ราชันเร้นลับ 694 – ตอนที่ต้องอ่านของ ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ
ตอนนี้ของ ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายInternetทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ราชันเร้นลับ 694 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
เพลิงพิโรธเงยหน้า ฝืนยิ้มและกล่าว
“ถึงจะเคยบาดเจ็บมาหลายครั้ง แต่ฉันก็ยังกลัวเจ็บอยู่ดี”
“อยากจะพูดอะไร” ไคลน์ตอบเสียงเย็น
เดนิสหัวเราะแห้ง
“ฮะฮะ… ฉันก็แค่กลัวเจ็บนิดหน่อย”
เมื่อกล่าวจบ เดนิสออกแรงกดมือขวา เฉือนหลังมือซ้ายด้วยกริชทองแดง คล้ายกับใช้ประโยคเมื่อครู่ในการเบี่ยงเบนความสนใจ ช่วยให้ลืมความกลัวไปชั่วขณะ
เลือดสีแดงเริ่มไหลซึม เดนิสรีบวางมีดลงพร้อมกับใช้นิ้วมือขวาป้ายเลือดละเลงบนปกหนังสัตว์สีน้ำตาลของ ‘การเดินทางของกรอซาย’
เดนิสกลั้นหายใจสักพัก รอการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น
ทันใดนั้น เกล็ดหิมะขนาดเท่าขนห่านพลันปรากฏขึ้นตรงหน้าพร้อมกับเสียงลมหวีดดังแว่วข้างหู ตามด้วยสายลมอันหนาวเหน็บที่พยายามแทรกซึมเข้ามาในร่างกาย
แม้จะเตรียมใจไว้แล้ว แต่เดนิสกลับยังตื่นตระหนกนานหลายวินาที จนกระทั่งได้สติกลับมาจึงรีบสำรวจรอบตัว พยายามยืนยันที่อยู่ปัจจุบันของตน
มันถูกย้ายตำแหน่งจากห้องกัปตันของฝันทองคำ มายังดินแดนอันเย็นยะเยือกซึ่งมีพายุหิมะปกคลุมหนาแน่นโดยไม่รู้ตัว สภาพอากาศเลวร้ายเสียจนมองไม่เห็นทางเดินข้างหน้า มิอาจบอกได้กระทั่งว่าตนอยู่บนภูเขาหรือทุ่งกว้างกันแน่
เราถูกส่งเข้ามาในโลกแบบไหน? กัปตันเองก็อยู่ที่นี่ด้วย? เดนิสรีบยกมือปิดหน้า กลัวว่าจะตาบอดเพราะแรงลมและหิมะ
หลังจากเริ่มใจเย็น เดนิสหวนนึกถึงสิ่งที่เกอร์มัน·สแปร์โรว์เคยกำชับ จึงรีบหยิบกระดาษพับออกจากกระเป๋ากางเกง คลี่ออกอย่างระมัดระวัง
ระหว่างกำลังลงมือ มันกังวลว่าจะเกิดเหตุไม่คาดฝันทำให้กระดาษแผ่นนี้ขาดหรือปลิวไปตามแรงลม นั่นจะทำให้ความหวังในการรอดชีวิตจบสิ้นทันที แต่โชคดีที่เรื่องแบบนั้นไม่เกิดขึ้น เดนิสตั้งใจอ่านข้อความจากเกอร์มัน·สแปร์โรว์อย่างละเอียด
“จงท่องพระนามเต็มอันศักดิ์สิทธิ์ของท่านผู้นี้ด้วยภาษาเฮอร์มิส จะดีที่สุดหากใช้ภาษาเฮอร์มิสโบราณ”
“เดอะฟูลจากต่างยุคสมัย”
“ผู้ปกครองลึกลับเหนือห้วงสายหมอกเทา”
“ราชันเหลืองดำผู้ครองพลังโชคลาภ”
“อ่านจบให้รีบเผาทิ้ง”
นี่มัน…! ตัวตนลึกลับระดับทวยเทพ? เนื่องจากคาบเรียนของพลเรือโทธารน้ำแข็งเข้มงวดอย่างมาก เดนิสจึงพอจะมีความรู้ในเชิงศาสตร์เร้นลับอยู่บ้าง โดยเฉพาะหลักการขั้นพื้นฐาน
ขณะยืนจ้องกระดาษโน้ตบนมือ เดนิสเผลอสูดไอความเย็นและเกล็ดหิมะเข้าไปโดยไม่รู้ตัวจนเกิดอาการคันคอและไอกระแอมรุนแรง สีหน้าบิดเบี้ยวชัดเจน
อย่างไรก็ตาม มันสามารถยืนยันข้อสันนิษฐานเก่าได้หนึ่งเรื่อง
เกอร์มัน·สแปร์โรว์เป็นสมาชิกขององค์กรลึกลับทรงพลัง และพวกเขานับถือเทพผู้มีนามว่า ‘เดอะฟูล’ !
กะแล้วเชียว… บุคคลที่แข็งแกร่งและเสียสติแบบนั้นไม่มีทางเกิดจากอากาศ ต้องมีคนคอยสนับสนุนเบื้องหลัง… เดนิสขยับปกเสื้อและจัดระเบียบเครื่องแต่งกาย สายตาก้มมองกระดาษโน้ตในมือซึ่งกำลังพัดกระพือตามแรงลม สีหน้าเผยความลังเลชัดเจน
มันตระหนักดีว่า การเอ่ยนามพระเต็มของตัวตนลึกลับมีความเสี่ยงสูงเพียงใด หากโชคร้าย จุดจบอาจต้องทุกข์ทรมานยิ่งกว่าความตาย!
แต่กัปตันถูกขังอยู่ที่นี่… และเหนือสิ่งอื่นใด เราไม่รู้วิธีกลับ… เดนิสกำหมัดแน่นพลางเม้มริมฝีปาก
จากนั้น มันประสานมือพร้อมกับท่องพระนามเต็มของเดอะฟูลด้วยภาษาเฮอร์มิสโบราณ
…
ภายในห้องกัปตันของฝันทองคำ
ไคลน์ซึ่งเห็นเดนิสกลายเป็นภาพมายาและหายตัวไปอย่างไร้เหตุผล หมดข้อสงสัยในวิธีการเข้าสู่ ‘การเดินทางของกรอซาย’
อดทนรอสักพักจนกระทั่งเสียงสวดวิงวอนดังแว่ว ไคลน์ยืนยันว่าเป็นเสียงของผู้ชาย
ฟู่ว… ดูเหมือนว่า ‘การเดินทางของกรอซาย’ จะไม่สามารถปิดกั้นพลังของมิติเหนือสายหมอก โลกภายในหนังสือจึงยังเชื่อมต่อกับมิติลึกลับ… ถ้าเป็นแบบนี้ ตัวเราที่ตามเข้าไปช่วยก็ยังเหลือไพ่เด็ดสำหรับพลิกสถานการณ์… ไคลน์โล่งใจไปหลายส่วน
เพื่อยืนยันให้แน่ชัด ชายหนุ่มเดินถอยหลังสี่ก้าว พึมพำคาถาเพื่อส่งตัวเองเข้าไปในมิติเหนือสายหมอก จนกระทั่งมองเห็นแสงสว่างตัวแทนเดนิสกำลังยุบพองในจุดใกล้กับเก้าอี้พนักสูงของเดอะฟูล
ร่างเนื้อและร่างวิญญาณถูกส่งเข้าไปพร้อมกัน… พิจารณาจากความแข็งแรงของโลกภายในหนังสือ ลำพังการดึงร่างวิญญาณออกมาคงไม่เพียงพอที่จะตัดขาด… นอกจากนั้น หากสามารถใช้วิธีดังกล่าวได้จริง การทำนายครั้งก่อนของเราก็ควรได้ผลลัพธ์… คงอันตรายเกินไปที่จะใช้คทาเทพสมุทรเพื่อมอบพรให้เดนิส นั่นอาจเป็นการเร่งให้เขาตายเร็วขึ้น… ไคลน์หรี่ตาลง หลังจากแผ่พลังวิญญาณเข้าไปตรวจสอบ ชายหนุ่มได้ข้อสรุปมากมาย
โดยไม่รีรอ ไคลน์ส่งตัวเองกลับโลกความจริง หยิบกริชทองแดงและใช้กระดาษเช็ดเลือดเดนิสออก
พับกระดาษแผ่นดังกล่าวเก็บใส่กระเป๋า ชายหนุ่มครุ่นคิดวางแผน
ดูเหมือนว่าวิธีที่ดีที่สุดคือการป้ายเลือดลงบนปกโดยตรง จะได้ไม่ต้องคอยพะวงอันตรายซึ่งอาจเกิดขึ้นกับร่างเนื้อ… และเหนือสิ่งอื่นใด ตัวเราสามารถสะสางปัญหาได้รวดเร็ว
แต่นั่นก็ยังไม่ปลอดภัยเสียทีเดียว เราต้องคอยระวังภัยคุกคามทุกชนิดที่อาจเกิดขึ้นบนเรือ ยกตัวอย่างเช่น… ใครสักคนซึ่งเป็นตัวปัญหา แอบเข้ามาในห้องกัปตันและสังเวย ‘การเดินทางของกรอซาย’ ให้กับพระผู้สร้างแท้จริง แม่มดบรรพกาล หรือปราชญ์เร้นลับ นั่นคงเป็นนรกที่แย่ยิ่งกว่าความตาย…
จากการประเมินของเรา ลูกเรือทุกคนล้วนชื่นชอบพลเรือโทธารน้ำแข็ง ยืนยันได้จากการที่แอนเดอร์สันสามารถเบนเป้าความเกลียดชังมาหาเราสำเร็จด้วยคำพูดเพียงไม่กี่ประโยค… ดังนั้น เราควรบอกกับพวกเขาว่า ชีวิตของพลเรือโทธารน้ำแข็งกำลังตกอยู่ในอันตราย ห้ามให้ใครเข้ามาในห้องกัปตันโดยเด็ดขาด ทุกคนจะได้ช่วยกันสอดส่องและระแวงกันเอง… ต้องได้ผลแน่…
ยังแอนเดอร์สันที่เป็นปัญหา… หมอนั่นคือนักล่าอันดับหนึ่ง แข็งแกร่งกว่าผู้วิเศษคนใดบนเรืออย่างชัดเจน แถมยังเชี่ยวชาญการซุ่มโจมตีและอำพรางตัว สามารถหลบเลี่ยงสายตาคนอื่นเข้ามาในห้องกัปตันได้ไม่ยากเย็น… ชายคนนั้นมีที่มาที่ไปไม่ชัดเจน เราไม่ควรวางใจเต็มร้อย…
ไม่มีทางเลือก… คงต้องโน้มน้าวให้แอนเดอร์สันเข้ามาใน ‘การเดินทางของกรอซาย’ พร้อมกับเรา…
ท่ามกลางกระแสความคิดหลากหลาย ไคลน์พลิกอ่านหนังสือเล่มเล็กซึ่งปกทำจากกระดาษหนังสัตว์สีน้ำตาลอ่อน หลังจากตรวจสอบสักพัก ชายหนุ่มยังไม่พบเรื่องราวใหม่ของเดนิสปรากฏขึ้น
นึกว่าจะสนใจเสียอีก… ไม่ยอมปล่อยใจไปตามสัญชาตญาณ แต่รู้จักถอยในจังหวะควรถอย… เข้าใจแล้ว สงสัยต้องลองใช้วิธีข่มขู่ หากยังไม่ได้ผลอีก คงต้องโยนหมอนี่ออกจากเรือและบอกให้ฝันทองคำแล่นออกไปกลางทะเล ค่อยกลับมารับหลังจากเสร็จภารกิจ… ในฐานะนักล่าอันดับหนึ่ง การเอาชีวิตรอดบนเกาะร้างคงไม่ใช่เรื่องยาก… ไคลน์วางแผนเสร็จสรรพ สายตาเปลี่ยนเป็นเย็นชาขณะจ้องหน้าแอนเดอร์สัน
“ฉันจะไม่ปล่อยให้ตัวเองต้องเผชิญความเสี่ยง”
แอนเดอร์สันนิ่งเงียบไปสักพัก ก่อนจะยิ้มและตอบ
“ฮะฮะ! ล้อเล่นน่ะ ที่จริงแล้วฉันสนใจการล่ามังกรมาก!”
“…” เปลี่ยนท่าทีเร็วชะมัด… หึหึ ถ้านายยังดึงดันจะปฏิเสธก็เตรียมหาอะไรกินบนเกาะร้างได้เลย… ไคลน์พยักหน้ารับ เดินทางยังโต๊ะอ่านหนังสือและกล่าวกับแอนเดอร์สัน·ฮู้ดด้านหลัง
“ป้ายเลือดลงบนปกหนังสือ แค่นิดเดียวก็พอ”
“ป้ายเลือด?” แอนเดอร์สันจ้อง ‘การเดินทางของกรอซาย’ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น กวาดตามองไปรอบตัว “การหายตัวไปของเอ็ดวิน่าเกี่ยวข้องกับหนังสือเล่มนี้? เจ้านักล่าไม่ได้ความนั่นก็ด้วย? จริงสินะ รู้สึกหมอนั่นจะชื่อว่าเดนิส เกือบจำไม่ได้แล้ว โชคดีว่าค่าหัวเพิ่มขึ้นจากเดิมนิดหน่อยในตอนหลัง”
มุมปากไคลน์กระตุกเบา ๆ พลางตอบกลับอย่างสุขุม
“ถูกต้อง”
“น่าสนใจดีนี่” แอนเดอร์สันเหลือบมองไปทางโต๊ะอ่านหนังสือ หยิบกริชทองแดงขึ้นมากรีดแขนเป็นแผลเล็ก ๆ แค่พอให้เลือดออก
จากนั้น มันวางมีดลงอย่างระมัดระวังและป้ายเลือดลงบนปกของ ‘การเดินทางของกรอซาย’
หลังจากเฝ้ามองความเปลี่ยนแปลงสักพัก ขณะแอนเดอร์สันเตรียมเช็ดเลือดออกจากกริชทองแดง ทัศนียภาพของมันพลันถูกปกคลุมด้วยพายุหิมะโหมกระหน่ำ
เมื่อเห็นแอนเดอร์สันหายตัวไปในลักษณะเดียวกันเดนิส ไคลน์หยิบกระดาษแผ่นใหม่ออกมาเช็ดเลือดจากกริชทองแดงและพับเก็บใส่กระเป๋า
ไคลน์ไม่มั่นใจว่าทั้งสามคนจะโผล่ในจุดเดียวกันหรือไม่ จึงเตรียมสื่อกลางสำหรับใช้เทคนิค ‘ตามหาคนด้วยแท่งวิญญาณ’ ไว้ล่วงหน้า!
จัดการเสร็จ ไคลน์นำคมกริชเงินวางบนหลังมือตัวเอง
กล้ามเนื้อใบหน้าขยับเล็กน้อย สายตามองต่ำเฉียงไปทางด้านข้าง สูดลมหายใจเข้าสักพักก่อนจะออกแรงกรีด
ร่างกายกระตุกแผ่วเบา ศีรษะเบือนไปด้านข้างพร้อมกับอ้าปากเล็กน้อย
รอจนกระทั่งเลือดไหล ไคลน์ซึ่งยังคงถือกริชทองแดง รีบคว้าไม้ค้ำคู่กายและป้ายเลือดลงบนปกหนังสือ
เพียงพริบตา ชายหนุ่มพบว่าตนถูกส่งมายังโลกแห่งหิมะสีขาวโพลน
…………………………………………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ