ออเดรย์ออกจากคฤหาสน์ไปยังบ้านพักตากอากาศในเมือง หลังจากคอยดูแลเหล่าเด็กๆ ที่เป็นลูกหลานขุนนางท้องถิ่นเสร็จ เธอกลับมายังคฤหาสน์และสั่งให้คนรับใช้ออกไปยังธนาคารบาวาร์ดเพื่อเบิกเงินสด
ปัจจุบัน หญิงสาวไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการจับจ่ายใช้สอย สามารถชำระหนี้สองพันปอนด์ของข้ารับใช้เดอะฟูล รวมถึงหนึ่งพันแปดร้อยปอนด์เป็นค่าตะกอนพลังนักจิตบำบัดของมิสเตอร์เวิร์ล
ผ่านไปสิบห้านาที ออเดรย์เปิดประตูห้องนอนพลางใช้หางตาชำเลืองแอนนี่ สาวใช้ส่วนตัวที่กำลังคุมงานสาวใช้ระดับล่าง และชำเลืองสุนัขขนทองที่กำลังนอนหมอบข้างกำแพงห้อง
หญิงสาวเผยรอยยิ้ม กล่าวเสียงแผ่วเบาด้วยดวงตาเปล่งประกาย
“ซูซี่… เธอกำลังจะได้รับของขวัญพิเศษ! ตื่นเต้นไหม?”
หากเป็นออเดรย์คนก่อนคงพูดว่า ‘ซูซี่ ของขวัญของเธออยู่ในห้อง!’ จากนั้น โกลเด้นรีทรีเวอร์ตัวใหญ่ก็จะวิ่งเข้าไปค้นหาอย่างสนุกสนาน แต่สำหรับปัจจุบัน ซูซี่ที่ได้รับการศึกษาด้านศาสตร์เร้นลับมาพอสมควร ลำพังการดมกลิ่นก็มาพอจะช่วยให้ค้นพบวัตถุวิญญาณได้ง่ายดาย
เมื่อได้ยินเจ้านายเปลี่ยนวิธีการพูด ความน่าจะเป็นจึงมีได้หลากหลายผลลัพธ์ เช่น ของขวัญจะถูกส่งมาถึงในอีกหลายวัน หรือ ของขวัญจะถูกส่งมาถึงในอีกไม่กี่นาที หรือ ต้องไปเอาของขวัญที่อื่นที่ไม่ใช่ห้องนอนเหมือนกับทุกที
ซูซี่เงยหน้าและพบว่าออเดรย์กำลังตื่นเต้น เป็นสีหน้าเปี่ยมความยินดีจากก้นบึ้ง เธอจึงเตรียมเปิดปากเพื่อสั่นสะเทือนอากาศ ซักถามว่าของขวัญดังกล่าวคือสิ่งใด แต่บังเอิญเหลือบไปเห็นว่าแอนนี่ สาวใช้ส่วนตัวของออเดรย์ยังยืนอยู่ไม่ห่างออกไป จึงล้มเลิกความคิดดังกล่าวอย่างรอบคอบ
ซูซี่กลับไปเป็นสุนัขธรรมดา เพียงสั่นกระดิกหางด้วยสีหน้าคาดหวัง
หลังจากใช้ข้ออ้างพาสุนัขออกไปเดินเล่น หญิงสาวแอบเข้าไปในห้องทดลองเคมีเพื่อเตรียมตัวปรุงโอสถ ‘นักจิตบำบัด’ ส่วนผสมชิ้นแล้วชิ้นเล่าถูกวางเตรียมไว้อย่างเพียบพร้อม
“แฮ่ม! ซูซี่ เธอยังจำขั้นตอนการปรุงโอสถจากครั้งที่แล้วได้ไหม” หญิงสาวกระแอมล้างคอ เหยียดหลังตรง สวมวิญญาณคุณครูอย่างตื่นเต้น
“โฮ่ง! จำได้!”
เมื่อซูซี่ทราบว่าของขวัญคือสิ่งใด โกลเดนรีทรีเวอร์ขนทองพลันส่งเสียง ‘โฮ่ง’ กังวาน
ออเดรย์ตอบเสียงขรึม
“ดีมาก! ไหนลองปรุงด้วยตัวเองดูซิ”
ซูซี่ก้มมองอุ้มเท้าหน้าทั้งสองข้าง ตามด้วยการเงียบไปเป็นเวลานาน
ออเดรย์เพิ่งรู้ตัวเมื่อสาย เผยสีหน้ากระอักกระอ่วน หมดคำจะกล่าวไปชั่วขณะ
จนกระทั่งผ่านไปสักพัก ออเดรย์รีบชิงพูดด้วยรอยยิ้มพิสดารบนใบหน้า
“ล…ล้อเล่นน่ะ! เธอกำลังจะพูดว่า ‘ออเดรย์ ฉันเป็นแค่สุนัข คงผสมโอสถไม่ได้หรอก’ ใช่ไหมล่ะ! ฉันรู้ทัน!”
น…น่าอายจัง… น่าอับอายเกินไปแล้ว!
ออเดรย์ที่กำลังแสดงกิริยาสง่างาม ภายในใจกำลังอับอายในความป้ำเป๋อของตัวเอง
“โฮ่ง!” ซูซี่พยักหน้ารับ
อาศัยโอกาสดังกล่าว หญิงสาวหันหลังกลับไปปรุงโอสถนักจิตบำบัดจนเสร็จสมบูรณ์
เธอถามซูซี่ล่วงหน้าแล้ว อีกฝ่ายยืนยันว่าโอสถเก่าถูกย่อยสมบูรณ์ภายในวันพุธที่ผ่านมา
ยังไม่ถึงสองเดือน… ฮึ! เธอย่อยโอสถได้ง่ายเพราะไม่เป็นที่สนใจต่างหาก สามารถเดินไปไหนมาไหนในคฤหาสน์ได้อย่างอิสระ รวมถึงแอบฟังการซุบซิบจากบรรดาสาวใช้… แต่นั่นก็ถือเป็นเรื่องดี หากไม่มีซูซี่ เราคงไม่ทราบว่าหลาย ๆ คนมีด้านมืดอยู่ แม้เวลาปรกติจะใจดีและตั้งใจทำงานก็ตาม…
ออเดรย์เทโอสถใส่ชามบนพื้น
หญิงสาวก้มมองซูซี่ที่เดินเข้ามาเลีย ภายในใจเกิดความคาดหวังและกังวล
ซูซี่อาจได้รับผลข้างเคียงจากโอสถ ส่งผลให้อารมณ์ไม่คงที่เหมือนกับเรา…
แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะมิสออเดรย์ นักจิตบำบัดมือฉมังอยู่ตรงนี้ทั้งคน! เตรียมพร้อมใช้พลัง ‘ปลอบโยน’ ในทุกสถานการณ์!
หืม… อันที่จริง เรากลับชอบชื่อ ‘นักจิตวิเคราะห์’ มากกว่า ฟังดูเป็นมืออาชีพดี…
ดวงตาสีเขียวมรกตของออเดรย์จ้องมองซูซี่อย่างไม่กะพริบ จากนั้นก็พบว่ารูม่านตาของอีกฝ่ายเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นทรงรีแนวตั้ง ใต้ชั้นขนสีทองนุ่มฟูผุดเกล็ดแข็งปกคลุม พลังวิญญาณเริ่มเอ่อล้นออกจากร่างกายทีละนิด คล้ายกับกำลังขยายขนาดปกคลุมทั่วคฤหาสน์
หญิงสาวยังคงสำรวจอาการอีกฝ่ายอย่างใจเย็นและรอบคอบ หากพบความผิดปรกติแม้เพียงเล็กน้อย เธอพร้อมใช้พลังพลังพิเศษของนักจิตวิเคราะห์ทันที
ผ่านไปสักพัก ซูซี่อ้าปากส่งเสียงสดใส
“ออเดรย์ ฉันทำได้แล้ว!”
“…”
ออเดรย์หมดคำจะกล่าวเป็นเวลานาน
…
ภายในความฝัน เดซีย์ได้กลับมายังเขตตะวันออกอีกครั้ง หยุดยืนอยู่หน้าบ้านพักหลังเก่าที่เคยอาศัยร่วมกับมารดาและพี่สาว
เธอผลักประตูเข้าไป พบไลฟ์กับเฟรย่ากำลังซักผ้าอย่างขะมักเขม้น
หัวใจเดซีย์พลันพองโต เตรียมเข้าไปช่วยคนทั้งสองซักเสื้อผ้า
แต่ทันใดนั้น เด็กสาวได้ยินเสียงเคาะประตูดังจากด้านหลัง
เมื่อมองกลับไป เธอพบผู้มาเยือนเป็นชายผมดำดวงตาสีเขียว สวมชุดนายตำรวจสัญญาบัตร
ใบหน้าอีกฝ่ายค่อนข้างพร่ามัว ในมือถือสมุดบันทึกและปากกา พลางส่งเสียงซักถาม
“ในคดีคาพิน นอกจากสิ่งที่เธอเคยให้ปากคำกับตำรวจ มีอะไรที่ยังไม่ได้เล่าอีกไหม”
“มีค่ะ แต่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ” เดซีย์ตอบกำกวม
ตำรวจหน้าตาดีก้มมองสมุดบันทึกในมือ
“ไม่เป็นไร ฉันอยากฟัง”
เดซีย์ชำเลืองไปทางเสื้อผ้าที่แขวนตากตรงมุมสายตา คล้ายต้องการกลับไปทำงานมากกว่า
อย่างไรก็ตาม เด็กสาวตัดสินใจเล่ารายละเอียดยิบย่อยอย่างซื่อตรง และปิดท้ายด้วย :
“หลังจากฉันถูกลักพาตัว คุณแม่และพี่สาวได้จ้างนักสืบเอกชนคนหนึ่งให้ช่วยตามสืบ เขาคือมิสเตอร์เชอร์ล็อก·โมเรียตี้ แต่สุดท้ายก็ตามหาฉันไม่พบ โดยหลังจากนั้น นักข่าวคนหนึ่งได้เป็นปากเสียงในการเรียกร้องค่าชดเชยจากมูลนิธิการกุศลให้ฉัน”
ตำรวจเจ้าของเส้นผมสีดำและดวงตาสีเขียวเงยหน้ามองเดซีย์ เผยรอยยิ้มอบอุ่น
“ขอบคุณมาก ผมพึงพอใจกับคำตอบ แล้วยังจำหน้านักสืบเอกชนคนนั้นได้ไหม”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ