว่า เกอร์มัน·สแปร์โรว์คือนักผจญภัยเสียสติผู้ชักปืนยิงใส่นักเจรจา·มีซอร์ทันทีที่พบตัว ดังนั้น พวกเขาจึงต้องการอยู่ให้ห่างจากบุคคลอันตรายเข้าไว้…
ขณะเดียวกัน พ่อค้าราล์ฟผู้กำลังดื่มนั่งเบียร์ที่เคาน์เตอร์ เริ่มตระหนักว่ามีบางสิ่งไม่ปรกติเกิดขึ้นในผับปลากระโทง จึงหันหลังกลับไปมองตามสัญชาตญาณ
เพียงไม่นานก็ได้พบใบหน้าผอมเพรียวและคมเข้มของสุภาพบุรุษหนุ่ม ราล์ฟนำไปซ้อนทับกับภาพวาดของบุคคลผู้หนึ่งในหนังสือพิมพ์
เกอร์มัน·สแปร์โรว์ ชายผู้สังหารนักเจรจา!
ถัดมา ราล์ฟย้อนนึกถึงบทสนทนาระหว่างมันกับหัวกลุ่มต่อต้าน ไครัท ในช่วงเย็นที่ผ่านมา อีกฝ่ายเล่าว่านักผจญภัยเสียสติมิได้มองศาสนาเทพสมุทรในแง่ลบ แถมยังเคยเป็นประจักษ์พยานเมื่อครั้งกลุ่มต่อต้านเจรจาแลกเปลี่ยนกับกลุ่มโจรสลัดธารน้ำแข็ง
บางที เราอาจเปลี่ยนให้เขาหันมานับถือศาสนาเทพสมุทรได้… หรือต่อให้เขาไม่สนใจความเป็นอยู่ของชนพื้นเมือง แต่ก็อาจช่วยทำภารกิจสำคัญบางอย่างได้…
ราล์ฟประสานมือพลางเลื่อนขึ้นมาจ่อติดริมฝีปาก ท่าทางคล้ายกำลังเป่าแตรสังข์ นี่คือหนึ่งในสัญญาณมือของศาสนาเทพสมุทร·คาเวทูว่า
จากนั้น ราล์ฟลุกพรวด เดินไปทางเกอร์มัน·สแปร์โรว์พร้อมแก้วเบียร์ในมือ
ในเวลาเดียวกัน ไคลน์ตระหนักว่าราล์ฟกำลังเดินเข้าหาตน และจดจำอีกฝ่ายได้ในทันที
เพราะราล์ฟไม่ใช่ใครนอกจากสาวกเทพสมุทรผู้ยินดีบริจาคเงินสดสองหมื่นปอนด์!
อดีตเคยเป็นโจรสลัด ปัจจุบันคือพ่อค้าใจบุญที่ยอมลงทุนก่อตั้งมูลนิธิเพื่อการศึกษาเด็ก…
คนของมูลนิธิล้วนเป็นสาวกเทพสมุทรที่เคร่งศาสนา ไคลน์จึงได้ทราบในทุกแง่มุมของพ่อค้านามว่าราล์ฟ ดังนั้น ชายหนุ่มจึงเกิดคำถามว่าอีกฝ่ายเข้าหาเกอร์มัน·สแปร์โรว์ด้วยเหตุผลใด
จ้างงาน? มีงานแบบไหนที่กลุ่มต่อต้านทำไม่ได้ด้วยหรือ… ไคลน์จ้องราล์ฟพลางครุ่นคิด
“มิสเตอร์เกอร์มัน·สแปร์โรว์” ราล์ฟยกแก้ว
ไคลน์พยักหน้ารับ ตอบสนองตามธรรมชาติ
“ฉันไม่รู้จักนาย”
“ฮะฮะ! นักผจญภัยสองคนรู้จักกันได้ไม่ยากนักหรอก บางที อาจใช้เพียงเบียร์แก้วเบียร์” ราล์ฟชี้ไปทางเคาน์เตอร์บาร์ “สักแก้วไหม”
“ก็ดี” ไคลน์ยังคงคาใจ ตอบสนองกลับไปอย่างเรียบง่าย
นั่งลงบนเคาน์เตอร์บาร์ ชายหนุ่มสั่งเบียร์นันวีลล์หนึ่งแก้ว ดื่มและจ้องราล์ฟเป็นเวลานานโดยไม่กล่าวคำใด
การถูกบุคคลระดับพลเรือโจรสลัดเพ่งมองไม่ใช่เรื่องน่าสนุก ราล์ฟจิบเบียร์อย่างประหม่า พยายามสลายบรรยากาศตึงเครียดด้วยการหัวเราะแห้งในลำคอ
“ผมได้ยินชื่อเสียงของคุณมามาก ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ล่าสุดเสียอีก ผมทราบว่าคุณคือสุภาพบุรุษตัวจริงผู้เป็นมิตรกับชนพื้นเมือง”
ไคลน์ผุดคำตอบในหัวมากมาย แต่สุดท้ายก็เลือกสิ่งที่ตรงกับบุคลิกภาพของนักผจญภัยเลือดเย็นและเสียสติ
“เข้าประเด็น”
ราล์ฟแทบสำลัก กระแอมแห้งสองหน
“ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่มีโอกาสแนะนำให้คุณได้รู้จักกับพระองค์ เทพผู้คอยปกปักรักษาหมู่เกาะแห่งนี้ ท่านเทพสมุทร คาเวทูว่า อย่างที่คุณทราบ ท้องทะเลนั้นกว้างใหญ่ไพศาล ลมพายุนั้นน่ากลัว ลำพังตัวคนเดียวมิอาจทำอะไรได้มากนัก ไม่เว้นแม้แต่สี่ราชาโจรสลัดผู้โด่งดัง ไม่มีสิ่งใดรับประกันได้ว่าพวกเราจะรอดพ้นจากภยันตรายทุกครั้ง ด้วยเหตุผลนี้ ทุกคนจึงต้องมีเทพสำหรับยึดเหนี่ยวจิตใจ เทพผู้สามารถตอบสนองได้จริง เทพผู้ครอบครองพลังอำนาจในขอบเขตท้องทะเลและพายุ”
ไม่เพียงแนะนำให้เรารู้จักกับตัวเอง แต่ยังเชื้อเชิญให้เราศรัทธาตัวเองด้วย?
ไคลน์ฝืนระงับมุมปาก หันไปกล่าว
“สิ่งที่ฉันสนใจมากกว่านั้นคือ พวกนายมีสมบัติวิเศษพร้อมขายบ้างหรือไม่ ขอเป็นชนิดที่พลังทำลายรุนแรง”
ราล์ฟตอบด้วยรอยยิ้มซื่อตรง
“พวกเราไม่มีของแบบนั้น แต่ถ้าคุณชื่อในเทพสมุทร สักวันหนึ่ง พระองค์ท่านอาจประทานให้คุณ”
ฉันก็ไม่มีเหมือนกัน… อย่าให้สัญญากับคนอื่นส่งเดชสิวะ!
ไคลน์โกรธเคืองเจือขำขัน
เมื่อประเมินว่าบทสนทนาคงไม่คืบหน้า ชายหนุ่มจิบเบียร์นันวีลล์ในแก้วและกล่าว
“ขอคิดดูก่อน”
ขณะกำลังจะลุกจาก บาร์เทนเดอร์หันมายิ้มให้ด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน
“มิสเตอร์เกอร์มัน·สแปร์โรว์ มีใครบางคนเสนองานให้คุณ”
“งานอะไร” ไคลน์ย้อนถามพลางชำเลืองราล์ฟด้วยหางตา
อีกฝ่ายไหวพริบดี ถือเบียร์เดินออกไปอย่างเงียบงันโดยไม่ต้องให้บอก
ราล์ฟค่อนข้างพึงพอใจกับผลลัพธ์ในวันนี้ เพราะไม่คิดอยู่แล้วว่านักผจญภัยเสียสติจะยอมหันมาศรัทธาในเทพสมุทรทันที จุดประสงค์เพียงเพื่อให้อีกฝ่ายทราบว่าโอกาสยังเปิดกว้าง และนึกทบทวนเกี่ยวกับข้อดีข้อเสียอย่างถี่ถ้วน
รอจนกระทั่งบรรยากาศหน้าเคาน์เตอร์เริ่มเงียบลง บาร์เทนเดอร์มอบคำตอบพลางยิ้ม
“เขาอ้างตัวว่าเป็นนักปรุงยาที่คุณรู้จัก ต้องการมอบหมายงานสำคัญบางอย่าง หากคุณสนใจสามารถรอพบได้ที่นี่ ทางเราจะติดต่อเขากลับไปด้วยช่องทางที่ตกลงกันไว้”
นักปรุงยาที่เรารู้จัก? ดัควีลล์อ้วน? ดัควีลล์เจ้าของนกฮูกอ้วน? หมอนั่นต้องการจ้างงานแบบไหน? ช่วยเหลืออาจารย์ รอย·คิง?
เราคงรับภารกิจนั้นไม่ได้ ความเสี่ยงของงานมีมากเกินไป…
หลังจากสมองเริ่มประมวลผล ชายหนุ่มตัดสินใจรอฟังเนื้อหาของงานก่อน
“ตกลง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ