ฟอร์สสวมหมวกติดตาข่ายคลุมหน้าสีดำ ทัดดอกไม้สีฟ้า ยืนรออาจารย์โดเรี่ยน·เกรย์
ฝนกำลังโปรยลงบนถนน ลมหนาวพัดขึ้นมาจากสถานีรถไฟใต้ดิน หญิงสาวนักเขียนนิยายขายดีเริ่มออกอาการสั่นเทาพร้อมกับตระหนักว่า เธอดูแคลนสภาพอากาศกรุงเบ็คลันด์เกินไป
ไม่น่าเชื่อว่าซิลจะออกมาข้างนอกได้ตลอดทั้งปีโดยไม่มีวันหยุดพัก… ถ้าจำไม่ผิด เธอเคยเล่าให้ฟังว่า ก่อนบิดาจะเสียชีวิต เธอแทบไม่เคยลุกออกจากเตียงนอกจากตอนไปเข้าห้องน้ำ เพราะมีคนรับใช้คอยประเคนอาหารถึงเตียงนอนทุกมื้อ แต่ในปัจจุบัน เธอต้องออกจากบ้านตั้งแต่เช้าตรู่และกลับดึกทุกวันโดยไม่แยแสสภาพอากาศ จับอาชญากรคนแล้วคนเล่นโยนเข้าตาราง…
ครุ่นคิดถึงตรงนี้ ฟอร์สอดชื่นชมซิลไม่ได้
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่เพียงเจ้าพนักงานหญิงจะชำระหนี้เก่าจนหมด แต่ยังสามารถออมเงินเพิ่มได้อีกถึงสองร้อยปอนด์!
ต้องยอมรับว่า เจ้าพนักงานคือเส้นทางที่เหมาะแก่การประกอบอาชีพนักล่าค่าหัวอย่างมาก ขอเพียงเจาะจงเลือกเหยื่อที่มีลำดับต่ำกว่าตัวเอง…
ขณะความคิดฟอร์สกำลังกระจัดกระจาย สายตาเธอเหลือบเห็นบุคคลที่คุ้นเคย
อีกฝ่ายคือสุภาพบุรุษรูปร่างสันทัด สวมโค้ทสีดำที่นิยมอย่างมากในกรุงเบ็คลันด์ หมวกผ้าไหมทรงกึ่งสูง ไหล่กว้างจนเกือบจะผิดปรกติ
นี่คืออาจารย์ของฟอร์ส สมาชิกที่หลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่คนของตระกูลอับราฮัม
โดเรียน·เกรย์·อับราฮัม
ฟอร์สเผยสีหน้าโล่งใจ ยกร่มขึ้นพร้อมกับเดินไปหาอีกฝ่าย
เนื่องจากถนนเต็มไปด้วยผู้คน ฟอร์สจึงเข้าใกล้อาจารย์ของตนได้ไม่ง่ายนัก ขณะยังเหลือระยะห่าง เธอบังเอิญเห็นอาจารย์ยกกำปั้นขึ้นมาทาบบนกระดุมเม็ดแรกของเสื้อ
สัญญาณนี้มัน… อันตราย!
ฟอร์สรีบเบือนหน้าหนีอย่างเป็นธรรมชาติ หันไปยิ้มให้สุภาพบุรุษหนุ่มด้านหลัง ก่อนจะเดินออกจากแถว ผ่านโดเรียน·เกรย์ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ตระกูลเก่าแก่อย่างอับราฮัมย่อมมีประสบการณ์โชกโชน หลังจากได้รับความเสียหายหนแล้วหนเล่า พวกมันพัฒนาภาษากายเพื่อเอาตัวรอดในสังคม แน่นอน โดเรียนย่อมเคยนัดแนะกับฟอร์สไว้เบื้องต้น และสัญญาณเมื่อครู่หมายถึง : อย่าเพิ่งเข้าใกล้ อยู่ห่างเอาไว้ก่อน!
สุภาพบุรุษหนุ่มด้านหลังเผยสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็เดินเข้ามาถมช่องว่างของฟอร์สพร้อมกับกดหมวกขอบคุณ
ถนนด้านนอกยังคงมีฝนตกพรำ ฟอร์สตัดสินใจเดินวกวนผ่านหลายซอยหลากถนน ก่อนจะเช่ารถม้าตรงไปยังโรงแรมแฮตทริกบนถนนปรารถนา เขตเชอร์วู้ด ซึ่งโดเรียน·เกรย์จองไว้ล่วงหน้า
อาศัยประสบการณ์หลายปีจากชุมนุมลับในกรุงเบ็คลันด์ ฟอร์สเช่าห้องข้างเคียงที่สามารถมองเห็นถนน มองไปนอกหน้าต่างอย่างใจเย็น คอยสังเกตแขกเข้าออกโรงแรม
ในที่สุด เธอเห็นโดเรียน·เกรย์ลงจากรถม้า ย่างกรายผ่านประตูโรงแรม
ฟอร์สรีบหมุนตัว เดินไปซ่อนตรงมุมบันได จนกระทั่งพบอาจารย์ของตนถูกพนักงานโรงแรมนำทางขึ้นมา
รอสักพักจนมั่นใจ หญิงสาวถอดหมวก ขยี้หัวตัวเองให้ผมกระเซิง เดินไปหยุดยืนหน้าห้องหมายเลข 2016 พร้อมกับเคาะประตู
แผนการของเธอไม่ซับซ้อน หากโดเรียน·เกรย์ยืนยันว่าเหตุการณ์ปรกติ เธอก็จะเข้าไป แต่ถ้าไม่ เธอจะแสร้งทำเป็นเข้าห้องผิด หรือไม่ก็ทำตัวเป็นโสเภณีที่กำลังมองหาลูกค้า
ประตูห้องบรรจงเปิดพร้อมกับเสียงเสียดสีของแผ่นไม้ โดเรียน·เกรย์จ้องฟอร์สสักพัก ก่อนจะมองไปยังทางเดินด้านหลัง
จากนั้น มันยกมือขวาขึ้น กางออกห้านิ้วและทาบลงบนกระดุมเม็ดที่สอง
สัญญาณดังกล่าวหมายถึง ทุกสิ่งอยู่ในการควบคุม ความผิดปรกติได้จบลงแล้ว
ฟอร์สหายใจทั่วท้อง รีบพรวดเข้าไปในห้อง
“อาจารย์ เกิดอะไรขึ้นหรือคะ?” หญิงสาวซักถามด้วยสีหน้าและน้ำเสียงเจือความกังวล
โดเรียนปิดประตู เผยรอยยิ้มขื่นขม
“บังเอิญเห็นคนรู้จักเข้า”
มันถอนหายใจพลางกล่าวเสริม
“ศัตรูน่ะ”
อีกฝ่ายคืออดีตศิษย์ของโดเรียน โดยในภายหลังได้ก่อกบฏร่วมกับ ‘นักท่องเที่ยว’ โบทิสจนเหล่าอาวุโสของตระกูลอับราฮัมได้รับความเสียหายใหญ่หลวง
เท่าที่โดเรี่ยนทราบ อดีตศิษย์ของตนได้เข้าร่วมกับชุมนุมแสงเหนือและอาจเป็นหนึ่งในยี่สิบสองผู้ส่งสารแห่งเทพ
“หน้าตาเป็นเช่นไร แข็งแกร่งแค่ไหนคะ?”
ฟอร์สถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
โดเรียนเงียบสักพัก อธิบายอย่างคร่าว
“ผม ลอว์เรนซ์ ลาโบโร่ และอาริสา พวกเราเป็นสมาชิกขององค์กรแห่งหนึ่ง โดยภายหลังถูกใครบางคนทรยศจนได้รับความเสียหายร้ายแรง ชายคนนั้นคือหนึ่งในผู้ทรยศ”
มันมิได้เล่าถึงตระกูล มิได้เล่าถึงความขัดแย้งระหว่างศิษย์ภายนอกและสมาชิกสายเลือดแท้ของอับราฮัม เนื่องจากเกรงว่าฟอร์สอาจมีอารมณ์ร่วมโดยไม่จำเป็น
“น่ารังเกียจมาก!” ฟอร์สพลันฉุนเฉียวเมื่อหวนนึกถึงความใจดีของอาริสาและลอว์เรนซ์
“เอาล่ะ เลิกคุยเรื่องน่าหงุดหงิดกันดีกว่า”
โดเรียนนำแผ่นกระดาษที่ถูกพับทบหลายชั้นออกจากช่องลับกระเป๋าเสื้อ ส่งให้ฟอร์สและกล่าว :
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ