ราชันเร้นลับ 655 – ตอนที่ต้องอ่านของ ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ
ตอนนี้ของ ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายInternetทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ราชันเร้นลับ 655 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
มันไม่มั่นใจอีกต่อไปว่า ‘นักโทษ’ ที่สวมเสื้อคลุมลินินผู้นี้เป็นเพียงมนุษย์ปรกติ!
ขณะเดียวกัน อัศวินตาแดงที่สวมชุดเกราะเต็มอัตราศึกและมีใบหน้าเหมือนกับเลโอมาสต์ทุกประการ ยกแขนง้างดาบใหญ่ยาวไปด้านหลัง
ตึง!
มันก้าวเท้ามาด้านหน้าและเหวี่ยงดาบอย่างรวดเร็วจนไคลน์มองตามไม่ทัน
ไคลน์ที่กำลังหันหน้าให้อีกฝ่าย รีบยกคทาเทพสมุทรขึ้นตามสัญชาตญาณพร้อมกับทำให้อัญมณีสีน้ำเงินเปล่งแสง
ฟ้าว!
พายุเฮอร์ริเคนพลันก่อตัวจากความว่างเปล่ารอบไคลน์ ช่วยปกป้องตัวมันที่กำลังยืนอยู่ ณ ใจกลางตาพายุ
ฟุ่บ! ลำแสงสีดำตัดผ่าอากาศ วังวนสายลมเริ่มสลายตัวทีละชั้นพร้อมกับกระจัดกระจายออกไปทุกทิศ ส่งผลให้ห้องโถงด้านนอกสั่นสะเทือนหนักหน่วง
บึ้ม!
ด้วยอำนาจของดาบใหญ่สีดำ พายุเฮอร์ริเคนส่งเสียงระเบิดคำราม ณ ใจกลางและแปรสภาพกลายเป็นคลื่นอัดอากาศแผ่ไปรอบตัว เศษข้าวของเครื่องใช้ปลิวลอยกระจัดกระจาย
การปะทะอย่างดุเดือดส่งผลให้โลกความฝันถูกสั่นคลอน สติไคลน์เริ่มหลุดลอย ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกลิ้งตัวหลบสองตลบ
ตุ้บ!
มันตกจากเตียงนอนลงมายังพื้นห้องโดยสาร จากนั้นก็ลืมตา
นักบุญมืดเก่งกาจสมชื่อ… หรือควรพูดใหม่ว่า เป็นเพราะเราไม่เคยใช้คทาเทพสมุทรบนโลกความจริงมาก่อน จึงจินตนาการพลังของมันไม่ออก ส่งผลให้ดึงประสิทธิภาพออกมาไม่ได้เต็มที่ในความฝัน… เดี๋ยวนะ… นี่ยังกลางคืนอยู่! ไคลน์เพิ่งตระหนักถึงปัญหา
แสงแดดยามเที่ยงยังไม่สาดเข้ามาจากหน้าต่าง!
มันตื่นขึ้นเพราะถูกกระทบกระเทือนอย่างหนักในความฝัน มิใช่การตื่นตามธรรมชาติ!
หรือก็คือ ไคลน์ต้องรีบทำให้ตัวเองหลับ ไม่อย่างนั้นอาจได้อันตรธานหายไปในค่ำคืนอันมืดมิดโดยที่ไม่มีใครพบตัวอีกเลย!
หลังจากความคิดข้างต้นเล่นผ่าน ไคลน์ตัดสินใจดันมือขวาลงบนพื้น ดีดตัวขึ้น ลอยกลับมาอยู่บนเตียงในท่านอน
มันรีบจินตนาการภาพวัตถุทรงกลมซ้อนทับหลายชั้น ส่งตัวเองเข้าสู่ห้วงความฝันอย่างรวดเร็ว
ระหว่างนั้น ไคลน์เหลือบมองไปนอกหน้าต่างและพบกับบรรยากาศยามค่ำคืนอันมืดมิด หนาวเหน็บ และเงียบสงัด ปราศจากกลิ่นอายความชั่วร้าย
ในเวลาเดียวกัน มันมองเห็นอย่างเลือนรางว่า บนท้องทะเลในจุดห่างไกลจากเรือ มีกลุ่มหมอกจับตัวลอยอยู่เหนือผิวน้ำ ใจกลางทะเลหมอกมียอดวิหารแหลมสภาพเก่าแก่ สีดำล้วน ปราศจากหอระฆัง ด้านบนมีอีกาดำลอยอยู่ คล้ายกับกำลังประกอบพิธีกรรมรำลึกถึงบางสิ่ง หรือไม่ก็ไว้ทุกข์ให้กับบางสิ่ง
รอบวิหารยังมีอาคารอีกหลายแห่ง ทั้งบ้านสองชั้นทั่วไป บ้านไม้เรียบง่าย ร้านขนมปังที่มาพร้อมป้ายแขวน รวมถึงโรงสีข้าวสีขาวอมเทาขับเคลื่อนด้วยพลังกังหันน้ำ… ผู้คนเดินผ่านไปมาตามท้องถนน เงารางลึกลับ ยากจะทราบถึงสถานการณ์ที่แน่ชัด
ภาพลวงตา? นั่นคือต้นตอของอันตรายในยามกลางคืน? ผู้สูญหายทั้งหมดถูกพาตัวไปยังที่ใดสักแห่งโดยปราศจากสติ? เมื่อไคลน์ตื่นขึ้นอีกครั้งในโลกความฝัน คำถามที่เคยเกิดขึ้นในช่วงก่อนหน้า ล้วนถูกส่งต่อมาถึงปัจจุบันผ่านจิตใต้สำนึก
ชายหนุ่มรวบรวมสติ อัญเชิญคทาเทพสมุทรออกจาก ‘เขตพิเศษภายในโลกวิญญาณ’ !
มันยังไม่ลืมว่า ในนโลกความฝันคราวก่อน ตนกำลังต่อสู้อย่างดุเดือดกับนักบุญมืด!
จากนั้น แสงสว่างสีทองสลัวเริ่มปรากฏขึ้นในดวงตาทั้งสองของไคลน์ ทัศนวิสัยชายหนุ่มพลันกลับมาสว่างไสวและชัดแจ้ง
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เห็นตรงหน้ามิใช่อัศวินร่างใหญ่สวมชุดเกราะสีดำ มิใช่เลโอมาสต์ในเสื้อคลุมลินิน หากแต่เป็นกระจกหน้าต่างฝรั่งเศสเต็มบานสูงจากพื้นจรดเพดาน ด้านนอกมีแสงอาทิตย์ยามพลบค่ำ
หน้าต่างใสสะอาดหมดจด ช่วยให้เห็นแสงแดดอันบริสุทธิ์ผุดผ่องที่ยากจะอธิบายเป็นคำพูด
ใกล้กันกับหน้าต่างคือโต๊ะยาวลายไม้และเก้าอี้สีน้ำตาล รวมไปถึงชั้นหนังสือหลายแถวที่เต็มไปด้วยหนังสือจำนวนมาก
ห้องสมุด? หรือหอสมุด? ทุกครั้งที่เราเข้าสู่ความฝันจะถูกสุ่มจุดเริ่มต้น? ไคลน์สำรวจรอบตัวอย่างไม่ประมาท จนกระทั่งยืนยันได้ว่าปลอดภัย ปราศจากนักบุญมืดหรือสัตว์ประหลาดอันตราย
ชายหนุ่มถือคทาเทพสมุทรเดินมาทางหน้าต่างฝรั่งเศส กวาดตาตรวจสอบโดยรอบ
สิ่งที่เตะตาที่สุดคือทิวแถวอาคารหรูหราฝั่งตรงข้ามซึ่งมีอาณาเขตปกคลุมยอดเขาทั้งลูก ไม่ว่าจะพระราชวังขนาดมหึมา หอคอยยอดแหลม หรือกำแพงเมืองเด่นสง่า ล้วนอยู่ในสภาพหยุดนิ่งคล้ายกับกระแสเวลาถูกแช่แข็ง งดงามจนมิอาจบรรยายให้เห็นภาพชัด
ถึงจะเคยเห็นมาก่อนแล้ว แต่ไคลน์ก็อดไม่ได้ที่จะกลั้นหายใจ สายตาดื่มด่ำไปกับทัศนียภาพอันน่าหลงใหลอย่างเงียบงันนานหลายวินาที
จากนั้น มันเบือนหน้าไปทางผาชันและได้พบกับกำแพงสูงของอารามสีดำ มองเห็นต้นไม้เหี่ยวเฉาข้างหินก้อนใหญ่ แต่เนื่องจากมีอุปสรรคบดบัง จึงยืนยันไม่ได้ว่าพลเรือเอกดวงดาว แคทลียา ยังอยู่ในจุดเดิมหรือไม่
ค่อนข้างแน่นอนแล้วว่า ตัวเราจะถูกสุ่มจุดเริ่มต้นจากขอบเขตที่กำหนด นอกเหนือจากนั้นไม่ได้… เรากำลังอยู่ที่ใดสักแห่งลึกเข้าไปในอารามสีดำ? ไคลน์ถอนสายตาพลางครุ่นคิด จากนั้นก็ย่างกรายไปทางชั้นหนังสือ
มันยังไม่ว่างวิเคราะห์เหตุการณ์เกี่ยวกับนักบุญมืดและเลโอมาสต์ เนื่องจากต้องตรวจสอบสถานการณ์ปัจจุบันให้แน่ชัดเสียก่อน
เมื่อเข้าใกล้ชั้นหนังสือ ไคลน์พบว่าหนังสือแต่ละเล่มล้วนมีชื่อเขียนไว้อย่างเด่นชัด ไม่เหมือนกับภาพความฝันตามปรกติที่มักคลุมเครือ
น่าเสียดายที่กลับไปความฝันเดินไม่ได้… ไม่อย่างนั้น เราจะช่วยพาเลโอมาสต์ด้านดีไปจำกัดเลโอมาสต์ชั่วร้าย—นักบุญมืด ด้วยคทาเทพสมุทร และความเสียหายที่เกิดขึ้นในความฝัน ย่อมต้องส่งกระทบไปถึงโลกความจริง…
หากลงเอยเช่นนั้น ‘นักบุญ’ ผู้มีจิตใจขาวสะอาดและรู้จักชุมนุมแสงเหนือทุกซอกทุกมุมจะถือกำเนิดขึ้น เป็นก้าวแรกสู่ความล่มสลายขององค์กรลับชั่วร้ายอันโด่งดัง… ไคลน์ถอนหายใจแผ่ว ตามด้วยการหมุนตัวครึ่งรอบไปมองแอนเดอร์สัน·ฮู้ดที่เพิ่งเดินออกจากเขตห้องโดยสาร
“นายอยู่ตรงไหนของโลกความฝัน? ฉันไม่เห็นนายเลย” นักล่าที่แข็งแกร่งที่สุดซักถามอย่างเป็นกันเอง
ไคลน์ขมวดคิ้วและถามกลับ
“แล้วทำไมนายต้องเห็น?”
แอนเดอร์สันพลันผงะ
“ไม่ใช่ว่าความฝันของพวกเราจะเริ่มต้นที่จุดเดิมเมื่อเข้าไปหรอกหรือ?”
“…”
แต่ฉันสุ่มจุดเริ่มต้น… ยังมีปัจจัยอื่นอีกหรือ? เป็นเพราะความพิเศษของเรา? ไคลน์เริ่มพบว่าเรื่องราวมิได้ราบเรียบดังที่ตาเห็น
มันตอบกลับหลังจากใคร่ครวญ
“ฉันไปโผล่จุดอื่น”
“แปลกมาก…” แอนเดอร์สันขมวดคิ้ว สีหน้าค่อนไปทางสับสน
โดยไม่รอให้ไคลน์พูด มันกล่าวหลังจากไตร่ตรอง
“และไม่ใช่แค่เรื่องนี้ที่แปลก”
“อะไรอีก?” ไคลน์ถามอย่างใคร่รู้
แอนเดอร์สันมองไปรอบตัวและพูด
“ในความฝันล่าสุด ขณะกำลังแสร้งทำเป็นต่อเรือบด ฉันได้ยินเสียงเปิดประตูถึงเสียงฝีเท้าใครบางคนดังมาจากส่วนลึกของอาราม แต่เมื่อลองมองเข้าไปกลับไม่พบสิ่งใด… ฉันเคยคิดว่าคงเป็นใครสักคนบนเรือ แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่แบบนั้น”
…………………………………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ