ไคลน์ใช้มือเคาะขอบโต๊ะทองแดงยาวที่มีลวดลายเก่าแก่ สมาธิจดจ่ออยู่กับความพิสดารของลูกเต๋าเจ้าปัญหา
“มันส่งอิทธิพลกับเราโดยไม่รู้ตัว… สรรพคุณคล้ายกับ 0-08 อย่างมาก เพียงแต่สิ่งหนึ่งซ่อนอยู่ในเงามืด และอีกสิ่งหนึ่งปรากฏตัวต่อหน้า… ต้องเป็นสมบัติปิดผนึกแน่นอน และคงมีระดับสูงอย่างมากในโลกผู้วิเศษ… ถ้าไม่ใช่ระดับ 0 ก็คงเป็นระดับ 1 ที่โดดเด่น จริงอยู่ ตัวเราอาจไม่มีพลังในการแทรกแซงโชคชะตา แต่ก็ไม่ควรปล่อยไว้เฉย ๆ เพราะโดยส่วนมากแล้ว สมบัติปิดผนึกที่คล้ายกันจะมีผลข้างเคียงรุนแรง อาจส่งอิทธิพลต่อผู้คนรอบตัวนักปรุงยาร่างท้วม หรืออาจมากไปถึงผู้โดยสารทุกคนบนเรือ” ไคลน์พยายามเค้นสมองคิดหาคำตอบสักพัก แต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป ทำเพียงส่งจิตกลับโลกความจริงด้วยมือเปล่า
อย่างไรก็ตาม ตัวมันอาจไม่ทราบวิธีผนึกลูกเต๋า แต่มันทราบว่าใครมีวิธี
ทารกผู้ยังอยู่ในครรภ์มารดา
ลำดับ 1 อสรพิษปรอท วิล·อัสติน
อสรพิษแห่งชะตาของโรงเรียนชีวิต
ครึ่งเทพที่ยังไม่ถึงกำหนดคลอด!
ไคลน์ออกจากห้องน้ำ เดินเข้าห้องนอนใหญ่ หยิบนกกระเรียนกระดาษออกจากกระเป๋าสตางค์แล้วคลี่วางบนโต๊ะ ยืนจ้องผิวกระดาษที่มีร่องรอยการลบและขีดเขียนสักพัก ตามด้วยการล้วงหยิบดินสอ เขียนคำถามเรียบง่ายลงไป
“ฉันต้องจัดการกับลูกเต๋านั่นอย่างไร”
ชายหนุ่มพับนกกระดาษกลับ เก็บในกระเป๋าสตางค์ จากนั้นก็เดินออกไปยังห้องนอนคนรับใช้ เคาะประตูสามครั้งอย่างมีมารยาท
พฤติกรรมเช่นนี้มิได้ขัดต่ออุปนิสัยของเกอร์มัน·สแปร์โรว์ เพราะแต่ไหนแต่ไร ทุกคนรู้จักมันในนามสุภาพบุรุษเสียสติ
แต่ความกังวลหลักของไคลน์คือ หากไม่เคาะส่งสัญญาณ การพรวดเปิดออกไปอาจบังเอิญทำให้นักปรุงยาอ้วนถูกบานประตูกระแทกตาย ภายในหัวชายหนุ่มกำลังจินตนาการฉากหนึ่งของภาพยนตร์สยองขวัญ ‘ไฟนอล·เดสทิเนชั่น’
นอกจากนั้น ไคลน์ยังกังวลว่าถ้าตนเปิดออกไปโดยไม่ให้สุ้มเสียง อาจเผลอไปเห็นฉากแสนอุจาดตาเข้า
จากนิสัยของดัควีลล์ ถ้าหมอนั่นตระหนักว่าตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวัง อนาคตมีเพียงความตายรออยู่ เป็นไปได้มากที่เขาจะทำเรื่องสัปดน เสพความสุขสุดยอดก่อนตาย…
ขณะไคลน์กำลังปรามาส เสียงของนักปรุงยาอ้วนดังจากด้านใน
“มีอะไรหรือ”
ขอบคุณที่ยังไม่ตาย…
ไคลน์เปิดประตูอย่างระมัดระวัง โน้มตัวไปด้านหน้า จ้องดัควีลล์และกล่องแหวนที่เปิดอยู่ตรงหน้าอีกฝ่าย ซักถามใจเย็น
“ตอนนี้เลขอะไร*”
“ข้างนอกไม่มีนาฬิกาแขวนรึไง” ดัควีลล์ตอบกลับด้วยสีหน้าซังกะตาย
“ฉันถามถึงลูกเต๋า” ไคลน์ตอบห้วน
(*ในภาษาจีน สามารถใช้ถามเกี่ยวกับเวลา)
“ยังค้างอยู่ที่สามแต้ม…” ดัควีลล์ตอบกลับตามสัญชาตญาณ ก่อนจะเอียงคอโพล่งถาม “นายยอมเชื่อฉันแล้วหรือ…”
ไคลน์ไม่ตอบ ไม่ยอมรับว่าเกอร์มัน·สแปร์โรว์เคยถูกลูกเต๋าปั่นหัว
มันบิดเอวเล็กน้อย กล่าวเสียงเรียบ
“นำลูกเต๋าไปไว้ข้างนอก”
“ด…ได้!”
“ตกลง!”
ดัควีลล์และนกฮูกแฮร์รี่ขานรับด้วยสีหน้ายินดีปรีดาอย่างพร้อมเพรียง
คนหนึ่งยกแขน อีกตนยกปีก
รอให้นักปรุงยาอ้วนปิดกล่องแหวนอย่างระมัดระวัง ไคลน์ชี้ไปทางโต๊ะกาแฟ
“วางไว้บนนั้น”
กล่าวจบ ชายหนุ่มเดินไปนั่งบนโซฟา วางศอกลงบนต้นขา โน้มตัวไปด้านหน้าเพื่อตรวจสอบลูกเต๋าพิสดารอย่างถี่ถ้วน
จากรูปลักษณ์ภายนอก… ลูกเต๋านี้ไม่เหมือนกับของวิเศษในโลกศาสตร์เร้นลับ จุดแตกต่างจากลูกเต๋าทั่วไปคือ จุดสามแต้มที่ควรจะเป็นสีดำ กลับเป็นจุดสีแดงเหมือนกับเลขคู่…
ไคลน์ไม่ใช้มือจับส่งเดช เหยียดหลังตั้งตรง จ้องไปทางนักปรุงยาอ้วน
ดัควีลล์เดินมานั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม นกอ้วนแฮร์รี่บินเกาะขอบด้านบนของเก้าอี้ตัวเดียวกัน
“อธิบายให้ฉันฟังอย่างละเอียด”
ดัควีลล์ไม่คิดปิดบังเรื่องใดอีก รอยยิ้มของมันดูเหมือนร่ำไห้มากกว่าหัวเราะ
“สิ่งนี้เป็นสมบัติปิดผนึกชิ้นสำคัญขององค์กร ภารกิจของฉันคือการนำมันไปส่งมอบให้สมาชิกบางคนบนเกาะโอลาวี แต่ก็อย่างที่นายเห็น มันอันตรายเกินไป สามารถทอยตัวเองแม้ว่าจะไม่มีช่องว่างเพียงพอให้ลูกเต๋าหมุน! หากทอยได้หกแต้ม ผู้ถือจะโชคดีอย่างมาก ทุกการกระทำล้วนสำเร็จลุล่วงง่ายดาย เฉกเช่นที่ฉันเคยหลอกนายด้วยข้ออ้างเส็งเคร็ง”
อย่าขุดมันขึ้นมา… สักวันนายจะได้ตายเพราะปากเส็งเคร็ง…
ไคลน์นั่งฟังด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
ดัควีลล์เสริม
“หากทอยได้หนึ่งแต้ม ผู้ถือจะประสบความอับโชคอย่างที่สุด ไม่ว่าทำสิ่งใดก็ล้มเหลวไปทุกเรื่อง แม้ว่าฉันจะอธิบายให้ฟังด้วยเหตุผลรอบคอบรัดกุม แต่นายก็จะไม่เชื่ออยู่ดีสองแต้มจะมีความโชคร้ายน้อยกว่า แต่นั่นก็มากพอจะทำให้ฉันถูกฟ้าผ่า… บ้าบอสิ้นดี! สามและสี่แต้มคือสภาวะความโชคร้ายและโชคดีในระดับปรกติ ฉันสามารถยืนยันได้ ส่วนห้าแต้มจะตรงกันข้ามกับสองแต้ม”
นายยังไม่ดวงซวยมากพอ ไม่อย่างนั้นคงถูกฉันซัดปากปางตายไปแล้ว…
ไคลน์ครุ่นคิดสักพัก ออกคำสั่งอย่างใจเย็น
“นับแต่นี้เป็นต้นไป พวกนายต้องผลัดเวรกันเฝ้าลูกเต๋า หากลดต่ำกว่าสามแต้มเมื่อไร ให้รีบแจ้งฉันทันที”
“พวกเรา?” ดัควีลล์ตามบทสนทนาไม่ทัน
“หมายถึงข้าหรือ” นกฮูกที่เกาะบนหลังเก้าอี้พลันยกปีกขวาขึ้น
ไคลน์เอนหลังพิงโซฟา ยกขาขวาไขว่ห้างทับขาซ้าย กล่าวอย่างสุขุม
“ผลัดเวรเพื่อถนอมพลังงานและสมาธิ”
กล่าวจบ ชายหนุ่มใช้คางชี้นกฮูก
“เริ่มจากแกก่อน”
“ข้าชื่อมิสเตอร์แฮร์รี่” นกฮูกพึมพำ
แฮร์รี่… ไคลน์กลั้นยิ้ม หันไปจ้องดัควีลล์
“นายไปสั่นกระดิ่งเรียกบริกร นับแต่นี้ไป พวกเราจะกินข้าวด้วยบริการสั่งอาหาร ก่อนไปถึงโอลาวี พวกนายต้องอยู่แต่ในห้องนั่นเล่นเท่านั้น ไม่อนุญาตให้ไปไหนเด็ดขาด แม้แต่ตอนเข้าห้องน้ำ ก็ต้องรอให้ลูกเต๋าทอยออกมาเป็นสามหรือสี่แต้ม ถ้าอั้นไม่ไหว ฉันจะเตรียมถังให้”
เมื่อได้ยินคำสั่งอย่างฉะฉานจากเกอร์มัน·สแปร์โรว์ นักปรุงยาอ้วนเริ่มผ่อนคลาย มิได้เต็มไปด้วยความหวาดกลัวเหมือนกับตอนแรก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ