ผ่านไปสองสามก้าว ชายหนุ่มคันคอจนต้องไอกระแอมสองหนโดยใช้กำปั้นปิดปาก
สำหรับอาการป่วย มันไม่ประหลาดใจสักเท่าไร เพราะเมื่อคืนต้องพกขวดพิษชีวภาพไว้กับตัวนานเกินสองชั่วโมง ด้วยเกรงว่าพลเรือเอกดวงดาวและลูกเรืออาจคิดไม่ซื่อกับตน แต่หลังจากผ่านไปสักพักจนมั่นใจ ขวดพิษก็ถูกลำเลียงกลับมิติหมอก อย่างไรก็ตาม นั่นยังไม่เพียงพอจะให้รอดจากอาการป่วยกระเสาะกระแสะ
แต่เนื่องจากพกขวดพิษติดตัวไว้ไม่นาน ร่างกายจึงมิได้อ่อนแอลง อาการมีเพียงคันคอและไอกระแอม
ขณะเดียวกัน แคทลียาที่เดินตามหลังอย่างไม่รีบร้อนได้เห็นภาพดังกล่าวเข้าพอดี แต่เธอมิได้คิดว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องแปลก อยู่ในขอบเขตที่สามารถหาเหตุผลรองรับได้
เป็นที่ทราบกันดีว่า การพกพาสมบัติวิเศษจะมาพร้อมผลข้างเคียงเสมอ และเธอได้เห็นตัวอย่างจากเจ็ดโบสถ์หลักแล้วว่า ในบางกรณี หากพกพาติดตัวเป็นเวลานานเกินไป สมบัติวิเศษก็อาจส่งผลข้างเคียงร้ายแรงได้ไม่แพ้สิ่งที่เรียกว่าสมบัติปิดผนึก
นั่นยังเป็นเหตุผลที่แคทลียาตัดสินใจขายสมบัติวิเศษระดับกลางและต่ำไปจนหมด เธอต้องการเงินก้อนใหญ่เพื่อซื้อสมบัติวิเศษทรงพลังจำนวนน้อยชิ้น มากกว่าพกพาสมบัติวิเศษระดับต่ำหลายชิ้น และอีกหนึ่งเหตุผลก็คือ หญิงสาวไม่ต้องการมัวกังวลกับผลข้างเคียงหลายชนิดให้ปวดหัว การมีเพียงน้อยชิ้นจะช่วยให้หลีกเลี่ยงได้ง่ายกว่า อีกทั้งยังไม่ต้องกังวลหายนะแบบลูกโซ่ ซึ่งอาจเกิดจากการซ้อนทับของผลข้างเคียงหลายประเภท สำหรับผู้วิเศษทั่วไป สิ่งเหล่านี้เป็นโทษมากกว่าประโยชน์
เมื่อวานเธอได้เห็นไปแล้วว่าเกอร์มัน·สแปร์โรว์พกพาสมบัติวิเศษเต็มอัตราศึกเพียงใด แถมยังมียันต์กับวัตถุวิเศษอีกจำนวนหนึ่ง แคทลียาจึงนึกสงสัยมาตลอดว่า ผลข้างเคียงแบบใดจะเกิดขึ้นกับร่างกายอีกฝ่ายบ้าง และปัจจุบันก็เริ่มเผยให้เห็นแล้ว
หลังจากย่างกรายออกมายังดาดฟ้าเรือ ไคลน์พบแฟรงค์·ลี อีกฝ่ายยังคงสวมเชิ้ตขาวและกางเกงยีนส์ติดสายรัดบ่า ชายแขนเสื้อถูกถกขึ้นสูงจนเผยให้เห็นท่อนแขนเปื้อนโคลน ราวกับไม่เกรงกลัวอากาศหนาวเย็นแม้แต่น้อย
“อรุณสวัสดิ์ เกอร์มัน” แฟรงค์โบกมืออย่างกระตือรือร้น “เข้ามาสิ! ฉันจะให้นายดูผลงานชิ้นโบแดงชนิดล่าสุด! มันจะต้องได้รับความนิยมในทะเลอย่างแน่นอน!”
แฟรงค์กล่าวพลางชูมือข้างหนึ่ง บนฝ่ามือมีปลาทะเลตัวใหญ่และหนาซึ่งไม่ทราบสายพันธุ์
ไม่มีทาง… ฉันไม่อยากรู้สักนิด ว่านายกำลังจะสร้างสัตว์ประหลาดแบบไหนออกมาอีก…
ไคลน์ชะงักฝีเท้า จ้องมองด้วยสายตาเย็นชา
แฟรงค์·ลีมิได้มองว่าท่าทีตอบสนองเช่นนี้เป็นเรื่องผิด เพียงหยิบมีดสั้นออกจากเอวและแทงเข้าไปในตัวปลา ก่อนจะตวัดมือกรีดเป็นทางยาว
เลือดสดพุ่งกระฉูด ส่วนหนึ่งตกลงไปในแก้วเบียร์ใบใหญ่บนพื้นดาดฟ้า แต่กลับมิได้ส่งกลิ่นคาวปลาออกมาอย่างที่ควร
“ได้กลิ่นไหม? กลิ่นอันแสนเย้ายวนยังไงล่ะ!” แฟรงค์·ลีหลับตาลงหนึ่งข้าง กล่าวด้วยสีหน้าตื่นเต้นยินดี “นี่คือปลาที่มีเลือดเป็นไวน์แดง! แถมยังเป็นไวน์ที่อุดมไปด้วยสารอาหาร!”
ไคลน์ถึงกับหมดคำพูด
แฟรงค์มองไปยังลูกเรือรอบตัวอย่างตื่นเต้น จากนั้นก็กล่าวกับเกอร์มัน·สแปร์โรว์
“คุณรู้ไหมว่าเรื่องใดสร้างความรำคาญใจมากที่สุดในทะเล? ถูกต้อง นั่นคือการที่แอลกอฮอล์หมดก่อนเรือจะแล่นถึงฝั่ง! แต่ถ้าปลาตัวนี้ขยายพันธุ์จนเต็มท้องทะเลเมื่อไร ไม่ว่าพวกเราจะเดินทางไปที่ใดก็ไม่มีวันขาดเหล้า! แต่รสชาติต้องหลากหลาย แลงติร้อนแรงบ้าง เนโพสบ้าง ไวน์แดงบ้าง เบียร์บ้าง แต่ถ้าเบียร์ต้องเป็นวาฬกับฉลาม ไม่อย่างนั้นจะไม่พอกิน!”
ไม่ใช่ว่า ปัญหาใหญ่บนเรือคือการขาดแคลนน้ำดื่มหรอกหรือ? นั่นสินะ พวกนายคงซัดเหล้ากันต่างน้ำ เพราะย่อยได้ง่ายกว่ามาก…
เฮ่อ… เจ้าปลาผู้น่าสงสาร…
ขณะไคลน์กำลังไตร่ตรองว่าตนควรตอบสนองแฟรงค์อย่างไร พลเรือเอกดวงดาวเดินเข้ามาใกล้พลางซักถามรองกัปตันเรือ
“นีน่าพร้อมหรือยัง”
“พร้อมครับ เธอดื่มเนโพสไปแล้วหนึ่งขวด” แฟรงค์ชี้ไปทางเงามืดที่เกิดจากใบเรือ
เตรียมพร้อมด้วยการดื่มเนโพสซึ่งมีรสชาติคล้ายลำคอถูกแผดเผาเข้าไปหนึ่งขวด?
ไคลน์เชื่อว่า สตรีนามนีน่าจะต้องมีสายเลือดฟุซัคอย่างแน่นอน
“กัปตัน แต่ฉันอยากกินไวน์เลือดโซเนียมากกว่า!” ภายในเงามืด ร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งเดินออกมาอย่างใจเย็น
ส่วนสูงเกินกว่า 1.8 เมตร เส้นผมสีทองถูกมัดรวบสูงเป็นทรงหางม้า ใบหน้าไม่โดดเด่น แต่ก็แฝงเอกลักษณ์ของชาวฟุซัค ผิวพรรณขาวเนียนและดวงตาสีอ่อน
สตรีนามนีน่าสวมชุดรัดรูปสีดำสนิทที่ทำจากเกล็ดปลา ท่อนล่างและบนเชื่อมติดกันเป็นเนื้อเดียว ช่วยส่งเสริมทรวดทรงอันเซ็กซี่
และเนื่องจากขนาดหน้าอกที่ใหญ่เกินมาตรฐานไปพอสมควร สายตาของโจรสลัดโดยรอบจึงไม่มองไปทางอื่น
ไคลน์ค่อนข้างกระอักกระอ่วน ในใจต้องการเบือนหน้าหนี แต่เมื่อพิจารณาว่าเกอร์มัน·สแปร์โรว์มิใช่ไก่อ่อนไร้เดียงสา จึงทำเพียงลดประกายในดวงตาลง และเงยขึ้นไปจ้องใบหน้าหญิงสาวอย่างไร้อารมณ์
“เกอร์มัน ทางนี้คือนีน่า หนึ่งในสรั่งเรือของพวกเรา เป็นรองหัวหน้าสรั่งเรือ ลำดับปัจจุบันของเธอคือ ‘นักเดินเรือ’ ” แฟรงค์·ลียังคงแนะนำตัวพวกพ้องแบบไม่หวงแหนข้อมูล
หากไม่นับการผสมข้ามสายพันธุ์ที่ขาดจิตสำนึก ‘ผู้เชี่ยวชาญพิษ’ คนนี้นับว่าใสซื่ออย่างมาก… จำได้แล้ว สตรีนามว่านีน่าเป็นเจ้าของค่าหัวสามพันหกร้อยปอนด์ ฉายาคือ ‘นักฆ่าก้นทะเล’ เฮ่อ… ใบประกาศจับมีมากเกินไป หลายครั้งก็จำไม่ได้ในทันที…
ไคลน์จ้องตานีน่า กล่าวเรียบง่าย
“อรุณสวัสดิ์ มาดาม”
นีน่ายิ้ม สำรวจไคลน์หัวจรดเท้า
“อรุณสวัสดิ์ มิสเตอร์สแปร์โรว์ ฉันสงสัยมานานแล้ว พลเรือโทโรคภัยงดงามและทรงเสน่ห์ตามข่าวลือจริงหรือไม่”
ในฐานะที่เป็นโจรสลัดจากครอบครัวชนชั้นกลางค่อนไปทางล่าง เธอไม่แบ่งแยกชายหญิง ปราศจากความเขินอายที่จะสนทนากับเพศชาย
หลังจากเห็นท่าทีตอบสนองเมื่อครู่ของเกอร์มัน·สแปร์โรว์ นีน่าต้องการถามกับอีกฝ่ายว่า ตนยังเซ็กซี่ไม่มากพอ หรือเพราะเขาเป็นคนตายด้านกันแน่ จึงเมินกันเฉยโดยสมบูรณ์เช่นนี้
แต่หลังจากไตร่ตรองอย่างละเอียดและตระหนักว่า บุรุษตรงหน้าคือบุคคลทรงพลังที่เกือบ ‘ล่า’ พลเรือโทโรคภัยสำเร็จ และยังเป็นคนที่ชักปืนยิงใส่ศัตรูได้อย่างเลือดเย็น นีน่าตัดสินใจกลืนคำถามข้างตนลงคอ เลือกเบี่ยงประเด็นไปถามเกี่ยวกับพลเรือโทโรคภัยแทน
ควรตอบยังไงดี…
ไคลน์ครุ่นคิด ก่อนจะมอบคำตอบเสียงแผ่ว
“ค่าหัวของหล่อนมีเสน่ห์มาก”
นีน่าผงะไปหลายวินาที ไม่ทราบว่าตนควรตอบสนองเช่นไร ก่อนจะหันไปถามกับพลเรือเอกดวงดาว
“กัปตัน เริ่มเลยไหม”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ